ทางแยกแห่งความฝันของทันตแพทย์เสียงสวย “ยุง ขนิษฐา” | Sanook Music

ทางแยกแห่งความฝันของทันตแพทย์เสียงสวย “ยุง ขนิษฐา”

ทางแยกแห่งความฝันของทันตแพทย์เสียงสวย “ยุง ขนิษฐา”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Highlight

  • ขนิษฐา เจนพิชัย หรือ “ยุง” เป็นศิลปินหน้าใหม่จากค่าย No1r ที่มีอีกบทบาทหนึ่ง คือการเป็นทันตแพทย์
  • ยุงค้นพบว่าตัวเองชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก แต่เลือกเรียนคณะทันตแพทยศาสตร์เพื่อความมั่นคงในเรื่องการงานและรายได้ และทำตามความหลงใหลในการร้องเพลง ด้วยการเป็นนักร้องใน CU Band
  • หลังจากทุ่มเทกับการเรียนมานาน ยุงตัดสินใจหวนกลับมาร้องเพลง โดยร้องเพลงคัฟเวอร์ในช่อง YOONG ทาง YouTube
  • ล่าสุด ยุงได้เปิดตัวเป็นหนึ่งในศิลปินของค่าย No1r พร้อมซิงเกิลแรกในชีวิต “คนไกลไกล” และตั้งใจจะทำงานทันตแพทย์ควบคู่ไปกับการร้องเพลง

“ความใฝ่ฝัน” กับ “ความอยู่รอด” คำสองคำที่มักจะขัดแย้งกันในการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ หลายคนเลือกจะทิ้งความใฝ่ฝันเพื่อแสวงหาความมั่นคงและอยู่รอดในโลกที่ไม่มีความแน่นอน จนดูเหมือนว่า คำสองคำนี้ไม่อาจดำรงอยู่คู่กันได้ ทว่าสำหรับ “ยุง – ขนิษฐา เจนพิชัย” ทันตแพทย์และศิลปินหน้าใหม่ในสังกัดค่าย No1r ความใฝ่ฝันและการอยู่รอดของเธอได้มาบรรจบกัน ในวันที่เธอรู้ตัวว่าการร้องเพลงเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงตัวตนและจิตใจของเธอ ขณะที่งานทันตแพทย์ก็เป็นสิ่งที่เธอถนัดและสร้างรายได้ที่มั่นคง จนในที่สุดเธอก็ต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางชีวิตอีกครั้ง เพื่อสิ่งที่เธอรักทั้งสองอย่าง

ยุง ขนิษฐา เจนพิชัย ทันตแพทย์, YouTuber และศิลปินจากค่าย No1rยุง ขนิษฐา เจนพิชัย ทันตแพทย์, YouTuber และศิลปินจากค่าย No1r

“จริงๆ คิดว่าน่าจะชอบร้องเพลงอยู่แล้ว แล้วพอเข้าโรงเรียน ตั้งแต่ประถมเลย ก็ร้องให้เพื่อนฟัง แล้วเพื่อนก็บอกว่า เราร้องเพลงเพราะ หนูก็เชื่อเพื่อน ก็ร้องมาเรื่อยๆ เราก็เริ่มประกวดในโรงเรียนเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ” ยุงเริ่มเล่าถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้รักการร้องเพลง

ยุงก้าวเข้าสู่เวทีประกวดร้องเพลงตั้งแต่ชั้น ป.5 ด้วยเพลงสากลยอดฮิตอย่าง Somewhere over the Rainbow ก่อนที่จะร่วมประกวดร้องเพลงในโรงเรียนมาจนถึงชั้นมัธยม จนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งเธอก็เป็นเหมือนวัยรุ่นเด็กเรียนคนอื่นๆ ที่เรียนสายวิทยาศาสตร์ และมีปลายทางอยู่ที่คณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ หรือวิศวกรรมศาสตร์ ด้วยมองเห็นถึงเส้นทางที่มั่นคงปลอดภัยในแง่ของหน้าที่การงานและรายได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การเลือกเรียนในคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็เปิดโอกาสให้เธอซึมซับตัวตนอีกด้าน คือการเป็นนักร้อง

ทันตแพทย์ vs นักร้อง

ยุงเล่าว่า สมัยที่เธอเพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย การร้องเพลงยังเป็นเพียงงานอดิเรกยามว่าง จนกระทั่งได้เข้าร่วมกิจกรรม CU Freshy Night ที่มีการจัดคอนเสิร์ตของศิลปินที่มีชื่อเสียง และโชว์ของ CU Band ซึ่งเป็นชมรมดนตรีชื่อดังของมหาวิทยาลัย ทำให้เธอรู้สึกอยากเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมนั้น และตัดสินใจไปออดิชั่นตั้งแต่อยู่ปี 1 โดยเธอเล่าว่า ในมุมของนิสิตปี 1 นั้น ความยากของการออดิชั่น คือการค้นหาสไตล์ของตัวเองให้เจอ

“คือตอนนั้นหนูร้องเพลงไทยมาตลอด แล้วก็รู้สึกว่า ถ้าเราไปร้องสากล ดิวาแข่งกับเขา ไม่น่ารอด หนูก็เลยเลือกเพลงรักแท้ยังไง ของน้ำชา ไปเลย ก็เลยได้เพราะเพลงนี้ เราก็เหมือนร้องสดใสๆ ไป ยิ้มๆ ไปให้เขา เขาก็บอกว่าเอเนอร์จี้เราเหมาะกับเพลงเร็วนะ ร้องแล้วมันดูมีชีวิตชีวา”

การเข้าร่วมชมรม CU Band ไม่เพียงแต่จะทำให้เธอได้รู้จักเพื่อนต่างคณะ และเปิดมุมมองของเธอจากการพูดคุยกับเพื่อนที่เรียนในหลากสายวิชาเท่านั้น แต่เธอยังได้เรียนรู้ทักษะการร้องเพลงและการทำโชว์เบื้องต้นจากรุ่นพี่ในชมรมและจากประสบการณ์ในการขึ้นโชว์ตามงานต่างๆ ราวกับว่าได้ฝึกการเป็นนักร้องอย่างจริงจังมากขึ้น ทว่าสิ่งที่ต้องแลกกับประสบการณ์ครั้งนี้ คือการบาลานซ์ระหว่างกิจกรรมที่ตัวเองรัก กับการเรียนที่หนักมากเช่นกัน ซึ่งเธอยอมรับว่า เธอไม่สามารถบาลานซ์ทั้งสองสิ่งนี้ได้

“ตอนที่หนูร้องเพลงจริงจังเลยคือปี 1 เข้าชมรมตลอด เพราะว่าซ้อมหนักมากค่ะ 5 โมง ถึง 3 ทุ่ม หนูมีเรียนเช้า 8 โมง ก็คือตื่นไม่ไหว ไปเรียนไม่ทัน แล้วเกรดที่ได้ตอนปี 1 คือแย่มาก แล้วก็เลยรู้ว่าเป็นคนที่ทำสองอย่างพร้อมกันไม่ได้ สุดท้ายปี 2 ปี 3 ต้องหยุดชมรม กลับมาเรียนจริงจัง” ยุงกล่าว

YouTube Channel: YOONG

หลังจากหันมาจริงจังกับการเรียนมากขึ้น ในที่สุด ยุงเรียนจบและต้องไปทำงานใช้ทุนที่โรงพยาบาลชุมชนในต่างจังหวัด ที่แม้ว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดี แต่เธอก็ยอมรับว่า การร้องเพลงไม่ใช่แค่งานอดิเรก แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเธอทีเดียว

“ตอนแรกเราคิดว่าการร้องเพลงของเราเป็นงานอดิเรกมาตลอด แต่ว่าพอเอาเข้าจริง พอเราไม่ได้ร้องเพลงแล้ว ไม่คิดอย่างนั้น กลับเป็นความรู้สึกว่าเราเกิดมาแล้ว ทำไมถึงทิ้งตรงนี้ ทั้งที่รู้สึกว่าเราก็ทำได้ แล้วก็เป็นจุดเปลี่ยนที่เรารู้สึกว่าเหมือนไม่อยากแก่ไปแล้วยังค้างคาตรงนี้อยู่ ก็เลยตัดสินใจว่า โอเค หนูต้องทำอะไรสักอย่าง”

ยุงเล่าว่า เส้นทางใหม่ที่เธอเลือกเพื่อกลับมาร้องเพลงอย่างจริงจัง คือการร้องเพลงคัฟเวอร์ในช่อง YouTube โดยใช้ชื่อช่องว่า YOONG เพราะในขณะนั้น รายการประกวดร้องเพลงหลายรายการ ที่ผลักดันศิลปินหน้าใหม่เริ่มเสื่อมความนิยมลง นอกจากนี้ ยุงยังเล่าให้ฟังถึงความท้าทายในเส้นทางใหม่นี้ว่า

“ตอนแรกก็จะมีกลุ่มเพื่อนที่น่ารักมาคอยสนับสนุน เข้ามากด subscribe ให้ แต่มันก็จะซับได้ประมาณ 100 – 200 คน ตอนนั้นค่ะ แล้วมันก็แช่อยู่อย่างนั้นค่ะ กว่าเราจะขยับจากจุดที่มีแต่เพื่อนๆ ฟังมาถึงจุดที่คนอื่นๆ ฟัง ตรงนั้นหนูว่าจะยาก ใช้เวลาแล้วก็จะท้อไปก่อน แต่หนูคิดว่ามันไม่มีทางเลือก หมายถึงมันไม่มีทางเลือกอื่นเลย เราก็ต้องทำต่อ แค่นั้นเอง

“สุดท้ายก็ อ่ะ... มันยังไม่ได้ก็ทำเพลงใหม่ หาเพลงใหม่ทำ เพลงที่เราชอบ ลองเลือกมา เพลงใหม่ไม่เวิร์ก ลองทำเพลงเก่า เผื่อคนเขาจะชอบ ค่อยๆ ทำ แล้วก็อย่าหยุด” ยุงเล่า

แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ยุงก็บอกว่า การทำคลิปร้องเพลงคัฟเวอร์นั้นสนุกที่สุด เพราะได้ร้องเพลงที่ตัวเองชอบในเวอร์ชั่นของตัวเอง และมีโบนัสคือคนฟังก็ชอบในแนวทางการร้องเพลงของเธอ

ศิลปินในสังกัดค่าย No1r

2 – 3 ปีต่อมา หลังจากเปิดช่อง YouTube ของตัวเอง ยุงได้รับการติดต่อให้ไปออดิชั่นเป็นศิลปินในสังกัดค่าย No1r ซึ่งเธอเล่าว่า เหมือนฝันเป็นจริงเลยทีเดียว และล่าสุด เธอก็ได้มีซิงเกิลเป็นของตัวเองครั้งแรกในชีวิต ที่มีชื่อว่า “คนไกลไกล” โดยได้ทีมงานคุณภาพอย่าง ปอ - กฤษสรัญ จ้องสุวรรณ จากวง Whale & Dolph เป็นคนแต่งเพลง และได้โปรดิวเซอร์อย่าง “กิจแจ๊ส” โปรดิวเซอร์มือดีของสิงโต นำโชค มาร่วมงานด้วย

ด้วยความที่เป็นซิงเกิลแรก ปอจึงเปิดพื้นที่ให้ยุงเล่าเรื่องราวในชีวิตที่อินที่สุด เธอจึงเลือกเล่าประสบการณ์แอบรักรุ่นพี่สมัยมัธยม จนกลายเป็นเพลงนี้ในที่สุด

“เราเคยแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่ง ตอนนั้นก็เป็นเด็กเรียนที่ไม่น่าสนใจ ประเมินตัวเองได้ แล้วก็รู้สึกว่าเขาไม่น่าจะสนใจ เพราะฉะนั้น หนูก็เลยเก็บความรักนี้ไว้กับตัวเอง แอบชอบแบบไกลมากๆ แล้วก็คิดว่าไม่มีทางบอกแน่นอน พี่ปอฟังเรื่องของเราก็รู้สึกว่าน่าสนใจ ก็เลยไปเขียนเป็นเพลงคนไกลไกลมา”

ทางแยกแห่งความฝัน

ปัจจุบัน ยุงเรียนจบทันตแพทย์ทั่วไป และเรียนต่อเฉพาะทางด้านศัลยกรรมมาแล้ว เส้นทางที่เธอมองไว้ ณ ตอนนี้ คือทำงานเป็นทันตแพทย์ก่อน เพื่อหารายได้ ควบคู่ไปกับการทำงานเพลง ซึ่งเป็นความฝันของเธอ

หนูคิดว่าน่าจะต้องทำทั้งสองอย่าง ใช้เวลาเท่าๆ กัน หมายถึงว่าต้องไม่หนักเกินไป ทำฟันที่เคยทำเยอะก็ต้องลดเวลาลงมา แต่ว่าทำฟันเหมือนเราทำมาจนเป็นอาชีพแล้ว มันก็หลายปีแล้ว มันก็เลยเหมือนทำจนชำนาญแล้ว แต่แค่ใช้เวลากับมันให้น้อยลง แล้วก็มาทุ่มเททางนี้มากขึ้น ที่เป็นทางใหม่”

“เป้าหมายตอนนี้ก็คืออยากทำเพลงให้เต็มที่ก่อนค่ะ คิดว่าอยากทำเพลงที่เรามีความสุขด้วยแล้วก็คนฟังน่าจะสนุกไปด้วยกัน” ยุงกล่าวทิ้งท้าย

อัลบั้มภาพ 35 ภาพ

อัลบั้มภาพ 35 ภาพ ของ ทางแยกแห่งความฝันของทันตแพทย์เสียงสวย “ยุง ขนิษฐา”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook