ยอดวิวพุ่ง! ข้าวทิพย์ ธิดาดิน ส่งเอ็มวี “ไผว่าสิบ่ตั๋ว” จากปมอาถรรพ์ความรัก “สาวโรงงานน้ำตา”

แฟนเพลงหลายๆ คนยังคงรอคอยมิวสิกวิดีโอ EP.2 ของสาวหมอลำส่ำน้อย ข้าวทิพย์ ธิดาดิน ที่ทิ้งปริศนาค้างคาใจไว้ กับ EP.1 เพลง “สาวโรงงานน้ำตา” ที่เหมือนจะเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น และวันนี้ “ข้าวทิพย์” พร้อมเฉลยเรื่องราวความรักปมปริศนานี้กันแล้ว กับ EP.2 เพลง “ไผว่าสิบ่ตั๋ว” ที่ยกระดับความเข้มข้น ทั้งเพลงและมิวสิกวิดีโอ

เพลง “ไผว่าสิบ่ตั๋ว” นี้เป็นเรื่องราวของหนุ่มสาวโรงงานที่เพิ่งแต่งานกันใหม่ๆ และย้ายมาอยู่หอพักโรงงานน้ำตาลแห่งนี้ แต่อยู่ด้วยกันได้ไม่เท่าไหร่ก็เกิดปัญหาขึ้น เมื่อความรักจากที่เคยให้สัญญากันว่า จะรักกันดูแลกัน ช่วยกันเก็บ ช่วยกันสร้าง กลับพังทลายลง เพราะผีพนันเข้าสิง จึงนำมาซึ่งการทะเลาะรุนแรงและการแยกย้ายกันออกไป

ส่วนสาว “ข้าวทิพย์” ที่เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่ เธอสัมผัสได้พลังงานบางอย่าง ทั้งเสียงสะอื้นไห้ และเงาปริศนาในยามค่ำคืนชวนหลอน ก่อนที่จะเจอภาพปริศนาคู่รักเจ้าของห้องคนเก่าที่ทิ้งไว้ต่างหน้าอีก เธอจะหาคำตอบของอาถรรพ์ความรักห้องหมายเลข 6 นี้ได้อย่างไร ฝากแฟนๆ เข้ามาชมเอ็มวีและหาคำตอบร่วมกันได้แล้ว วันนี้ทางช่อง YouTube : GRAMMY GOLD OFFICIAL และทาง Facebook : ข้าวทิพย์ ธิดาดิน โดยล่าสุดยอดวิวเพลงนี้ผ่านหลัก 2 แสนครั้งแล้ว (นับยอดวิวถึงวันที่ 3 มิถุนายน) 

โดย ข้าวทิพย์ ธิดาดิน เล่าว่า “เพลง “ไผว่าสิบ่ตั๋ว” เป็นเรื่องราวของความรักที่บอบช้ำ ไม่ได้เจ็บแค่ที่ใจ แต่มันคือชีวิตต่อจากนี้ ถ้ารู้ว่าคำสัญญาเป็นแค่คำโกหก หลอกลวง ก็คงไม่คิดที่จะฝากชีวิตไว้ด้วยแน่นอน เพลงนี้แต่งคำร้อง-ทำนองโดย อาจารย์ภานุวัฒน์ วิเศษวงษา และเรียบเรียงดนตรีโดย อาจารย์บรรจง เวียงพล ค่ะ และยังได้ “พี่บอล วิทยา” มากำกับเอ็มวีให้เหมือนเดิมค่ะ  ซึ่งเอ็มวีเพลงนี้จะเฉลยปมอาถรรพ์ที่เล่าลือกันว่า ถ้าใครได้พักอยู่ห้องนี้ ความรักจะไม่สมหวัง และยังเป็นตอนจบของเรื่องราวความรักค้างคาใจต่อจากเอ็มวีเพลงแรก “สาวโรงงานน้ำตา” ค่ะ พอข้าวทิพย์ได้ฟังเพลงและได้ชมเอ็มวีเพลง “ไผว่าสิบ่ตั๋ว” แล้ว รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของคนที่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ค่ะ และพี่ๆ น้องๆ หลายท่านที่ได้ชมเอ็มวีกันไปแล้ว ก็ส่งข้อความคอมเมนท์เข้ามาเยอะเลยค่ะ ว่าเคยเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ “ข้าวทิพย์” ก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่ๆ น้องๆ ที่เคยบอบช้ำในความรัก ในแนวนี้ ขอให้เข้มแข็ง และรักตัวเองมากๆ นะคะ ก้าวไปด้วยกัน เป็นกำลังใจให้กันค่ะ”