Move on จนโคจรมาเจอกัน RD 3 : ค่ำคืนที่ 3 ร็อคสุดเก๋า พิสูจน์ให้แฟนๆ เห็นว่า "พี่ก็คือพี่!"

จากความสนุกของคอนเสิร์ตรอบ 2 ของงาน Move on จนโคจรมาเจอกัน ที่เราได้ชมการแสดงของวง Safeplanet, Tilly Birds และ Polycat ทำให้เราตัดสินใจที่จะชมการแสดงรอบสุดท้ายของวันที่ 4 มิถุนายน ของวง Zeal, Big Ass และ Silly Fools 3 วงร็อคที่หลายคนยกให้เป็นไอดอลทั้งการแสดงและการทำเพลง แม้ว่าเส้นทางพวกเขาจะพบเจอกับหลากหลายการเปลี่ยนแปลง 

• Move on จนโคจรมาเจอกัน RD 2 : เมื่อ 3 วงสไตล์ชัดพาทุกคนมูฟออนด้วยซาวด์ต่างรส

ก่อนหน้านี้เราเคยชมคอนเสิร์ต Zealy Fools ในปี 2019 ที่เป็นการรวมตัวของ Zeal และ Silly Fools ที่เรียกได้ว่าครบเครื่องทั้งความสนุกและวาไรตี้ และนี่ทำให้เรามองว่าการเติม Big Ass เข้ามา ต้องมากับซีนที่จดจำและยากจะลืมอีกแน่นอน 

• "Zealy Fools Concert" สงครามร็อคของ "Silly Fools-Zeal" ที่ยากจะหาผู้ชนะ

ซึ่งการแสดงรอบ 3 เริ่มด้วยวง Zeal ที่มากับเพลง “เหวี่ยง”, “ดาว”, “เจ็บน้อยที่สุด”, “แผลสด”, “เสี้ยม”, “คำสาป”, “พบเพื่อเพียงผ่าน” โดยนอกจากการแสดงสดของ เป๊กซ์-ปราชญ์ พงษ์ไชย (ร้องนำ), เคน-ปรัชญา มีบำรุง (กลอง), ชุ-ณัฐบวร เศรษฐกนก (กีตาร์), ป๊อก-ต่อยศ จงแจ่ม (เบส) และ ศิลา นามเทพ (กีตาร์) ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพแบบอัดแน่นแล้ว เซนส์วาไรตี้ของวงยังเป็นตัวละลายพฤติกรรมได้อย่างดี โดยช่วงที่ร้องเพลง “พบเพื่อเพียงผ่าน” เป๊กซ์ได้ลงมาหาคนดูด้านล่างเวที แต่ก็ยังคงเว้นระยะตามข้อจำกัดสถานการณ์โควิด-19 จนเราหวังว่าข้อจำกัดนี้จะหมดลงโดยเร็ว และเมื่อการแสดงใกล้จบ วงก็มากับเพลง “สองรัก” ที่มีเซอร์ไพรส์พิเศษ อย่างการที่วง Big Ass มาร่วมแจม

ส่วนทางด้านของ Big Ass 5 ขุนพลอย่าง เจ๋ง-เดชา โคนาโล (นักร้องนำ),  หมู-อภิชาติ พรมรักษา (กีตาร์) และ โอ๊ค-พงศ์พันธ์ พลสิทธิ์ (เบส), อ๊อฟ-พูนศักดิ์ จตุระบุล (กีตาร์) และ กบ-ขจรเดช พรมรักษา (กลอง) ก็บุกเวทีพร้อมเพลง “แดนเนรมิต”, “เท่าที่ฉันมี”, “คนไม่เอาถ่าน”, “ยักษ์ใหญ่ไล่ยักษ์เล็ก”, “ปลุกใจเสือป่า” ที่หลายคนร้องตามได้ และในขณะเดียวกันก็สอดแทรกเพลงใหม่จากอัลบั้ม ลายนิ้วมือ อย่าง “ถ้ารู้อย่างนี้” และ “มีความสุขมากๆ นะ” ให้ทุกคนได้ฟังก่อนจะกลับมากับเพลงที่หลายคุ้นเคยอย่าง “อย่างน้อย”,  “ข้าน้อยสมควรตาย” และ “เล่นของสูง” ที่บุคลิกสุดฮึกเหิมของวงและนักร้องนำอย่างเจ๋งได้ทำให้หลายคนลุกขึ้นมาสนุกตั้งแต่ต้นจนจบ และใน 2 เพลงสุดท้ายสมาชิกวง Silly Fools ได้ขึ้นมาแจมแบบจัดหนัก พร้อมรับช่วงต่อแบบจัดหนัก 

ทางฝั่งของ Silly Fools สมาชิกอย่าง ริม-กฤษณะ ปานดอนลาน (ร้องนำ), ต้น-จักรินทร์ จูประเสริฐ (กีตาร์), หรั่ง-เทวฤทธิ์ ศรีสุข (เบส) และ รัตน์ โกบายาชิ (กลอง) ก็มาพร้อมการแสดงสดและเพลงฮิตแบบจัดเต็ม เริ่มจากเพลงปล่อยของอย่าง “บ้าบอ”, “ขี้หึง”, “เมื่อรักฉันเกิด”, “เพลงนี้เกี่ยวกับความรัก” ที่มีการสอดแทรกด้วยเพลงใหม่ของพวกเขาอย่าง “แพ้ความอ่อนแอ” ก่อนกลับมาลุยต่อด้วยเพลง “แกล้ง”, “เพียงรัก”, “วัดใจ” ก่อนที่งานจะจบด้วยเพลง “น้ำลาย” และ “จิ๊จ๊ะ” ที่วง Big Ass และ Zeal ขึ้นมาแจมกันในซีนที่หาดูยาก โดยการแสดงของ Silly Fools และซาวด์สุดล้ำที่มาตั้งแต่อินโทรยันท่อนโซโล่ที่สีสันจัดจ้านก็ยังคงสัมผัสได้ชัดในงานครั้งนี้ ส่วนริมก็สามารถรับหน้าที่ฟรอนท์แมนที่มากับพลังเสียงและเอาคนดูได้อยู่ขณะแสดง

สำหรับการแสดงรอบ 3 ทั้ง 3 วงดนตรีก็ยังคงแสดงภายใต้บรรยากาศที่เรียบง่ายและโชว์ที่ส่งพวกเขาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเวทีหมุนที่ทำให้การเปลี่ยนผ่านแสดงและการแจมที่เกิดขึ้นง่าย ส่วนซาวด์ดนตรีภาพรวมก็ออกมาค่อนข้างดีและไม่ทำให้เรารู้สึกรำคาญแต่อย่างใด และขณะเดียวกันทั้ง 3 วงก็พาจุดเด่นของตัวเองมาโชว์บนเวทีในช่วงเวลาและจำนวนเพลงที่จำกัดจนเราต้องอุทานในใจว่า "พี่ก็คือพี่!" จริงๆ 

แต่สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของงานก็คือการแจม ซึ่งทั้ง 3 วงเรียกได้ว่าจัดหนัก จัดเต็ม และด้วยความเป็นวงที่เติบโตมาในช่วงเวลาเดียวกัน จนทำให้พวกเขาทั้งสามวงสามารถจัดเต็มและวาดลวดลายเวลาอยู่บนเวทีเดียวกันได้เหมาะสม โดยการที่พวกเขาจะมาแจมกันนั้นเกิดขึ้นได้ยาก และเรียกได้ว่าเป็นอะไรที่คุ้มคนดูสุดๆ และการจัดเวทีและเสียงก็ส่งเสริมจุดนี้ได้ดีมาก ต้องขอบคุณผู้จัดจริงๆ ที่ทำให้ภาพนี้เกิดขึ้น

หลังจากชมการแสดง Move on จนโคจรมาเจอกัน ทำให้เราเห็นว่างานนี้เป็นอีกเทศกาลดนตรีกึ่งคอนเสิร์ตที่น่าสนใจมาก ทั้งแง่ไลน์อัพและการรวมศิลปินบนเวทีจนเกิดเคมีใหม่ และด้วยกระแสตอบรับที่ท่วมท้น เราเองหวังว่างานนี้จะกลับมาอีกในอนาคต