Sigrid ปล่อย “How To Let Go” อัลบั้มที่ควรค่าแก่การรอคอย

“คอนเซ็ปต์อัลบั้ม How To Let Go คือเรื่องราวที่ฉันได้เรียนรู้จากชีวิตที่เดินผ่านมา แค่ปล่อยวางสิ่งที่คุณเคยยึดมั่น คนที่เคยทำร้ายคุณ หรือสถานการณ์ต่างๆ ที่เราเคยทำตัวงี่เง่า ชีวิตคือการปล่อยวางแล้วก้าวต่อไป ซึ่งอาจฟังดูง่าย แต่คุณก็ต้องลองทำมันถึงแม้จะทำไม่ได้ทุกครั้งก็ตาม” - Sigrid

Sigrid - How To Let Go

Sigrid ศิลปินสาวนอร์เวย์วัย 25 ปี กับอัลบั้มใหม่ชุดที่ 2 How To Let Go ที่ปล่อยออกมาให้ฟังกันเต็มๆ แล้ววันนี้ จากค่าย Island Records หลังจากที่ก่อนหน้าเธอได้ทยอยแนะนำอัลบั้มนี้ด้วยซิงเกิลอย่าง “It Gets Dark” และ “Bad Life” เพลงความหมายดีที่ให้พลังบวกที่ได้มาร่วมงานกับศิลปินสุดเท่ Bring Me The Horizon ซึ่งซิงเกิลนี้ได้รับกระแสการตอบรับอย่างดีมากตั้งแต่เปิดตัว

นับตั้งแต่ Sigrid ก้าวขึ้นสู่การเป็นศิลปินแนวหน้าเพลงป็อปในปี 2017 เธอจุดประกายความแพรวพราวด้านการร้องและแสดงบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่งาน Eventim Apollo ของลอนดอน ในปี 2019 การเขียนเพลงของเธอนั้นได้แรงบันดาลใจจากนักร้องที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ Stevie Nicks ถึง Carole King และ Freddie Mercury จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ Sigrid จะทำให้แฟนเพลงรู้สึกได้ถึงพลังงานจากตัวตนของเธออย่างแท้จริง เธอสามารถส่งต่ออารมณ์ทั้งหมดของเธอออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ เมื่อฤดูร้อนที่แล้ว Sigrid กลายเป็นศิลปินหญิงที่มีค่าตัวสูงที่สุดใน Main Stage ของงาน Reading & Leeds และฤดูหนาวที่จะมาถึงนี้จะมีการแสดงสดของเธอที่สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ ทั้ง Glastonbury, Standon Calling, Isle of Wight Festival, TRNSMT และ Mad Cool โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงใหญ่ที่ SSE Arena ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2022

สำหรับอัลบั้ม How To Let Go ประกอบด้วย 12 แทร็กที่ถูกเขียนขึ้นในช่วงเวลาที่ Sigrid กำลังครุ่นคิดถึงชีวิตของเธอในนอร์เวย์และชีวิตของเธอในต่างประเทศ “ความแตกต่างของชีวิต ในด้านหนึ่งที่ชอบเล่นสกี ปีนเขา และทำอาหาร ใช้ชีวิตสบายๆ อยู่กับตัวเอง แต่กับอีกด้านหนึ่งที่ฉันก็พร้อมจะออกไปสนุกกับโลกภายนอก ขึ้นแสดงบนเวทีใหญ่ๆ ที่มีคนจำนวนมากมายโดยไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ซึ่งจริงๆ แล้วในวัยเด็กฉันเป็นคนขี้อายมาก แต่แล้วเมื่อฉันอยู่บนเวทีที่กลาสตันเบอรี ฉันกลับหลงไหลในช่วงเวลานั้น” Sigrid กล่าวต่อ “บางครั้งคุณก็รู้สึกสับสน ขัดแย้งกับความต้องการของตัวเอง แต่แล้วก็ตระหนักได้ว่าบางครั้งก็ต้องปล่อยให้ชีวิตมันเป็นไป แค่ใช้ชีวิตในแบบที่คุณอยากจะเป็น”