หัวใจศิลปิน "ปอยฝ้าย มาลัยพร" ไม่อายวันนี้เต้นกินรำกินข้างถนน | Sanook Music

หัวใจศิลปิน "ปอยฝ้าย มาลัยพร" ไม่อายวันนี้เต้นกินรำกินข้างถนน

หัวใจศิลปิน "ปอยฝ้าย มาลัยพร" ไม่อายวันนี้เต้นกินรำกินข้างถนน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ปอยฝ้าย มาลัยพร" นักร้องลูกทุ่งหมอลำ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว Sanook.com ย้อนอดีตจนถึงปัจจุบัน ทุ่มเทไปกับการเดินสายขายน้ำปลาร้า เต้นกินรำกินข้างถนน

ปอยฝ้าย บอกว่า เขาเกิดที่บ้านโนนสะอาด ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย จบ ป.6 พ่อไม่มีเงินส่งเรียนต่อ จึงมาบวชเป็นสามเณร ที่วัดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอุดรธานี

ระหว่างเป็นสามเณรได้เรียนเทศน์แหล่สำเนียงอีสาน และได้ไปเทศน์ในงานบุญต่างๆ อาทิ บุญมหาชาติ บุญมหากฐิน เป็นต้น มีอยู่งานหนึ่งหลังจากเทศน์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าภาพได้จ้าง "เสียงอิสาน" มาทำการแสดงต่อตอนกลางคืน ทำให้มีโอกาสได้ชม วงดนตรีลูกทุ่งหมอลำชื่อดังยุคนั้น แสดงแบบสดๆ รู้สึกถึงใจถึงอารมณ์

บวกกับมีความอยากเป็นหมอลำ มาตั้งแต่วัยประถมฯ ทำให้ใจแตก "ผ้าเหลืองร้อน" อ้อนวอนหลวงพ่อให้พามาฝากอยู่กับ "แม่นกน้อย อุไรพร"

ต่อมาได้ทำเพลงตลกอกหัก ออกมาได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ทำให้แจ้งเกิด และมีเพลงสร้างชื่อต่อเนื่อง อาทิ "วอนฟ้า", "กะเทยประท้วง", "น้ำตาขาร็อค" เป็นต้น ก่อนโด่งดังสุดขีดกับเพลง "มันต้องถอน"

"นอกจากเพลงดังแล้ว เอกลักษณ์ของผม คือ การเล่นตลก เป็นนักเรียนเป็นเด็กชายปอยฝ้าย เป็นยายแก่ และเป็นกะเทยด้วย"

ปอยฝ้าย เล่าด้วยว่า เขาเคยติดเหล้าอย่างหนัก ต้องดื่มทุกวันเป็นเวลากว่า 20 ปี การติดเหล้าของเขาเริ่มมาจากหาอะไรสนุกๆ ทำเพื่อคั่นเวลาระหว่างรอขึ้นเวทีคอนเสิร์ต จากดื่มเล่นๆ กลายเป็นติดจนถอนตัวไม่ขึ้น เข้าใจไปเองยิ่งดื่มยิ่งร้องเพลงเพราะ ยิ่งดื่มยิ่งมั่นใจ จนเสียงานเสียการดำดิ่ง ก่อนเอาชนะใจตนเองได้ หลังจากเข้ารับการบำบัดอยู่หลายครั้ง

"อยู่หมอลำหลายปีนะค่อยกินเหล้า ไม่ใช่ว่าปีแรกก็กินเลย ทีแรกก็สปาย ทีนี้ก็เบียร์ จากเบียร์ก็เหล้า ระหว่างรอขึ้นเวทีทำยังไงวะกูจะไม่นอน เพลินไปกับน้ำดื่มน้ำเมา"

"รู้สึกว่าเราร้องเพลงเพราะ มีความมั่นใจ ทำอะไรมันก็ดูเหมือนเข้าตาคนไปหมด เราคิดไปเอง ที่จริงคนฟังอีกแบบ ไม่กินมือสั่น มันจะมีอาการอ้วก"

"โชเฟอร์รถตู้ขับรถอยู่เนี่ย บอกให้ลงไปซื้อ จอดๆ เขาไม่ไปซื้อให้จะเอามีดปาดคอตัวเอง ร้องเพลงก็ลืมเนื้อ หลงๆ ลืมๆ คนจัดงานก็ไม่สบายใจที่จะจ้าง งานก็เริ่มเสีย"

"พอช่วงหนึ่งก็คิดได้ เราต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ผมพยายามบำบัดหลายครั้งนะ พอดีขึ้นแล้ว เหมือนเราออกจากกองไฟ ได้เล่นละคร ได้ออกรายการต่างๆ"

ปอยฝ้าย บอกต่อว่า ปัจจุบัน เขาทุ่มเทไปกับการเดินสายขายน้ำปลาร้า หลังจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้อาชีพนักร้องได้รับผลกระทบ ยังไม่ฟื้นตัวเหมือนนักร้องที่ได้รับความนิยมห้วงเวลานี้ วิธีการขายมีทั้งทางออนไลน์ และลงสนามออกบูธ

"ตอนนี้ทำน้ำปลาร้า แซ่บปิ่นโต ขาย ก็มีใส่ชุดหมอลำไปร้องลำตามตลาดสด ตามข้างถนน ไม่ใช่หมอลำขายข้าวนะ เป็นหมอลำขายปลาแดก"

"พอมาขายของ ก็มีนะ มีคนบอกว่าเห็นไหม เมื่อก่อนดังมาก ตอนนี้ตกต่ำจนได้มาขายปลาร้า อยากบอกว่า ไม่ได้ตกต่ำนะ ก็ยังมีงานละครอยู่"

"ศิลปินมันมีช่วงของเขาอยู่ มันก็ร่วงโรยไปตามเวลา งานเพลงไม่หวือหวา เราก็เปลี่ยนช่องทางทำมาหากิน เรามองอนาคต หาเงินเก็บไว้ ไม่อยากแบบว่า ปอยฝ้ายขอรับบริจาค"

ปอยฝ้าย ที่แต่งตัวเป็นยายฝ้าย เตรียมตัวร้องหมอลำเรียกแขกพิสูจน์ความแซ่บน้ำปลาร้าของเขา ที่ ภูตะลึง จ.นครนายก บอกทิ้งท้ายการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้

เขาไม่รู้สึกอาย และไม่เคยมีความคิดว่าต้องอาย ที่เคยเป็นศิลปินแสดงคอนเสิร์ต บนเวทียิ่งใหญ่อลังการ ทุกวันนี้มาร้องหมอลำ เต้นกินรำกินอยู่ข้างถนน หารายได้ด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของตนเอง

"ผมว่าเป็นศิลปิน บางครั้งไม่จำเป็นต้องขึ้นวงใหญ่ก็ได้ ที่พูดไม่ใช่วงใหญ่ไม่ดีนะ ที่พูดไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสขึ้นวงใหญ่นะ มี แต่กำลังอธิบายว่า เราร้องอยู่ข้างถนน คนสองคนดู เราก็ทำให้มีความสุขได้ไหม 5 คนเอาอยู่ไหม"

"เราทำยังไงให้เขามีความสุข สนุกไปกับเราได้ นั่นคือหน้าที่ของศิลปิน นั่นถึงจะเป็นศิลปินโดยแท้ครับ"

อัลบั้มภาพ 14 ภาพ

อัลบั้มภาพ 14 ภาพ ของ หัวใจศิลปิน "ปอยฝ้าย มาลัยพร" ไม่อายวันนี้เต้นกินรำกินข้างถนน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook