แม็กซ์ เจนมานะ: ดนตรี ชีวิต และดราม่า

Highlight

• แม็กซ์ เจนมานะ กลับมาอีกครั้งพร้อมอัลบั้มใหม่ “Your Fairy Godbrother” ที่เล่าเรื่องราวสังคม การเมือง ความสัมพันธ์ ดราม่า และการอยู่กับปัจจุบัน 
• แม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีดราม่าหนัก แต่แม็กซ์ เจนมานะก็ไม่ได้ใส่ใจ และพยายามตั้งใจทำเพลงต่อ ทว่าก็ยังมีเพลงสุดท้ายในอัลบั้มชื่อ “แล้วแต่เธอ (Suit Yourself)” ที่พูดถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
• แม็กซ์ เจนมานะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบ “ทำตามใจตัวเอง” พร้อมระบุว่า ตลอดช่วงดราม่าที่เกิดขึ้น คนเดียวที่เขาอยากขอโทษคือ “ตัวเอง” ที่เอาใจลงไปเล่นกับเรื่องนี้ 
• แม็กซ์ เจนมานะ ยืนยันว่า ดราม่าเหล่านั้นไม่ได้ส่งผลต่อเขามากนัก และเขาก็ได้เรียนรู้ว่าตัวเองมีรากฐานที่ดีมากจากดราม่าที่เกิดขึ้น

หลายคนอาจรู้จัก “แม็กซ์ เจนมานะ” ในฐานะศิลปิน เจ้าของผลงานเพลง “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า (Into The Wood)” ในขณะที่หลายคนอาจจะรู้จักเขาคนนี้จากข่าวดราม่าและลีลาการตอบโต้กับชาวเน็ต จนกลายเป็นประเด็นฟ้องร้องหมิ่นประมาท อย่างไรก็ตามชื่อของ แม็กซ์ เจนมานะ กลับมาในพื้นที่สื่ออีกครั้งในฐานะศิลปิน พร้อมกับอัลบั้มใหม่ชื่อ “Your Fairy Godbrother” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวไม่ว่าจะสุข ทุกข์ ร้าย ดี ที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต จนทำให้เขากลายเป็นเขาในวันนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Godbrother คนนี้จะสามารถสร้างความสุขให้คนฟังได้อีกครั้งหนึ่ง 

Your Fairy Godbrother 

หลังจากห่างหายไปจากงานเพลงระยะหนึ่ง แม็กซ์ เจนมานะก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอัลบั้ม “Your Fairy Godbrother” ประกอบด้วย 6 ซิงเกิล ที่ใส่ความเป็นตัวเองและบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างน่าสนใจ แล้วทำไมต้องเป็น Godbrother แม็กซ์เริ่มต้นเล่าให้ฟังว่า 

“น่าจะเคยได้ยิน Fairy Godmother เรารู้สึกว่าถ้าแบบนี้ เราเป็น Fairy Godbrother บ้างดีกว่า เหมือนกับมันจะเป็นเรื่องราวของคนนี้ ไม่ใช่เทวดาที่แสนดี ไม่ใช่ภูต แต่เป็นคนธรรมดาที่ไม่มีพรให้ มีแต่เรื่องจริงที่จะมาพูดในแต่ละซิงเกิลที่ปล่อยออกมา ก็จะมีเรื่องสังคม การเมือง ความสัมพันธ์ ดราม่า หรือแม้กระทั่งการอยู่กับปัจจุบัน คือเราจะพูดแต่ยาขมเท่านั้น จะไม่มีคำพูดสละสลวยมาปลอบใจ เป็นเหมือน Godbrother ที่คุณต้องระวัง เวลาจะขอพรจากคนนี้” 

“เพลงของผมค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นมุมมองที่ผมมี อันนี้ผมพูดถึงผมนะ คือศิลปะที่ออกมามันควรมีความเป็นส่วนตัว คนอื่นอาจจะทำงานด้วยการใช้เรื่องราว หรือว่าได้รับผลจากสังคมมาพูด แต่ของผมเป็นเรื่องส่วนตัวเสียส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นดราม่าทั้งหมด แทบจะไม่มีผลเลย เพราะผมไม่ได้ให้ค่าขนาดนั้น เพราะมันจะไปทำให้งานของผมถูกด้อยค่าลงไป แต่ผมมีเพลงแถมให้เพลงสุดท้าย ซึ่งเป็นแค่มุมมองของการปล่อยมันไปเฉย ๆ” แม็กซ์ระบุ 

“แล้วแต่เธอ (Suit Yourself)”

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องดราม่าในโลกโซเชียล ก็ทำให้แม็กซ์ เจนมานะ ถูกโจมตีจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ซึ่งนั่นก็เป็นที่มาของเพลงสุดท้ายในอัลบั้มล่าสุด ที่เขาตั้งชื่อว่า “แล้วแต่เธอ” 

“ในหนึ่งปีที่ผ่านมา ผมมีสิ่งที่ผมต้องทำอยู่ ทัวร์ยังไม่มีใช่ไหม ผมก็เรียนโท แล้วก็ทำโปรดักชั่นเฮ้าส์ แล้วผมก็มีเวลาสำหรับการค้นหาตัวเองในการทำงานเพลง ผมก็คิดอยู่ตลอดว่าผมจะปล่อยเพลงยังไง นี่อาจจะเป็นวิธีการที่ผมหาวัตถุดิบในความคิดของผม สุดท้ายปลายทางมันก็เลยมาสู่เพลงสุดท้าย แล้วแต่เธอ” แม็กซ์เล่า 

“อยากทำอะไรก็ทำกันเลย แต่มันอาจจะกลับมาที่แล้วแต่เราด้วย ว่าเราก็ต้องมองมุมกลับเหมือนกัน ว่าเราหน้าตายังไงสำหรับคนอื่น ว่าคนอื่น ๆ เขาก็ควรจะแล้วแต่เราบ้างนะ” 

ทำหน้าที่วางกระจกให้คนส่อง

เมื่อถามย้อนไปถึงช่วงดราม่าหนัก ๆ ที่แม็กซ์ต้องเผชิญ เขาบอกว่าเขาไม่ได้ใส่ใจและรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบ “ทำตามใจตัวเอง” พร้อมระบุว่า ตลอดช่วงดราม่าที่เกิดขึ้น คนเดียวที่เขาอยากขอโทษคือ “ตัวเอง” ที่เอาใจลงไปเล่นกับเรื่องนี้ 

“ผมเน้นเป็นกระจกอย่างเดียวเลย สิ่งที่ผมทำคือผมทำ Parody ให้คนที่เขาอยากเป็นอะไร มีอัตลักษณ์อย่างไร ก็เต็มที่ อยากจะมาพ่นคำพูด เขียนแบบไหนก็มาได้ แต่ว่าผมไม่ได้สนใจว่าพวกเขาคือใคร จะเป็นฝั่งไหนหรือจะเป็นใคร เขาก็มาเล่นกับผมหมดเลย เหมือนผมวางกระจกไว้กลางทุ่ง แล้วพวกเขาก็มาส่องกันเอง” แม็กซ์เล่า 

“จริง ๆ ผมไม่ได้อยากเข้ามาอยู่ตรงนี้เลย แต่ว่ามันเหมือนผมไม่ได้รับความยุติธรรม ผมก็ต้องปกป้องสิทธิตัวเอง แล้ววิธีการปกป้องเราก็ต้องสร้างสรรค์ที่สุด เพราะฉะนั้นใครที่อยากพูดอะไรเกี่ยวกับเรา คิดอะไร ก็ตามสบาย แต่เราก็มีหน้าที่จะบอกว่า คุณจะบอกให้เราคิดแบบนี้ไม่ได้ คุณรู้ได้ยังไงว่าจริง ๆ แล้วผมคิดยังไง เพราะถ้าผมบอกว่า ผมคิดแบบนี้นะ ถ้าเขาไม่อยากเชื่อ เขาก็ไม่เชื่อ แล้วคุณจะมาสนใจทำไมว่าผมคิดอะไร” เขากล่าว 

เติบโตและเรียนรู้ 

แน่นอนว่าดราม่าย่อมส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของแม็กซ์ เจนมานะ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เขาก็ยืนยันว่า เรื่องเหล่านั้นไม่ได้ส่งผลต่อเขามากนัก และเขาก็ได้เรียนรู้ว่าตัวเองมีรากฐานที่ดีมากจากดราม่าที่เกิดขึ้น 

“ผมรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้น ยิ่งเราโต เราจะยิ่งรู้ว่าผู้ใหญ่ไม่มีจริง มันไม่มีผู้ใหญ่เลย มีแต่เด็กที่รอดตายมาจนโต ถ้าเรา Keep Growing แล้วก็เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ มันน่าจะดีที่หาคนจำกัดวง แล้วโตไปด้วยกันได้ ส่วนคนอื่นจะเป็นยังไงก็ช่างเขาเถอะ เราไม่ต้องกลัวที่จะเป็นตัวเอง เราจะคิดยังไงก็ตามนั้น มันเพอร์เฟ็กต์ที่สุดในโมเมนต์นั้น ในปัจจุบันถ้าผิดพลาดก็คือบ้ง หรือล้ม ก็ล้มไปเรื่อย ๆ ล้มจนกว่าจะลุก” แม็กซ์สะท้อน 

“แต่สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากที่สุดเกี่ยวกับตัวเองที่ได้เรียนรู้ คือรากฐานผมดีมาก ไม่มีผู้หญิงคนไหนในชีวิตเกลียดผม แล้วผมดูแลครอบครัวตัวเองดีมาก พื้นผมค่อนข้างแข็งแรง ผมยืนมั่นคงมาก มันทำให้ผมเรียนรู้ว่า อ๋อ มันไม่มีอะไรเลยนี่หว่า พอเรารู้อย่างนี้ เราก็เลยค่อนข้างรู้เลยว่า เราก็เป็นคนจ๊าบเหมือนกันนี่หว่า” แม็กซ์กล่าวทิ้งท้าย