"กิมกลอย ไทดอลมิวสิค" ลูกกตัญญู ไม่ได้อยู่ที่โล่รางวัล | Sanook Music

"กิมกลอย ไทดอลมิวสิค" ลูกกตัญญู ไม่ได้อยู่ที่โล่รางวัล

"กิมกลอย ไทดอลมิวสิค" ลูกกตัญญู ไม่ได้อยู่ที่โล่รางวัล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"กิมกลอย" พิรัตน์ดา เจริญวงศ์ หรือ "กิมกลอย ไทดอลมิวสิค" เจ้าของเสียงร้องเพลง "เสียดายเด้" และ "ทรงคือสิมแม่น เปิดบ้านใน อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ที่เช่าอยู่กับพ่อแม่ ให้สัมภาษณ์ทีมข่าว Sanook.com อัพเดท ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตดีขึ้นตามลำดับ

หลังจากเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง จากคลิปไวรัล ร้องเพลง "ถึงเวลาจะบอกรัก" ของ "ฝน ธนสุนธร" ให้แม่ที่ป่วยหนักเกือบไม่รอดฟัง ช่วยให้แม่พ้นจากวิกฤต ราวกับมีปาฏิหาริย์

ก่อนเปิดหมวกร้องเพลงตามตลาดนัด และรับจ้างร้องเพลงหาเงินเลี้ยงแม่ที่ป่วยไวรัสตับอีกเสบบี พ่อกระดูกสันหลังหัก

เป็นเสาหลักค้ำครอบครัวตั้งแต่อายุได้เพียง 10 ขวบ สังคมยกย่องว่าเป็นลูกกตัญญู "นีโน่" เมทนี บุรณศิริ ดารานักแสง พิธีกรชื่อดัง ประทับใจ รับเป็นลูกบุญธรรม

"ช่วงนั้นพวกเราลำบาก ไปเจอพ่อโน่ที่รายการ คุณพ่อเขาสงสาร รับเป็นลูกบุญธรรม เดี๋ยวพ่อจะส่งเรียนเอง คุณพ่อซื้อชุดนักเรียนให้ประมาณ ม.1 ม.2"

"หลังจากนั้นหนูก็ทำงานเอง ไม่ไปรบกวนพ่อ อยากลองหาเองให้สุดความสามารถก่อน ถ้ามันไม่ได้ค่อยขอความช่วยเหลือจากพ่อ"

กิมกลอย เชื่อว่า สิ่งดีๆ ที่เข้ามาในชีวิต มาจากการที่เธอไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ยอมแพ้อะไรง่ายๆ และความกตัญญูช่วยหนุน เมื่อได้รับแล้วรู้จักให้ มีส่วนช่วยให้ได้เป็นนักร้องค่ายเพลงชั้นนำ อย่างค่าย ไหทองคำ เรคคอร์ด ก่อนย้ายมาร่วมงานกับค่าย ไทดอล มิวสิค

"ครอบครัวหนู มีกันอยู่ 6 คนค่ะ มีคุณตาคุณยาย คุณพ่อคุณแม่ พี่ชาย ซึ่ง 5 คนนี้ ไม่มีใครแข็งแรงเลย คุณพ่อกระดูกสันหลังหัก ทำงานหนักไม่ได้ คุณตาเป็นมะเร็งโพรงจมูก คุณยายเป็นเบาหวานขึ้นตา จะเห็นลางๆ"

"ไปร้องเพลงตามงานต่างๆ เอาทิปมาใช้จ่ายในบ้าน แล้วก็ไปร้องเพลงเปิดหมวกตามตลาดนัด ตอนนั้นยังเป็นนักเรียนใส่คอซอง มันก็มีบ้างที่มองเพื่อน แล้วแบบเพื่อนไปเที่ยว เพื่อนไปเล่น มันแตกต่างมาก"

"แต่อีกมุมนึงมันภูมิใจมากๆ อายุเท่านี้เราหาเงินได้แล้วแบ่งเบาภาระครอบครัวได้แล้ว มองครอบครัวที่ลำบาก มันไม่มีอารมณ์ไปเล่นเลยค่ะ มันต้องทำงานเท่านั้น มันถึงจะอยู่รอด"

"ที่ไปร้องเพลงเปิดหมวกตามตลาดนัดเนี่ย คือความฝันอยากมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง อยากไปร้อง อยากไปฝึก เงินที่ได้เอามาดูแลครอบครัว"

"ทำไปเรื่อยๆ มันก็มีความคิดที่แบบ อยากจะช่วยเหลือสังคมบ้าง นำเงินไปร่วมซื้ออุปกรณ์การแพทย์ นำเงินไปซื้อรถมอบให้กับกู้ภัย และก็อีกหลายๆ โครงการ"

"เมื่อได้รับแล้ว ก็อยากจะช่วยเหลือคนอื่น เพราะเรารู้ว่า การที่มันไม่มี การที่มันลำบาก มันเป็นยังไง บาทสองบาท ช่วยกันหลายๆ แรง มันจะกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ได้ค่ะ

"จนอาจารย์ประจักษ์ชัย ไหทองคำ เอาไปปั้น เซ็นสัญญาค่ายไหทองคำฯ เหมือนสะพานทอดให้มา สู่ไทดอลมิวสิค ภายใต้การดูแลของ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ทำให้มีงานคอนเสิร์ต หลายๆ ที่ รายได้เห็นน้ำเห็นเนื้อมากขึ้น"


กิมกลอย บอกต่อว่า ปัจจุบัน ในวัย 17 ปี นอกจากมีรายได้จากการเป็นนักร้องแล้ว เธอยังมีรายได้มาดูแลครอบครัว จากการจำหน่ายสบู่ ธุรกิจส่วนตัวที่ นีโน่ พ่อบุญธรรม ลงทุนให้

ความฝันอยากเห็น พ่อแม่ ตายาย พี่น้อง ที่กระจัดกระจายกันอยู่ ได้มาอยู่ร่วมคาเดียวกันอย่างอบอุ่น เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นตามลำดับ

"หนูเปิดแบรนด์สบู่บังอร เป็นสบู่กัญชงผสมทองคำ พ่อโน่ลงทุนให้ และก็เริ่มปลูกบ้าน ในที่ดินของยาย ที่ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี บ้านเกิดของเรา"

"ที่ผ่านมาเราแยกกันอยู่ บ้านคุณตายคุณยายหลังเล็กมาก อยู่กัน 6 คนไม่ไหว ก็แยกกันออกมาเช่าบ้านอยู่ ความฝันอีกอันหนึ่งของหนู คือให้ทุกคนมาอยู่ด้วยกัน ได้กินข้าวได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา"

ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ กิมกลอย ได้พาไปชมบ้านที่กำลังปลูก บริเวณตีนเขาวงพระจันทร์ มีความคืบหน้าไปแล้ว มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเธอได้กู้เงิน 1.6 ล้าน จากธนาคาร มาก่อสร้าง รวมทั้งพาไปเยี่ยมคุณตาคุณยายที่บ้านใน อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี

กิมกลอย บอกทิ้งท้าย การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ ความกตัญญูในความรู้สึกของเธอ คือ การแสดงความรักที่ดีที่สุด ไม่เฉพาะกับพ่อแม่ แต่รวมถึงผู้มีพระคุณที่เข้ามาหนุนนำชีวิตให้ไปในทางที่ดี

ไม่ใช่การตอบแทนด้วยเงินทองอย่างเดียวเสมอไป แต่หมายถึงการดูแลตามสมควรแก่ฐานะของลูกด้วย การทำในสิ่งที่ทำให้พ่อแม่ และผู้มีพระคุณมีความสุข ก็เป็นความกตัญญูที่ดีอย่างหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องมีรางวัลมารันตี ขึ้นอยู่กับการกระทำมากกว่า

อัลบั้มภาพ 19 ภาพ

อัลบั้มภาพ 19 ภาพ ของ "กิมกลอย ไทดอลมิวสิค" ลูกกตัญญู ไม่ได้อยู่ที่โล่รางวัล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook