ไอดอลเกาหลี กับประสบการณ์สุดช็อกที่หลายคนไม่เคยรู้
แฟน K-POP อาจเคยได้ยินมาบ้างว่าชีวิตในช่วงที่เป็นเด็กฝึก หรือเทรนนี่ (Trainee) ไม่ง่ายอย่างที่คิด นอกจากจะต้องฝึกหนักและเครียดจากความหวังที่ริบหรี่อยู่ตลอดเวลาว่าจะได้เดบิวต์เป็นศิลปินเมื่อไรแล้ว กฎเหล็กหลายๆ ข้อ ระหว่างการเป็นเด็กฝึก พร้อมแบบทดสอบต่างๆ หลายอย่างก็ทำเอาคนทั่วไปอย่างเราๆ ร้องโหได้เหมือนกัน
หลังเดบิวต์ไปแล้วก็ยิ่งยากมากกว่าเดิม นอกจากการฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น และตารางการทำงานที่แน่นขนัดแล้ว ความกดดันที่ต้องอยู่ในวงการที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอย่างสูง ก็ทำให้ร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้าและสุขภาพทรุดโทรมลงแม้จะวัยเพียงไม่ถึง 20 หรือเพียง 20 ต้นๆ เท่านั้น
และนี่คือประสบการณ์บางส่วนจากปากของเหล่าไอดอลเองที่มาเล่าว่า เบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมเพอร์ฟอร์แมนซ์พร้อมเพรียงแข็งแรง แต่เบื้องหลังพวกเขาต้องเจอกับอะไรมาบ้าง
ยึดมือถือ ทีวี อินเตอร์เน็ต
เพื่อเป็นการให้เด็กฝึกที่เตรียมเดบิวต์เป็นศิลปินได้ทุ่มเทเวลาและมีสมาธิกับการฝึกซ้อม แม้ว่าคุณจะเป็นวัยรุ่น 15-18 ปีที่เป็นวัยติดเพื่อน ติดโซเชียล แต่คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้มือถือ แม้กระทั่งอุปกรณ์มอบความบันเทิงอย่างทีวี และอินเตอร์เน็ต เด็กฝึกบางคนที่อยากฟังเพลง ทั้งส่วนตัวและเพื่อการฝึกซ้อม ต้องฟังจากเครื่องเล่น MP3
ไดเอตสุดโหด
ซึงยอน อดีตสมาชิก CLC เปิดเผยในคลิป Truth or Drink ของ แอชลี่ย์ อดีตสมาชิก Ladies Code ว่า ตารางฝึกในช่วงนั้นเข้มงวดมากๆ ทุกวันมีแค่ไปตึกของค่าย ฟิตเนส และกลับหอเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอไม่มีอิสระที่จะทำอะไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ได้เลย แม้กระทั่งอาหารที่จะกินในแต่ละมื้อก็เลือกเองไม่ได้
ในขณะที่ โมโม TWICE เคยเล่าระหว่างไลฟ์ใน V Live ของจีฮโย ใน Jihyo's Candy Night ว่า เธอเคยต้องลดน้ำหนักมากถึง 7 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์ เพราะตอนนั้นบริษัทบอกให้เธอลดน้ำหนักให้ได้ 7 กิโลกรัมเพื่อขึ้นเวทีในโชว์เคสหนึ่งของวง เธอสารภาพว่าเธอไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำแข็ง 1 ก้อนตลอดทั้งสัปดาห์ และยังไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสด้วย เธอถึงขั้นพยายามถุยน้ำลายบ่อยๆ โดยหวังว่าน้ำหนักจะลงได้มากกว่าเดิม ช่วงนั้นเธอเล่าว่าตอนที่เธอล้มตัวลงนอนหลับบนเตียง เธอกลัวว่าเธอจะไม่ตื่นขึ้นมาในเช้าวันถัดไปด้วยซ้ำ และนั่นทำให้เธอร้องไห้ออกมาในที่สุด
และสุดท้าย เธอก็ไม่สามารถลดน้ำหนัก 7 กิโลกรัมได้ภายใน 1 สัปดาห์ นั่นทำให้เธอขอเวลาเพิ่มอีก 3 วัน จนในที่สุดเธอก็ลดน้ำหนัก 7 กิโลกรัมได้สำเร็จภายใน 10 วันทันก่อนขึ้นแสดงบนเวที
ไม่เพียงแค่ผู้หญิงที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการไดเอต วินวิน WayV เล่าประสบการณ์หนักๆ นี้ในรายการเรียลลิตี้โชว์ของจีน Star Chaser ว่า ในช่วงที่เขาเป็นเด็กฝึก เขาเคยต้องรักษารูปร่างให้ผอม และกินอาหารแค่วันละมื้อเท่านั้น “ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมต้องรักษาหุ่นของตัวเองให้ผอมเข้าไว้ ผมกินข้าวแค่วันละมื้อ และมื้อเดียวนั้นก็กินแค่นิดเดียว ผมกินแต่ผักต้ม จนถึงจุดที่ผมรู้สึกว่าผมทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว”
“วันหนึ่งผมเลยออกไปหาอะไรกินข้างนอก ตอนที่ผมไปถึงร้านจาจังมยอน จู่ๆ ผมก็เป็นลมไปเลย คนที่ยืนต่อคิวอยู่หน้าร้านมากมายเข้ามาถามผมว่า ‘เกิดอะไรขึ้น เป็นอะไรหรือเปล่า’ ผมก็ค่อยๆ มีสติมากขึ้นและรีบบอกว่าผมโอเค แต่ทันทีที่ผมลุกขึ้นยืนได้ ผมก็เป็นลมไปอีกครั้ง ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผมอยู่ที่ไหน เจ้าของร้านรีบเข้ามาหาผมแล้วป้อนน้ำตาลขาวใส่ปากให้ช้อนนึง ตอนนั้นผมเลยค่อยๆ มีสติขึ้นมาได้ ผมเลยโทรหาเพื่อนในวงแล้วพวกเขาก็ออกมารับผมกลับหอ ช่วงนั้นมันยากลำบากมากจริงๆ”
ซ้อมเต้นพร้อมถุงทรายรัดขา
TXT เคยให้สัมภาษณ์กับ GQ Japan ว่า ในช่วงเป็นเด็กฝึก พวกเขาเคยเอาถุงทรายมารัดที่ขาระหว่างซ้อมเต้นด้วย โดย บอมกยู เล่าว่า “ตอนที่เราเต้นท่า bounce ที่เป็นท่าเต้นเบสิก เราเอาถุงทราบมารัดไว้ที่ขา ซ้อมเต้นแบบนั้นอยู่ 2-3 ชั่วโมง จากนั้นก็ออกไปหาอะไรกินประมาณ 1 ชั่วโมง ตอนนั้นรู้สึกเลยว่าขาขยับได้เร็วขึ้นมาก หลังจากที่ถอดถุงทรายออกจากขาก็คือ รู้สึกเขาเบาหวิว ขยับได้เร็วฉับๆ มากๆ ครับ” ความลับของท่าเต้นที่พร้อมเพรียงและทรงพลังมาจากสิ่งนี้นั่นเอง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่จะต้องฝึกซ้อมเต้นด้วยการรัดถุงทรายไว้กับขาแบบนี้
ถูกสั่งให้รีวิวคอนเสิร์ต บังคับฟังเพลงและเขียนรายงาน
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่แฟนๆ หลายคนอาจไม่ทราบ หยางหยาง และ เฮนเดอรี่ WayV เคยเล่าระหว่างไลฟ์ด้วยกันว่า ระหว่างที่เป็นเด็กฝึกเพื่อเตรียมตัวเป็นไอดอล พวกเขาได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างที่เกี่ยวกับการแสดงบนเวที ไม่ว่าจะเป็นการร้อง เต้น แร็ป รวมไปถึงสกิลอื่นๆ ที่คาดไม่ถึงว่าต้องฝึก เช่น การเขียนรายงาน ฝึกถ่ายเซลฟี่ ถ่าย vlog และเรียนรู้วิธีใช้แอปพลิเคชั่นต่างๆ ในการไลฟ์วิดีโอ
นอกจากนี้ เฮนเดอรี่ ยังเล่าว่า บริษัทให้เขาฟังเพลงทั้งหมด 200 เพลงในหลากหลายแนวดนตรีในระหว่างที่อยู่ในช่วงปิดเทอม และเขียนถึงความความรู้สึก และความประทับใจที่มีต่อเพลงเหล่านั้นที่ได้ฟังด้วย
แต่ หยางหยาง เล่าแบบติดตลกว่า “จำได้ว่านั่งฟังไป 2-3 เพลง ก่อนที่จะหันไปถามทีมงานว่า ‘ผมต้องทำให้เสร็จทั้งหมดจริงๆ เหรอครับ’ แล้วเขาตอบกลับมาว่า ‘ก็… บางคนก็ทำ บางคนก็ไม่ทำ’” นั่นทำให้เฮนเดอรี่แกล้งบีบคอหยางหยางเบาๆ แล้วพูดว่า “ทำไมฉันได้รับคำตอบไม่เหมือนนายล่ะ! เขาบอกให้ฉันทำให้เสร็จ”
นอกจากนี้ ทุกครั้งที่เด็กฝึกได้รับเชิญไปดูคอนเสิร์ตของศิลปินรุ่นพี่ในค่าย พวกเขาต้องกลับมาเขียนรายงาน/รีวิวหลังจากดูคอนเสิร์ตจบอีกด้วย
แอบเที่ยว แอบเดต
สามสาว ซึงยอน และ สร อดีตสมาชิก CLC และ แอชลี่ย์ อดีตสมาชิก Ladies’ Code คอนเฟิร์มว่าพวกเขาเคยโกหกผู้จัดการวงว่าตอนนั้นพวกเขากำลังอยู่ที่ไหน และเคยหนีออกมาจากหอเพื่อออกมาเที่ยวตอนกลางคืนอีกด้วย
โดยซึงยอนเล่าว่า “การไปเที่ยวตอนกลางคืนไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนะ โดยเฉพาะในช่วงที่คุณอายุ 20 กว่า คุณคงอยากรู้อยากเห็นในเรื่องแบบนี้อยู่บ้างเป็นธรรมดา เราอยู่ในช่วงอายุที่พีคมากๆ แต่ก็โดนจำกัดและโดนบังคับอะไรต่ออะไรมากมาย และนั่นยิ่งทำให้เราอยากออกไปข้างนอกมากกว่าเดิม”
ในช่วงนั้น CLC อาศัยอยู่ในหอพักร่วมกับผู้จัดการวงผู้หญิง ซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากมากที่จะออกมาข้างนอกในตอนกลางคืน นั่นทำให้สมาชิก CLC วางแผนออกมาข้างนอกด้วยกันเป็นกลุ่มเล็กๆ แทนที่จะออกมาทั้งหมด 7 คน ในคืนที่เป็นคราวของซึงยอนและสรวางแผนจะออกมาข้างนอกด้วยกัน ทั้งสองคนต้องแอบออกมาที่ห้องนั่งเล่นพร้อมรองเท้าในมือและเดินย่องๆ ออกมา โดยระหว่างนั้นสมาชิกที่เหลือจะทำเสียงดังเพื่อกลบเสียงเดินของทั้งคู่ เช่น เปิดก๊อกน้ำ เปิดไดร์เป่าผม และเมื่อทั้งสองคนออกมาข้างนอกได้สำเร็จ ทั้งสองจะส่งข้อความไปบอกสมาชิกในหอว่าปลอดภัยแล้ว ปิดเสียงต่างๆ ลงได้
ในขณะที่สาวแอชลี่ย์เคยเผยว่า สมาชิกวง Ladies’ Code ทั้ง 5 คนเคยหนีออกมาจากหอในตอนกลางคืนได้ครบทุกคน แต่อาจเป็นเพราะผู้จัดการวงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ปล่อยพวกเธอไปสักครั้งนึงก็ได้
นอกจากนี้ ทั้งสามคนยังพูดการเดตในระหว่างที่เป็นไอดอลอยู่ว่า ถ้าไอดอลจะเดต พวกเขาเดตได้แน่นอนโดยพยายามปิดบังไม่ให้ใครรู้ แม้ว่าจะถูกบังคับไม่ให้เดต และไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน หากพวกเขาอยากจะเดต พวกเขาจะหาทางเดตกันจนได้ แม้กระทั่งการพยายามจีบอีกฝ่าย พวกเขาจะสรรหาวิธีติดต่อกันในหลายๆ แบบ ไม่ว่าจะเป็นการฝากเพื่อนของเพื่อนไปขอเบอร์ หรือส่งต่อเบอร์ของตัวเองให้กับอีกคนผ่านการฝากของต่างๆ ไปให้
แอชลี่ย์ กล่าวว่า “ฉันเคยดูๆ กับใครคนหนึ่งอยู่ประมาณ 2-3 อาทิตย์” แต่ตอนนั้นเธอไม่ได้เดตกับใครจริงจัง เพราะกำลังอยู่ในช่วงที่มีความสัมพันธ์ระยะไกลอยู่ราว 6 ปี
ทางด้านของ สร เอง ก็บอกว่าเธอไม่เคยเดตกับคนดัง อาจเพราะเธอเองก็อยู่ในช่วงที่มีความสัมพันธ์ทางไกลอยู่เหมือนกัน และเธอคิดว่าด้วยลักษณะนิสัยของเธอ คนดังผู้ชายที่เธอรู้จักด้วยมักมองเธอเป็นเพื่อนมากกว่า
แต่ฝั่ง ซึงยอน บอกว่า เธอเคยเดตกับไอดอลชายคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่ทั้งคู่จะเดบิวต์เป็นไอดอลอย่างเป็นทางการ และนอกจากเธอก็มีศิลปินในวงการอีกมากมายที่คบหากัน เธอจึงเปรยว่า “ฉันได้รับประสบการณ์มาแล้ว และมันไม่ได้เป็นบาปอะไรที่จะมีความรัก”
“ถ้าไม่มีความรัก มันก็ยากที่จะอยู่บนโลกในนี้ คุณต้องการความรักเพื่อมีพลังในการทำงานหนัก มันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะพวกเราเองก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกัน”
นี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งที่พวกเขาต้องเจอก่อนและหลังจากการเดบิวต์เป็นศิลปินไอดอล K-POP ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ไม่ว่าพวกเขาเหล่านี้ต้องเจอกับอะไรมาบ้าง หากแฟนๆ เข้าใจและให้การสนับสนุนพวกเขาต่อไป รับรองว่าพวกเขายอมทำงานหนักเพื่อแลกกับรอยยิ้มของแฟนๆ ต่อไปเรื่อยๆ แน่นอน