จังหวะชีวิตมีขึ้นมีลง "หญิงลี ศรีจุมพล" ถึงเวลายอมรับ และปล่อยวาง
หญิงลี ศรีจุมพล นักร้องลูกทุ่งคนดัง เจ้าของเสียงร้องเพลง "ขอใจเธอแลกเบอร์โทร" เปิดรีสอร์ท "หญิงลีลั้ลลา" ใน อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ต้อนรับทีมข่าว Sanook.com ให้สัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟ อัพเดทความเคลื่อนไหวบนเส้นทางศิลปิน และความเป็นอยู่ปัจจุบัน
ความเคลื่อนไหวบนเส้นทางศิลปิน หญิงลี บอกว่า นับตั้งแต่เธอป่วยหนัก เว้นวรรคจากการทำงานเพื่อรักษาตัวระยะหนึ่ง พอหายป่วยกลับมา ความนิยมในตัวเธอก็ไม่เหมือนเดิม วัดจากงานคอนเสิร์ตที่มีจำนวนน้อยลง แตกต่างจากสมัยที่เธอเฟื่องฟูสุดๆ มีคอนเสิร์ตวันละหลายงาน ต่อเนื่องหลายปี งานอีเว้นท์ พรีเซ็นเตอร์โฆษณา ถาโถมเข้ามาไม่ขาดสาย
"มีคนบอกว่า เอ๊ะเราไม่ดังเหมือนเดิม ขาลง"
"ไม่เถียงค่ะ เพราะว่ามันเป็นความจริง"
"ยิ่งยุคโควิดด้วย ก็ไม่ได้อยู่ในวันที่ฮอตเหมือนเดิม"
หญิงลี บอกต่อ เธอโด่งดังสุดขีด เมื่อปี พ.ศ. 2556 เพลง "ขอใจเธอแลกเบอร์โทร" ได้รับความนิยมสูงมาก ลูกเล็กเด็กแดง คุณพ่อคุณแม่ คุณตาคุณยาย ชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นคนจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ร้องกันได้หมด ดาราศิลปินนำไปร้องออกงานอีเว้นท์ และปาร์ตี้สังสรรค์ มีสีสันทั้งประเทศ มีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตมากมาย ถือว่าประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิตมาแล้ว ปัจจุบัน พ.ศ.2565 เป็นเวลากว่า 10 ปี แล้ว ที่โลดแล่นบนถนนศิลปิน เป็นไปไม่ได้ ที่ความนิยมจะเท่าเดิมไม่ลดลง
"หญิงลีเป็นลูกชาวนานะคะ พื้นฐานมาจากความยากจน เริ่มจากเป็นนักร้องวงดนตรีอิเล็กโทน และก็ไปเรียนหมอลำซิ่ง วันหนึ่งได้เข้าค่ายแกรมมี่ และช่วงหนึ่งก็เป็นขวัญใจมหาชน หญิงถือว่าประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิตแล้วค่ะ"
"วันนี้สิ่งนั้นมันก็คืออดีต ต้องยอมรับความจริงค่ะ แล้วก็ปล่อยวาง เกิดแก่เจ็บตาย เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่มีใครหนีพ้น ชื่อเสียงลาภยศก็เหมือนกันค่ะ ก็ไม่มีอะไรเป็นอมตะ หญิงลีอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับความจริง ดีที่สุดค่ะ สบายกาย สบายใจ"
"หญิงลีป๊อปปูล่าตั้งแต่ปี 55 งานถาโถมเข้ามา ทำให้มีเงินประมาณ 50 ล้าน นี่ก็ปี 65 แล้ว เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วนะคะ มันเป็นไปไม่ได้ที่ความนิยมในตัวเรา จะอยู่เหมือนเดิมไม่ลดลงไปเลย"
หญิงลี บอกต่อ แม้งานคอนเสิร์ตลดลง แต่เธอยังโชคดีที่งานละครเข้ามาทดแทน ขอบคุณผู้ใหญ่ในวงการที่เมตตาให้โอกาส
"ที่ผ่านมาหญิงลีมีภาวะซึมเศร้าด้วยพลังในการแสดงแซ่บๆ มันก็ลดน้อยลง เห็นข่าวไหนเศร้าก็ร้องไห้ตาม เด็กรุ่นใหม่ที่มีความสามารถก็เกิดขึ้นมาเยอะ เป็นเรื่องธรรมดา รุ่นเก่าไปรุ่นใหม่มาค่ะ เหมือนครั้งหนึ่งที่หญิงลีเคยเป็นรุ่นใหม่มาแรงนั่นแหละค่ะ"
"ถึงแม้งานคอนเสิร์ตน้อยลง แต่ก็มีงานละครเพิ่มเข้ามาค่ะ ส่วนใหญ่ก็เป็นตัวร้ายสิคะ แว้ด แว้ด แว้ด ก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่นะคะให้โอกาสหญิงลี แม้ว่าหญิงลีจะขี้หลงขี้ลืมบ้าง แต่ทุกคนก็ช่วย"
"เหมือนทำการบ้านแล้วเพื่อนช่วยค่ะ เหมือนคุณครูช่วยให้จบ เหมือนผู้กำกับช่วย เหมือนดารานักแสดงช่วย มันก็เลยต่อบทต่อกลอนได้ น้ำตาไหลหูตามา"
ส่วนความเป็นอยู่ปัจจุบัน หญิงลี บอกว่า ในวัย 39 ปี เธอใช้เวลา 90 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่บ้านเกิด สนุกกับการทำรีสอร์ทหญิงลีลั้ลลา ที่ตั้งใจสร้างธุรกิจขึ้นมาเพื่อครอบครัว
"ยิ่งทำยิ่งรู้สึกสนุกนะคะ เพราะหญิงเป็นคนชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เปิดประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ มันรู้สึกมีชีวิตชีวานะคะ ข้าวเหนียวหมูปิ้งเดินกิน แล้วก็เดินทำงานกับพนักงาน อะไรที่ทำไปแล้วล้มเหลวก็ไม่เสียใจค่ะ เพราะว่าในความล้มเหลวต่างๆ เราได้ความรู้ และก็ประสบการณ์ค่ะ"
"ตอนนี้กิจการก็กำลังพัฒนาไปได้ดีค่ะ ก็ดีใจมากๆ รีสอร์ทหญิงลีมี 30 ห้องพัก แล้วก็มีห้องสัมนาจุคนได้ประมาณ 80 ท่าน มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ หรือสวนน้ำขนาดเล็กให้น้องๆ หนูๆ บ้านเรามาฝึกว่ายน้ำ มาเล่นน้ำ เพียงแค่ 50 บาท ไม่จำกัดเวลาแล้วแต่จะเล่น คนที่มาไกลๆ ก็อยู่นานๆ ได้"
"ลูกค้าก็เข้ามาต่อเนื่องนะคะ วันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ก็เต็ม มีแพลนที่จะทำห้องพักเพิ่ม และก็บ้านเป็นหลังด้วย เพิ่มกิจกรรมในส่วนของค่ายลูกเสือ เป็นแคมป์แอดเวนเจอร์ รองรับโรงเรียนพาน้องๆ มาเข้าค่าย ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีหลายโรงเรียนติดต่อมาแล้วค่ะ"
ในการพูดคุยครั้งนี้ หญิงลี เล่าย้อนไปช่วงรีสอร์ทกำลังตั้งไข่ มีหลายคนมองว่าบ้าหรือเปล่า
"หญิงลีเป็นบ้าเหรอ ใครจะมาพัก"
เนื่องจากพื้นที่ 7 ไร่ที่สร้างรีสอร์ท อยู่กลางทุ่งนา แต่เธอไม่คิดว่าตนเองบ้า หรือถึงจะ "บ้าแต่ว่าไม่โง่"
หญิงลี อธิบายว่า การตัดสินใจเดินหน้าทำธุรกิจรีสอร์ท และสวนน้ำ เธอมีความตั้งใจอยากทำให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่น ให้ญาติพี่น้องและชาวบ้านมีงานทำ
"อยากมีสระว่ายน้ำ อยากมีทะเล อยากมีภูเก็ตอีสานพี่น้องประชาชนบริเวณนี้ ต่างจังหวัดเราเนี่ยมาเที่ยวได้ ไม่ต้องเดินทางไกล"
"การทำให้ญาติพี่น้องมีงานทำเนี่ย มันก็เปรียบเสมือนเรายื่นคันเบ็ดให้เขา สมมติเรามีบ่อปลา มีปลาในนี้แหละ เอาเบ็ดตกปลานะ ไม่ใช่เรายื่นปลาให้เขาทั้งชีวิต"
หญิงลี บอกทิ้งท้ายว่า เธอให้ลงทุนไป 30 ล้านบาท เนรมิตทุ่งนา ให้กลายเป็นรีสอร์ท และสวนน้ำ เริ่มต้นจากการซื้อที่ดิน ปรับแต่งภูมิทัศน์ ปลูกสร้างที่พัก อาคารสัมนา และสวนน้ำ ซึ่งสำหรับเธอมอว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เกิดประโยชน์กับตนเอง และส่วนรวม ดีกว่านำไปใช้เที่ยวต่างประเทศ มีความสุขอยู่คนเดียว ละลายเงินทิ้งโดยไม่เกิดประโยชน์
"หญิงลีก็พึ่งพาพนักงาน พนักงานพี่น้องก็ได้ค่าแรงจากหญิงลี เกื้อกูลกันไปหมดเลยค่ะ 30 ล้านที่หญิงลีเอามาลงตรงนี้ มันเกิดประโยชน์"
"ญาติพี่น้องได้มีรายได้ด้วย เด็กๆ ได้มาฝึกว่ายน้ำ มันดีกว่าที่หญิงลีไปเสวยสุขอยู่คนเดียว หรือไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว แล้วก็ละลายเงินทิ้ง"
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ