รีวิวคอนเสิร์ต beabadoobee กระโดดไปพร้อมกับสาวน้อยเสียงหวานกับดนตรีร็อคยุคมิลเลนเนียม

ในที่สุดชาวไทยก็ได้ฟังเพลงของสาวน้อยที่น่ารักทั้งเสียงและนิสัยอย่าง beabadoobee ในคอนเสิร์ต Beabadoobee Beatopia Tour 2022 Live in Bangkok ที่ Samyan Mitrtown Hall เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา เป็นการรวมตัวบรรดาวัยรุ่นหัวใจมิลเลนเนียมจำนวนมากที่พร้อมใจกับตบเท้าเข้ามาฟังดนตรีสดยุค ‘90s-2000s ที่น้องบีเตรียมเพลงในอัลบั้มล่าสุด Beatopia และเพลงดังอีกเพียบมาให้แฟนๆ ชาวไทยได้ฟังกันสดๆ เป็นครั้งแรก และแน่นอนว่าเป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเยือนเมืองไทยด้วย

ราวๆ 20.10 น. beabadoobee และทีมนักดนตรีแบ็กอัพวิ่งขึ้นมาบนเวทีด้วยท่าทีกระตือรือร้นพร้อมปล่อยพลังสุดๆ เริ่มด้วย “Worth It” ต่อด้วย “Together”, “Charlie Brown” และ “Care” เพลงโปรดของใครหลายคนที่ทั้งน้องบีและนักดนตรีใส่เต็มแบบไม่ยั้ง บนเวทีขนาดมินิมอลแต่ครบครันไปด้วยอุปกรณ์ดนตรีและสายไฟต่างๆ และไลท์ติ้งเหนือศีรษะที่อยู่บนเพดานแนวเฉียง แม้ว่าจะเรียบง่ายแต่ก็มีลูกเล่นในการเปลี่ยนสีตามจังหวะและอารมณ์ของเพลงได้ดีทีเดียว เรียกได้ว่าทั้งดนตรีและการตกแต่งเวทีก็คลาสสิกและไปในทางเดียวกันได้ดี เหมือนได้ย้อนยุคไปสมัยปี ‘90s ปลายๆ 2000 ต้นๆ ยังไงยังงั้น

เพลงที่น้องบีเลือกมาเล่นที่กรุงเทพในครั้งนี้ มีทั้งเพลงจากอัลบั้มล่าสุดตามชื่อทัวร์ Beatopia อย่าง “10.36”, “Talk”, “See You Soon”, “the perfect pair” ไปจนถึงเพลงในอัลบั้มเก่าๆ ที่หลายคนชอบอย่าง “He Gets Me So High”, “She Plays Bass”, “Dye It Red”, “Back To Mars”, “Sorry”, “Yoshimi, Forest, Magdalene”, “Last Day On Earth” หรือไปถึงเพลงในปี 2019 อย่าง “Sun More Often” แฟนๆ ได้ฟังเพลงแทบจะครบทุกยุคทุกอัลบั้มกันเลยทีเดียว

ระหว่างโชว์มีการพูดทักทายคนดูสั้นๆ (สั้นมากๆ) อยู่บ้าง แต่โดยรวมเป็นการมาเพื่อมอบความสุขทางเสียงเพลงให้กับคนดูล้วนๆ น้องบีร้องไปยิ้มไป เดินไปทั่วๆ เวที นั่งลงหน้าเวทีบ้าง หยิบของที่แฟนเพลงส่ง (หรือปา) ไปให้บนเวทีขึ้นมาเล่นบ้าง หยิบกีตาร์มาเล่นบ้าง และเรียกให้แฟนๆ ตะโกนตามเสียงเพลงบ้างเป็นครั้งคราว 

แต่ถึงอย่างนั้นผ่านไป 1 ชั่วโมงกว่าๆ โชว์ก็เข้าสู่ช่วงอังกอร์เป็นที่เรียบร้อย นักดนตรีแบ็กอัพกลับเข้าไปหลังเวที น้องบีหยิบกีตาร์โปร่งออกมาเล่นเพลง “Coffee” เพลงแจ้งเกิดของเธอที่ใครหลายคนรู้จักเธอจากเพลงนี้ ก่อนที่จะไปต่อที่เพลง “Cologne” และลงจากเวทีไปพร้อมกับนักดนตรีที่ยิ้มแย้มแจ่มใส แลกเปลี่ยนพลังงานบวกให้กันและกันจนถึงวินาทีสุดท้าย

ช่วงเวลาชั่วโมงกว่าๆ ในคอนเสิร์ตของ beabadoobee เหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนวัยไปสมัยเด็กที่นั่งฟังเทป กดอัดเพลงโปรดจากวิทยุลงเทป เปิดเทปฟังจากวอ์ลคแมนหูฟังฟองน้ำสีส้ม และส่งข้อความหาคนที่แอบชอบผ่านเพจเจอร์หรือตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญ ใครจะคิดว่าเพลงจากสาวน้อยอายุแค่ 20 กว่าๆ ที่เกิดไม่ทันยุคที่ The Smashing Pumkins, The Cardigans ดังด้วยซ้ำ แต่ทำเพลงออกมาได้เก่าแบบถอดแบบมาเป๊ะๆ ขนาดนี้ นอกจากนี้นักดนตรีแบ็กอัพของเธอก็เล่นได้ดี รวมถึงซาวด์เอนจิเนียร์ของงานนี้ก็ปรับเสียงดนตรีออกมาได้ดีในแบบที่เราได้ยินเสียงเครื่องดนตรีทุกชิ้นบนเวทีแบบชัดเจนทุกท่วงจังหวะ เป็นคอนเสิร์ตในฮอลล์ขนาดย่อมที่มีแฟนเพลงมาดูหลักร้อยแต่ได้ความสุขกลับบ้านแบบหลักล้านได้เลย

หวังว่า beabadoobee และผองเพื่อนจะติดใจเอเนอร์จี้ของแฟนเพลงชาวไทย และแวะกลับมาทัวร์ที่บ้านเราอีกในอนาคต เชื่อว่าเด็กไทยวัย GEN Z หัวใจ GEN Y รอต้อนรับน้องอีกแน่นอน