6 ที่สุดของวงเมทัลเพลงยาว The Darkest Romance
Highlight
- The Darkest Romance วงเมทัลไทยจากค่าย Gene Lab เป็นเจ้าของผลงานเพลงฮิตอย่าง “ความรู้สึกผิด” และ “ความเยาว์” ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ความยาวของเพลงกว่า 10 นาที
- เพลงของ The Darkest Romance แม้จะมืดหม่นและรุนแรง แต่เป้าหมายของพวกเขาคือการแชร์ความรู้สึกระหว่างศิลปินและผู้ฟัง
- แม้ว่าเพลงของ The Darkest Romance จะไม่ได้ประสบความสำเร็จในแง่รายได้ แต่การที่พวกเขาสามารถพูดในสิ่งที่รู้สึก และมีแฟนเพลงตอบรับและส่งต่อความรู้สึกนั้น ก็ถือเป็นความสำเร็จแล้ว
ในยุคเฟื่องฟูของไอดอลและศิลปินป็อป วงดนตรีเมทัลอย่าง The Darkest Romance อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในหมู่คนฟังเพลงทั่วไปมากนัก แต่สำหรับชาวหูเหล็กแล้ว วงดนตรีเมทัลสัญชาติไทยวงนี้ถือเป็นกลุ่มศิลปินที่น่าจับตามองไม่น้อย โดยเฉพาะตั้งแต่การเปิดตัวเพลง “ความรู้สึกผิด” ที่มาพร้อมกับมิวสิกวิดีโอสุดดาร์ก เมื่อปี 2020 ภายใต้สังกัด Gene Lab ความดุเดือดและที่กินเวลากว่า 10 นาที กระตุ้นความสนใจของนักฟังเพลง และทำให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในวงเมทัลร็อกคุณภาพ จนกระทั่งคว้ารางวัลศิลปินกลุ่มร็อกยอดเยี่ยม และอัลบั้มร็อกยอดเยี่ยมจากอัลบั้ม Words จากเวทีสีสันอะวอร์ด 2022 เมื่อไม่นานนี้
The Darkest Romance ไม่ได้เป็นเพียงคนทำดนตรีแผดเสียงกระโชกโฮกฮากเท่านั้น แต่ในผลงานแต่ละชิ้นของพวกเขา ได้สะท้อนภาพชีวิตและอารมณ์ของมนุษย์ อันเป็นผลมาจากการหล่อหลอมของสังคม ผ่านท่วงทำนองที่แตกต่างหลากหลาย และเนื้อเพลงที่ทั้งงดงามและดุดันในเวลาเดียวกัน กลายเป็นผลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง สมชื่อวงที่เป็นความโรแมนติกอันมืดหม่นที่สุด และนี่คือ 6 จุดเด่นของ The Darkest Romance ที่ Sanook อยากให้ทุกคนได้ทำความรู้จัก
เพลงที่ยาวที่สุด
ลายเซ็นของ The Darkest Romance ที่แฟนเพลงมักจะกล่าวถึงและแซวกันอยู่บ่อยครั้ง คือความยาวของเพลง โดยเฉพาะในอัลบั้ม Words ที่ทุกเพลงล้วนมีความยาวไม่ต่ำกว่า 10 นาทีทั้งสิ้น ซึ่ง แม็ก – ธิติวัฒน์ รองทอง ฟรอนต์แมนและมือเบสของวงเปิดเผยว่า ถ้าดูจากตัวเลขที่บันทึกไว้ เพลงที่ยาวที่สุดของวง คือเพลง “ความรับผิดชอบ” ซึ่งมีความยาว 10.49 นาที แต่สำหรับแฟนเพลงที่มีซีดีเพลงไว้ในครอบครอง จะรู้ว่าเพลงที่ยาวที่สุดคือ “ความเยาว์” ซึ่งระยะเวลา 10 นาทีนั้น ก็ถือว่าเป็นความยาวที่พอดีในการเล่าเรื่อง
“เราเล่นกับเรื่องความรู้สึกของคนด้วย ทั้งในแง่เรื่องที่เล่า ในแง่ลักษณะเสียงดนตรี คือเราไม่ได้เล่นแค่ว่าเพลงมันเพราะหรือไม่เพราะ เพลงมันหรือไม่มัน เราคิดขนาดที่ว่า ลองดูซิว่า ถ้าเราทำเพลงยาวขนาดนี้ แต่ละคนจะรู้สึกกับแต่ละนาทีต่อเพลง เหมือนกันไหม แล้วมันจะมีผลต่อจิตใจแบบไหน คนจะรู้สึกกับสิ่งนี้ไหม” แม็กกล่าว
แม็กอธิบายเพิ่มเติมว่า การทำเพลงที่มีขนาดยาวไม่ใช่แค่การท้าทายว่าผู้ฟังจะฟังจบเพลงหรือไม่ แต่เป็นการท้าทายและผลักเพดานของสมาชิกในวง ให้ไปสู่สิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน
“มันเปลี่ยนความคิดทั้งในแง่ของการสร้างเพลง ในแง่ของการยืนระยะการเล่น แม้กระทั่งการแสดงของเรา หรือแม้กระทั่งการสื่อสารด้วย เราไม่จำเป็นต้องเป็นคนเสียงดังตลอดเวลา แต่เราก็แค่พูดว่า คุณกำลังรู้สึกอะไรอยู่ เราอยากแชร์กับคุณมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องโชคดีที่มีคนตอบรับพลังงานนี้กลับมา” แม็กเล่า
เพลงที่ทำยากที่สุด
สำหรับเพลงที่มีกระบวนการผลิตยากมากที่สุด หนึ่งในผู้รับผิดชอบในภาคดนตรีอย่าง เกม – ธณัตชัย เหลือรักษ์ มือกลอง ยกให้เพลงฮิต “ความรู้สึกผิด” ด้วยเทคนิคการเล่นและขั้นตอนการเรียบเรียงที่ยาก เนื่องจากแต่ละท่อนมีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอารมณ์ตลอดเวลา เช่นเดียวกับมือกีตาร์ ก้อง – ก้องอุดม ใจทัศน์กุล ที่ออกปากว่า เพลงนี้มีรายละเอียดเยอะกว่าเพลงอื่นๆ
“เพลงนี้ในส่วนของกีตาร์ รายละเอียดมันค่อนข้างเยอะกว่าเพลงอื่นในชุด Words คือมันจะมีไลน์ซ่อนอยู่เล็กๆ น้อยๆ ตอนทำมันก็ได้น่ะครับ อัดทีละท่อนๆ เล่นไปๆ ก็ใส่กันเต็มน่ะครับ มีอะไรใส่หมด พอเสร็จปุ๊บ ก็ประสบปัญหาว่า เล่นกันไม่ได้ครับ อยู่เพลงเดียวนี่แหละครับ นั่นคือปัญหาใหญ่” ก้องกล่าว ก่อนแม็ก ผู้เขียนเนื้อเพลงจะตอบกลับมาทันทีว่า “ขอโทษครับ”
สำหรับแม็ก ผู้รับหน้าที่เขียนเนื้อเพลงเป็นหลัก มองว่าเพลงที่ยากที่สุดคือ “ความรุนแรง” ที่มีกระบวนการคิดคอนเซ็ปต์ซับซ้อนและใช้เวลานาน
“แม้ว่าเราจะพูดถึงความรุนแรงที่มันเกิดขึ้นทั้งภายนอกและภายใน แต่ตอนจะคิดเนี่ย มันคิดได้หลายด้านมาก คำว่าความรุนแรงมันจะไปทางไหนได้บ้าง มันเป็นความรุนแรงจากเรากระทำกับคนอื่นหรือเปล่า หรือว่าเราพูดในแง่การวิจารณ์สังคม กว่าจะบรรจบเป็นเพลงนี้ ก็กินเวลานานที่สุดสำหรับการตกตะกอน” แม็กกล่าว
จุดเด่นอีกอย่างของเพลงของ The Darkest Romance คือการเล่าเรื่องราวชีวิตคนและสังคม ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์สังคม แต่ในมุมของแม็ก เพลงของพวกเขาไม่ได้วิจารณ์สังคมโดยตรง แต่เป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆ ที่คนทั่วไปอาจจะยังไม่เห็น ซึ่งเขาพูดถึงความตั้งใจของพวกเขาว่า
“ถ้าเพลงเหล่านี้พูดแทน และทำให้คนที่ได้ยินเรื่องเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พูดถึงสังคม หรือแม้กระทั่งเรื่องความรู้สึก ได้รู้ว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้รอบๆ ตัว แล้วคนจะปฏิบัติตัวต่ออีกคนหนึ่งได้ดีขึ้น หรือใจดีต่อกันมากขึ้น อย่างน้อยสักนิดก็คงดี”
แม้จะเป็นการสะท้อนภาพสังคมอย่างตรงไปตรงมาด้วยดนตรีที่กระแทกกระทั้น แต่เสียงตอบรับจากแฟนเพลงก็เซอร์ไพรส์ศิลปินไม่น้อย
“เหมือนเพลงพวกนี้ไปสัมผัสใจคน มันมีผลมากพอที่ทำให้เขามาเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังผ่านในช่องคอมเมนต์ หรือแม้กระทั่งขอบคุณ ซึ่งขอบคุณเนี่ย ผมไม่คิดมาเลยว่ามันจะมีสิ่งเหล่านี้นะ คนหลายๆ คนมาคอมเมนต์ว่า ขอบคุณที่พูดเรื่องนี้แทนเรา ขอบคุณที่บอกเล่าความรู้สึกนี้ให้เห็นชัดเจน เพราะว่ามันทำให้รู้ว่ามีคนที่เข้าใจเขาอยู่” แม็กเล่า
เพลงที่ดาร์กที่สุด
เช่นเดียวกับเพลงเมทัลร็อกอื่นๆ ผลงานกว่า 90% ของ The Darkest Romance มีเนื้อหามืดหม่น แต่เมื่อต้องเลือกผลงานที่ดาร์กที่สุด แม็กเล่าย้อนไปถึงอัลบั้มชุดแรกสุดที่เขาทำเอง คือ 70,000,000 – 1 = 0 ที่มีคอนเซ็ปต์เป็นเรื่องความสูญเสีย และเพลงที่เขารู้สึกว่ามืดหม่นที่สุดคือ “Open Your Eyes” ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสงคราม
“เราพูดถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากสงคราม กระสุน 1 นัด อาจจะฆ่าศัตรู 1 คน แต่เราอาจจะฆ่าพ่อของใครคนหนึ่งไปด้วย ฆ่าน้องชายของใครคนหนึ่งไปด้วย หรือฆ่าญาติใครสักคนไปด้วย มันมีแต่ความสูญเสีย แล้วก็เราสูญเสียความเชื่อ สูญเสียความเป็นตัวเอง สูญเสียความรัก” แม็กเล่า
ด้านเกมเลือกเพลง “ความเข้มแข็งกับความอ่อนแอ” จากอัลบั้ม Even โดยให้เหตุผลว่า
“ความเข้มแข็งกับความอ่อนแอ มันจะมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ คนนี้ดูภายนอกแข็งจัดเลย คนนี้ไม่น่าจะเคยร้องไห้หรอก ใครจะไปรู้ กลับบ้านไปเขาอาจจะร้องไห้โฮทุกวัน หรืออีกมุมหนึ่งก็ตาม คนที่เราเห็นเขาร้องไห้บ่อยๆ เขาอาจจะร้องไห้บ่อยแหละ เขาเลยเข้มแข็งได้ไว ผมรู้สึกว่ามันเป็นสองมุมที่รู้สึกว่าดาร์ก”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพลงเมทัล ซึ่งรวมถึงผลงานของ The Darkest Romance เป็นเพลงที่ไม่ได้สวยงามสดใส และไม่ได้ฟังแล้วสบายหูนัก เพราะฉะนั้น วิธีการเสพเพลงแนวนี้จึงออกจะแตกต่างจากเพลงแนวอื่น ซึ่งเกมอธิบายว่า เพลงของพวกเขาถือเป็นงานศิลปะชนิดหนึ่ง และผู้ฟังไม่จำเป็นต้องรู้สึกสนุกหรือมีความสุขจากเพลงนี้เพียงอย่างเดียว
“คือการมาดู... ผมใช้คำว่างานศิลปะแล้วกัน มันไม่จำเป็นต้องสนุก ไม่จำเป็นต้องดูแล้วแบบว่า เฮๆ การที่เราดูแล้วเราซึม แล้วก็ไปผุดเอาความรู้สึกอะไรบางอย่างที่ตรงกับใจออกมา นั่นน่ะคือการเสพงานพวกนี้ แล้วมันทำให้เขาปลดปล่อยความรู้สึกนั้น มันคือการที่เขาสามารถมีความรู้สึกร่วมกับเราได้ ตรงนั้นแหละที่ทำให้เขาอยู่กับเรา” เกมกล่าว
ด้าน เต้ – ปัฏฐสิทธิ์ ห้วยห้อง มือกีตาร์อีกคนหนึ่งของวง ก็ยกตัวอย่างปฏิกิริยาของแฟนเพลงที่มาชมคอนเสิร์ตของพวกเขาว่า
“เราเห็นคนร้องไห้ จบโชว์มาก็สวมกอดกัน แม็กก็เข้าไปปลอบ ผมว่านี่แหละ คนมาสนุกกับเพลงเราด้วยการเอาเรื่องของเขามาสวมตอนที่เราเล่นเพลงนั้น” เต้เล่า
เพลงที่สว่างที่สุด
ท่ามกลางเพลงที่มีเนื้อหามืดมน การตามหาเพลงที่ “สว่างที่สุด” ของ The Darkest Romance จึงไม่ใช่เรื่องยากนัก หนึ่งในนั้นคือ “สิ่ง (ที่ทำให้) มีชีวิต” จากอัลบั้ม Lessons ซึ่งเป็นเพลงที่แม็กแต่งให้กับภรรยา และเป็นเพลงที่แฟนเพลงหลายคนลงความเห็นว่า ควรใช้เปิดในงานแต่งงาน
“พอเราพูดถึงสิ่งที่สวยงามอะไรสักอย่างหนึ่ง อาจจะเป็นความรักหรือความพยายามฝ่าฟันต่ออุปสรรคใดๆ ก็ตาม เราจะพูดให้มืดมันก็ไม่ใช่เรื่องน่ะ แล้วพอมันมีใครสักคนในใจที่เราอยากจะร้องให้เขาอย่างดีที่สุด และอย่างเต็มที่ที่สุดที่เราจะทำได้ ด้วยความสามารถที่พอจะมีในวันเวลานั้นๆ เราก็รู้สึกว่ามันเป็นเพลงที่สว่างที่สุดแล้วก็มีความหมายมากที่สุดเพลงหนึ่งสำหรับผมเหมือนกัน” แม็กกล่าว
ด้านก้องก็มองย้อนกลับไปยังเพลงโปรดของเขาในอัลบั้ม Even นั่นคือ “ลูกนกบนต้นไม้กับดาวลูกไก่บนท้องฟ้า”
“เพลงนี้ผมชอบตั้งแต่ตอนที่ฟังครั้งแรกเลยครับ เพราะว่าเนื้อเพลงพูดถึงเรื่องที่เรียบง่ายมากๆ เป็นการพูดถึงเรื่องความรักของคนสองคน เราไม่จำเป็นต้องขึ้นไปเป็นดวงดาว เป็นคนเด่นดัง มีชื่อเสียง มีเงินทอง เป็นแค่ลูกนกบนต้นไม้ที่คอยพึ่งพิงอาศัยกันก็พอ” ก้องกล่าว ก่อนที่แม็กจะเสริมว่า
“จริงๆ มันก็เป็นแค่คำว่าพอใจเลยน่ะ บางคนอาจจะไปพยายาม ไปไขว่คว้า แล้วมันกลับมาล้มอีกครั้ง กลับมาเจ็บอีกครั้ง เพราะว่าไปไม่ถึงฝัน แต่จริงๆ แล้วเราต้องการสิ่งนั้นจริงๆ เหรอ หรือเราต้องการแค่ความอบอุ่นในวงของคนที่รักเราจริงๆ หรือคนที่เรารักเขามันก็เพียงพอแล้วหรือเปล่า”
2 เพลงใหม่ล่าสุด “ไม่” และ “เท่านี้”
สำหรับเพลงใหม่ล่าสุด 2 เพลง ได้แก่ “ไม่” และ “เท่านี้” ซึ่งเปิดตัวในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็กต์อัลบั้มใหม่ของ The Darkest Romance ที่ทางค่าย Gene Lab ทดลองปล่อยทั้งสองเพลงนี้ในเวลาไล่เลี่ยกัน เป็น double single ซึ่งสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของเพลงทั้งสอง ที่เล่าเรื่องเป็นสองขั้วที่ขัดแย้งกัน คือการแสดงออกและการเก็บกดความรู้สึก ซึ่งแม็กขยายความว่า
“อย่าง “ไม่” มันอาจจะเกรี้ยวกราดจากความไม่พอใจอะไรใดๆ รอบๆ ตัว หรือแม้กระทั่งคนที่นำเรา คนที่เราควรจะเอาเป็นแบบอย่าง แล้วมันไม่ใช่ แล้วเราก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธ แต่ถ้าคำปฏิเสธมันถูกปัดตกไปเรื่อยๆ มันถูกมองข้ามไปเรื่อยๆ มันก็กลายเป็นการต่อต้านโดยอัตโนมัติ ซึ่งสุดท้ายแล้วการที่เราจะไม่กับอะไรสักอย่าง มันคือการที่เราแสดงออกไปทั้งสิ้น”
“แต่พอเป็น “เท่านี้” เราพยายามอะไรสักอย่าง เราพยายามอย่างหนักมากๆ แต่มันไม่เคยพอ มันคือข้างนอกกับข้างใน ซึ่งมันเพียงพอแล้วกับการที่มันเป็นความขัดแย้งขนาดใหญ่ สำหรับผมที่เป็นคนเขียนเนื้อเพลงและถ่ายทอดเรื่องราวพวกนี้แล้ว มันรุนแรงเพียงพอ มันสวยงามเพียงพอ คือมันอาจจะดูเหมือนไบโพลาร์ ดูเหมือนฉับพลัน ดูเหมือน super diversity แต่ว่าสุดท้ายแล้ว มีขาวก็ต้องมีดำมาคู่กันไม่ใช่หรือ”
สิ่งที่ดีที่สุดของการเป็น The Darkest Romance
เมื่อถามว่านับตั้งแต่การออกอัลบั้มแรกในปี 2014 จนกระทั่งปัจจุบันนี้ สิ่งที่ดีที่สุดของการเป็น The Darkest Romance คืออะไร สมาชิกวงทั้ง 4 คน เห็นตรงกันว่า The Darkest Romance เป็นพื้นที่ที่เหมือน “สนามเด็กเล่น” ให้พวกเขาได้มาปลดปล่อยตัวเองจากภาระทั้งหลายในชีวิต ด้วยการเล่นดนตรีกับเพื่อนๆ ที่มีความเชื่อและเป้าหมายเดียวกัน รวมทั้งยังเป็น “คนบ้า” ที่ยังคงทำสิ่งที่พวกเขาเชื่ออยู่
“คนเราพอยิ่งโตขึ้นน่ะครับ มันยิ่งหาอะไรที่สนุกแบบตอนเด็กๆ ที่เราสนุกโดยที่เราไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องมานั่งคาดหวังอะไรกับมันมาก ยิ่งโตมา อะไรพวกนั้นมันยิ่งหายไป แล้วตรงนี้มันเป็นของแบบนั้นของผม นั่นแหละคือสิ่งที่ดีที่สุดของวง” เกมกล่าว
ด้านแม็กก็เสริมว่า “สำหรับผม สิ่งที่ดีที่สุดของการเป็น The Darkest Romance คือยังได้พูดในสิ่งที่รู้สึก โดยที่เราไม่ได้โกหกตัวเองกับสิ่งนั้น แล้วที่สำคัญคือ พวกเราโชคดีมากพอที่สิ่งที่พูดออกไป หรือแม้กระทั่งสิ่งที่แสดงออกไปมันมีคนตอบรับกลับมาด้วย คือมันมีทั้งคนที่รู้สึกและคนที่ส่งต่อ และมีคนที่ตอบรับพวกเรา มันเป็นโบนัสทั้งหมดเลยสำหรับผม”
อย่างไรก็ตาม แม็กยอมรับว่า หากมองในเชิงพาณิชย์ The Darkest Romance อาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จในแง่ความนิยมหรือยอดขาย เนื่องจากแนวเพลงของพวกเขาไม่ใช่สินค้าหลักหรือ “อาหารที่กินง่าย” แต่พวกเขาก็ยังคงทำเพลงต่อ เพราะรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาอยากจะนำเสนอต่อผู้ฟัง
“การได้รับการตอบรับ แล้วก็การที่มีคนร่วมรู้สึกแล้วก็สนุกดีไปกับสิ่งที่พวกเราซื่อสัตย์ที่จะสื่อมันออกไปจากพวกเราทั้ง 4 คนด้วย นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการเป็น The Darkest Romance ครับ” แม็กสรุป
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ