อีซูมาน แห่ง SM พบกับรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของซาอุดีอาระเบีย

โปรดิวเซอร์ อีซูมาน (Soo-Man Lee) ของ SM Entertainment ได้พบปะพูดคุยกับเจ้าชาย Badr bin Abdullah bin Farhan Al Saud (บาเดอร์ บิน อับดุลเลาะห์ บิน ฟาร์ฮาน อัล สะอูด) รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของซาอุดีอาระเบีย ณ อาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของ SM Entertainment ที่ตั้งอยู่ในเขตซองซู กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2022

การพบปะครั้งนี้ ประสบความสำเร็จจากความสัมพันธ์กับกระทรวงวัฒนธรรมของซาอุดีอาระเบีย ที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งก่อนในกรุงริยาด ซึ่งเจ้าชาย Badr bin Abdullah bin Farhan Al Saud (บาเดอร์ บิน อับดุลเลาะห์ บิน ฟาร์ฮาน อัล สะอูด) รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ก็แสดงความยินดีที่ได้พบกับผู้บุกเบิก K-POP อย่างโปรดิวเซอร์อีซูมานด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีบุคคลสำคัญท่านอื่นๆ จากรัฐบาลซาอุดีอาระเบียที่เข้าร่วมการพบปะครั้งนี้ เช่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม Hamad bin Mohammed Fayez (ฮาหมัด บิน โมฮัมเหม็ด ฟาเยซ), หัวหน้างานทั่วไปด้านวัฒนธรรมและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ Rakan Ibrahim AlTouq (ราคัน อิบราฮิม อัลตูค) ฯลฯ

โปรดิวเซอร์อีซูมาน และเจ้าชาย Badr bin Abdullah bin Farhan Al Saud รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ได้พูดคุยเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการต่างๆ สำหรับความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของซาอุดีอาระเบีย โดยโปรดิวเซอร์อีซูมาน กล่าวว่า "ผมตั้งตารอที่จะหาวิธีการต่างๆ ในการทำงานร่วมกัน เพื่อผลิต Saudi Pop (S-Pop) และศิลปินระดับโลกจากบุคคลที่มีความสามารถของซาอุดีอาระเบีย โดยใช้ระบบ CT (Culture Technology) ที่ผมสร้างขึ้นมาครับ ผมอยากมีส่วนร่วมในการสร้างระบบนิเวศทางดนตรี ที่คนหนุ่มสาวของซาอุดีอาระเบียสามารถเพลิดเพลินได้"

โดยทั้งสองต่างแบ่งปันความคิดเกี่ยวกับโปรเจกต์ที่ SM Entertainment และซาอุดีอาระเบีย สามารถทำร่วมกันได้สำหรับอุตสาหกรรมวัฒนธรรม เช่น การจัด SMTOWN LIVE แบรนด์คอนเสิร์ตระดับโลกของ SM Entertainment ในประเทศซาอุดีอาระเบีย, การผลิตคอนเทนต์วิดีโอ และกิจกรรมเทศกาลต่างๆ ร่วมกับบริษัทผู้ผลิตในซาอุดีอาระเบีย, การสร้างสถานที่หรือเวนิว (town) ที่สามารถจัดงานดนตรีและเทศกาลต่างๆ ได้ตลอดทั้งปี ฯลฯ

นอกจากนี้ โปรดิวเซอร์อีซูมาน ยังได้นำเสนอไอเดียต่างๆ เกี่ยวกับการสร้างเมือง Metaverse ที่สามารถนำไปสู่การเติบโตของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของซาอุดีอาระเบีย โดยกล่าวว่า "เราสามารถสร้างพื้นที่ที่คนหนุ่มสาวทั่วโลก สามารถสื่อสารและเพลิดเพลินในโลกทางกายภาพของความเป็นจริง และ Metaverse ร่วมกันได้ครับ ตัวอย่างเช่น หากพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของซาอุดีอาระเบีย ถูกสร้างขึ้นใน Metaverse เราก็สามารถดึงดูดความสนใจไปที่พิพิธภัณฑ์ในโลกแห่งความเป็นจริงได้มากขึ้นเช่นกัน" ซึ่งเจ้าชาย Badr bin Abdullah bin Farhan Al Saud รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และจะดำเนินการหารือต่อไปเกี่ยวกับข้อเสนอของโปรดิวเซอร์อีซูมาน

ในวันเดียวกันนั้น โปรดิวเซอร์อีซูมาน ได้เป็นผู้นำทัวร์พร้อมแนะนำสถานที่ต่างๆ ในอาคารสำนักงานของ SM Entertainment ด้วยตัวเอง เช่น ผนังสื่อ LED, สตูดิโอบันทึกเสียง ฯลฯ หลังจากที่เจ้าชาย Badr bin Abdullah bin Farhan Al Saud รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญท่านอื่นๆ ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย แสดงความสนใจเกี่ยวกับระบบ CT (Culture Technology) ที่เขาสร้างขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ BoA ยังปรากฏตัวมาเซอร์ไพรส์เช่นกัน

ขณะเดียวกัน โปรดิวเซอร์อีซูมาน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเอเชียเพียงคนเดียว สำหรับธุรกิจการก่อสร้างเมืองบันเทิงขนาดใหญ่ของซาอุดีอาระเบียที่เรียกว่า Qiddiya Project ในปี 2019 และด้วยความสนใจในประเทศนี้ เขาก็ได้ไปเยือนกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในเดือนมีนาคมปี 2022 เพื่อพบกับรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการวางแผนของซาอุดีอาระเบีย Faisal F. Alibrahim, เจ้าหญิง Haifa bint Mohammed Al-Saud รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม Hamad bin Mohammed Fayez ฯลฯ พร้อมหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าของระบบ SM CT สู่ตลาดท้องถิ่น ตลอดจนแบ่งปันวิสัยทัศน์เชิงลึกเกี่ยวกับตลาด Metaverse และอนาคตในด้านวัฒนธรรม

สื่อทั่วโลกให้ความสนใจอย่างร้อนแรง กับข่าวการพบกันระหว่างโปรดิวเซอร์อีซูมาน และรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของซาอุดีอาระเบีย

หลากหลายสื่อหลักของซาอุดีอาระเบียที่รายงานข่าวเกี่ยวกับการพบปะครั้งนี้ เช่น Al-madina หนึ่งในหนังสือพิมพ์รายวันที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของซาอุดีอาระเบีย ได้รายงานข่าวดังกล่าวลงทางหน้าหนึ่ง, Asharq Al-Awsat หนังสือพิมพ์รายวันภาษาอาหรับ, aleqtisadiah หนังสือพิมพ์แนวเศรษฐกิจ, arab news และ Saudi Gazette หนังสือพิพม์รายวันภาษาอังกฤษของซาอุดีอาระเบีย ฯลฯ ไม่เพียงแต่สื่อในเกาหลีและซาอุดีอาระเบียเท่านั้น สื่อจากประเทศอื่นๆ เช่น อินโดนีเซียและจีน ต่างก็แสดงความสนใจและรายงานข่าวดังกล่าวเช่นกัน