“Tsunari” แร็ปเปอร์สาวสุดมั่นกับความฝันบนทางสายดนตรี

Highlight

• Tsunari อ่านว่าสุนารี เป็นชื่อที่คุณพ่อเป็นคนตั้งให้ เธอเป็นลูกครึ่งผิวสีที่โดนคนรอบข้างล้อเลียนและถูกเลือกปฏิบัติอยู่บ่อยครั้ง แต่ความเจ็บปวดเหล่านั้นก็ได้รับการเยียวยาด้วยเสียงเพลง 
• เธอเริ่มต้นจากการประกวดในโรงเรียน สู่การประกวดระดับประเทศอย่าง AF และ The Star เช่นเดียวกับการเปิดช่อง YouTube โดยหวังว่าจะได้รับโอกาสในการเป็นศิลปิน 
• สุดท้าย Tsunari ได้เซ็นสัญญาทำเพลง แต่ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่อาจจะไม่ Cute โดนใจคนไทยเท่าไรนัก เธอจึงถูกดองนาน สุดท้าย Tsunari จึงเก็บกระเป๋า บินลัดฟ้าไปคว้าฝันไกลถึงประเทศอังกฤษ 
• วันนี้ชื่อของ Tsunari เป็นที่รู้จักทั้งในไทยและต่างประเทศ ด้วยสไตล์เพลงที่ไม่เหมือนใครและน้ำเสียงที่มีเอกลักษณ์ แล้วเธอก็กลับมาพร้อมกับซิงเกิลใหม่อย่างเพลง "Parachute" 

“Tsunari” แร็ปเปอร์สาวสุดต๊าชที่เข้ามาเขย่าวงการฮิปฮอปไทย ด้วยสไตล์เพลงที่มีเอกลักษณ์ และความมั่นใจที่เหลือล้น ชื่อของเธออ่านว่า “สุนารี” ซึ่งเป็นชื่อที่พ่อตั้งให้และกลายเป็นชื่อในวงการดนตรีที่ใครก็จำได้ เธอคือสาวลูกครึ่งไทย-ตรินิแดด ผู้ใฝ่ฝันจะได้เป็น “ศิลปิน” ที่ยิ่งใหญ่เหมือนกับสาว ๆ Destiny’s Child หรือมารายห์ แครี แต่บนเส้นทางสายดนตรีที่เธอเลือกเดินกลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อรูปลักษณ์ของเธอไม่ได้ตรงตาม “มาตรฐานความสวย” แบบไทย นั่นทำให้แร็ปเปอร์สาวสุดมั่นคนนี้ตัดสินใจไปล่าฝันที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ และได้ร่วมงานกับทีมคุณภาพ สร้างสรรค์เพลงที่มีเนื้อร้องไทย แต่ฟังยังไงก็เหมือนกับเพลงภาษาอังกฤษ จนโด่งดังและกลายเป็น “ตัวแม่” อีกคนของวงการเพลง 

ความเจ็บปวดของลูกครึ่งผิวสี 

เกิดที่อังกฤษ แต่มาเติบโตที่โคราช ก่อนจะย้ายไปซาอุดีอาระเบีย นี่คือประวัติชีวิตคร่าว ๆ ของสาว Tsunari ที่สะท้อนว่าการย้ายไปอยู่อาศัยในหลายประเทศทำให้เธอเปิดรับความหลากหลายและวัฒนธรรมที่แตกต่างได้ง่าย แต่การเป็นเด็กลูกครึ่งผิวสีก็ทำให้เธอถูกล้อเลียนและเลือกปฏิบัติหลายครั้ง โดยเฉพาะในประเทศไทย

Tsunari แร็ปเปอร์

“ช่วงประมาณ​15 ปีก่อน ตอนเราเป็นเด็กน้อย อยู่ต่างจังหวัด แล้วช่วงนั้นไม่ได้มีโซเชียลมีเดียเหมือนปัจจุบัน ชาวบ้านชาวช่องหรือคนในโรงเรียนเดียวกัน เขาไม่เคยเห็นคนผิวสีมาก่อน ตอนนั้นมันก็เจ็บ เพราะก่อนที่เราจะย้ายไปอยู่โรงเรียนที่ต่างจังหวัด เราก็ไม่เคยเจอกับการถูกเลือกปฏิบัติเหมือนเราเป็นตัวประหลาด ก่อนหน้านี้เราก็ปกติ ไม่ได้คิดว่าตัวเองมีปัญหา แต่พอไปอยู่โรงเรียนช่วงนั้น มันมีความรู้สึกว่าเราโดนล้อ ใช้คำว่าน้องดำดอทคอมอะไรแบบนี้” เธอเล่า 

“ตอนนั้นเราก็ไม่ค่อยเข้าใจ เราก็เจ็บ กลับจากโรงเรียน ช่วงแรก ๆ ก็กลับมาร้องไห้ ฉันไม่อยากอยู่แล้ว ฉันอยากกลับแล้ว แม่ไม่เข้าใจ พ่อแม่ไม่รักกูเลย เราก็บอกพ่อแม่ว่าอยากกลับไปแล้ว เขาก็บอกไม่เอา อยู่นี่แหละ สู้ จะได้เป็นคนที่เข้มแข็งมากขึ้น” 

เสียงเพลงคือสิ่งเยียวยาใจ  

เมื่อโดนทำร้ายความรู้สึกจากคนภายนอก Tsunari ที่ชื่นชอบการร้องเพลงและการเต้นรำ จึงใช้ “ดนตรี” เป็นสิ่งเยียวยาหัวใจ ก่อนจะค่อย ๆ หลงรักการร้องเพลง และกลายเป็นความใฝ่ฝันที่จะได้เฉิดฉายเหมือนกับดีว่าระดับโลกที่เธอติดตาม

Tsunari แร็ปเปอร์

“เราชอบ Destiny’s Child แม่มารายห์ ป้าวิตนีย์ แบบกลับมาจากโรงเรียนก็ดู MTV พอเราหลงรักดนตรีและอยากเป็นศิลปิน เราเหมือนมาทำความรู้จักกับดนตรีมากขึ้น ความหมายของแต่ละเพลง เพลงแต่ละแนว มันทำให้เราลึกซึ้ง พอเราเจอเหตุการณ์ที่ดีหรือไม่ดี เราก็หาบทเพลงมาเพลงหนึ่ง มาอินกับเรา และเหมือนเป็นการหลบหนีมิตินี้ไปสามนาที พอเพลงจบ เราก็ออกมา ก็ yeah ok ฉันรู้สึกดี” Tsunari บอก 

จากการฟังเพลงเพื่อเยียวยาใจ สู่การเดินเข้าสู่เส้นทางการประกวดร้องเพลง Tsunari เริ่มต้นจากการประกวดในโรงเรียน ที่เธอเล่าว่าต้องแอบไปสมัคร เพราะอายที่จะบอกให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองร้องเพลงได้ แต่ Tsunari ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงขนาดที่แม้แต่แม่ของเธอก็ยังตกใจ และถามเธอว่า “เธอร้องเพลงเป็นด้วยเหรอ” 

“มีโมเมนต์หนึ่งที่เพื่อน ๆ รุ่นเดียวกันจะจำได้ ตอนนั้นพอเข้ารอบลึกไปแล้วต้องใส่ชุด แล้วก็หาชุดในโคราชไม่ได้เลย ตอนนั้นเราท้วมหน่อย คุณแม่ก็เลยไปเช่าชุดลิเกเขียว ๆ มาให้ พอใส่ขึ้นเวทีปุ๊บ ทุกคนก็กรี๊ด หลังจากนั้นทุกคนก็เรียกเราว่า Hero เพราะตอนนั้นเราร้องเพลง Hero ของมารายห์ แครี เป็นฉายาช่วงม.1 - ม.3” 

Tsunari แร็ปเปอร์

ไม่ Cute ก็โดนดองไปก่อน 

เพราะฝันอยากเป็นศิลปิน Tsunari จึงเดินสายประกวดร้องเพลงหลายเวที พร้อมกับการโคฟเวอร์เพลงลงใน YouTube ด้วยหวังว่าสักวัน จะมี “แมวมอง” มาค้นพบและหยิบยื่นโอกาสการเป็นนักร้องให้กับเธอ 

“ช่วงนั้น YouTube มันมา กำลังบูม ๆ เลย เราก็เห็นว่าคนร้องเพลงโคฟเวอร์ในช่วงนั้นเขาโกอินเตอร์ เขาได้เซ็นสัญญากับค่ายใหญ่ พอเห็นปุ๊บ เอาก็แบบเอาวะ เราเป็นเด็กต่างจังหวัด แต่ใครจะไปรู้ อาจจะมีแมวมองมาเซ็นเราก็ได้ เราก็เลยเริ่มลง YouTube เริ่มร้องโคฟเวอร์ เริ่มร้องรีมิกซ์ แต่ว่ามันยังไม่มีใครมา เราก็เริ่มการประกวดร้องเพลงตามเวที ตาม The Star และ AF อะไรแบบนี้ เราลองมาหมด” Tsunari เล่า

ในที่สุดความพยายามก็ออกดอกผล เมื่อ Tsunari ได้รับโอกาสให้ทำงานร่วมกับทีมทำดนตรีทีมหนึ่ง แม้จะดีใจและตื่นเต้นเพียงใด แต่ความรู้สึกนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาบอกว่ารูปลักษณ์ของเธอขายไม่ได้ในเมืองไทย 

Tsunari แร็ปเปอร์

“เขาพูดว่าคุณมีความสามารถนะ แต่เขาไม่รู้ว่าจะขายเรายังไง เพราะเขาไม่มีความมั่นใจว่า ถ้าเขาลงทุนแล้ว เขาจะได้ผลกำไรกลับมาหรือเปล่า เพราะในตลาดไทยช่วงนั้นจะเป็นแบบกามิกาเซ่ ต้องเป็นแบบ cute girl เขาก็เลยบอกว่า เราเซ็นคุณก่อน แต่เราไม่อยากปล่อย ก็เลยโดนดองไป” 

ไปตามความฝันที่ลอนดอน

หลังจากโดน “ดอง” เพราะไม่ใช่แนวที่คนไทยชอบ Tsunari จึงตัดสินเก็บกระเป๋า ออกเดินทางไปตามความฝันที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพราะอยากเปิดโลกกว้างและอยากเก่งขึ้น บวกกับการที่ลอนดอนเป็นเมืองที่มีหลายวัฒนธรรมรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ ดนตรี แฟชั่น และเป็นเมืองที่พร้อมจะให้โอกาสทุกคน 

แน่นอนว่าการตัดสินใจไปล่าฝันที่ลอนดอนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เธอก็ไม่คิดว่าเป็นเรื่องยาก หากรู้สึกมั่นใจและสนุกไปกับมัน 

Tsunari แร็ปเปอร์

“มันไม่ง่ายและก็ไม่ยาก มันจะยากก็เพราะตัวเราคิดว่าเราทำไม่ได้ แต่ถ้าเรารู้สึกมั่นใจ แล้วเราอยากจะสนุกกับมัน มันก็ไม่ยาก ประสบการณ์ของรี คือรีย้ายไปคนเดียวโดยที่ไม่รู้จักใครเลย เราก็ต้องเริ่มต้นจากการหาที่อยู่ก่อน สองก็หางานพาร์ทไทม์ ซึ่งก็ใช้เวลาประมาณ 2 - 3 เดือน เพื่อให้ทุกอย่างเข้าที่ เพื่อให้ตัวเองสามารถก้าวต่อไปสู่การทำเพลง หาโปรดิวเซอร์ หาสตูดิโอ” เธอเล่า

พอโยกย้ายประเทศเพื่อไล่ตามความฝัน Tsunari ซึ่งเป็นศิลปินสายร้องก็เบนเข็มมาเอาดีด้านสายแร็ป เพราะได้รับคำชื่นชมอย่างล้มหลามจากแฟนเพลง หลังจากที่เธอลงรีมิกซ์เพลงแร็ปในช่อง YouTube ของตัวเอง 

“ก่อนหน้านั้นเราก็เคยลองแร็ปตามนิกกี มินาจ ตามอีฟ เราก็ไม่ได้ซีเรียส เรารู้ว่าเราพอทำได้ แต่ไม่เคยจริงจังกับมัน จนตอนนั้นเราทำรีมิกซ์ แล้วมีผลตอบรับค่อนข้างโอเค คนรอบข้างก็บอกว่าไม่ลองแร็ปดูล่ะ สนุก ๆ ไม่ซีเรียส เล่น ๆ ขำ ๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก พอไป ๆ มา ๆ มันก็เลยสนุก เรื่องร้องเราได้แล้ว ไหนมาแร็ป มาลองอะไรใหม่ ๆ ด้วย บวกกับสุนารีชอบลองอะไรใหม่ ๆ ก็เลยมาลองเอาดีทางด้านนี้”

แร็ปเปอร์หญิงในถิ่นแร็ปเปอร์ชาย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าวงการเพลงฮิปฮอป เป็นพื้นที่ที่มีความเป็นความชายสูงมาก พอนึกถึงเพลงฮิปฮอป ก็จะต้องคิดถึงภาพของกลุ่มแก๊งผู้ชายแมน ๆ ที่รวมตัวกันเป็นแก๊งสเตอร์ นั่นจึงนำไปสู่คำถามที่เราถาม Tsunari ว่า แล้วพื้นที่ของแร็ปเปอร์หญิงอยู่ตรงไหน ในพื้นที่ฮิปฮอปที่ผูกขาดกับความเป็นชาย

Tsunari แร็ปเปอร์

“รีเห็นมีแร็ปเปอร์ผู้หญิงเก่ง ๆ หลายคนนะ แต่ถ้าถามว่าทำไมเราถึงไม่รู้จัก ในความคิดเห็นส่วนตัวของรีอาจจะเป็นเพราะว่า มันยังไม่มีการสนับสนุนที่จริงจัง ถ้าให้ยกตัวอย่างคือ ถ้าเป็นฮิปฮอปชายของไทย เขาก็จะมีเป็นแก๊ง เช่น แก๊ง Already Deadd แก๊งนู่นนี่นั่น ที่เขาจะช่วยซัพพอร์ตกันไป ช่วยแชร์เพลงกันไป แต่ถ้าเปรียบเทียบกับฝั่งผู้หญิงเอง ก็จะเป็นโซโล่เสียส่วนมาก แล้วโอกาสหรือการสนับสนุน หรือการฉายแสงไปถึงแร็ปเปอร์หญิง มันไม่ได้มีเยอะ” Tsunari แสดงความคิดเห็น  

“ดังนั้น ถ้ามีการซัพพอร์ตแร็ปเปอร์ผู้หญิงมากขึ้นและเรามีการรวมตัวกัน ทุกคนก็น่าจะมีโอกาสได้ฉายแสง เพราะว่าแร็ปเปอร์ผู้หญิงเก่ง ๆ ของไทยมีเยอะมาก” เธอกล่าวทิ้งท้าย