Aaron Carter กับที่สุดของเพลงในความทรงจำของแฟนๆ ยุค ‘90s-2000s
Aaron Carter (แอรอน คาร์เตอร์) ถูกพบร่างเสียชีวิตในอ่างอาบน้ำที่บ้านในแลนแคสเตอร์ แคลิฟอร์เนีย เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ (5 พ.ย. 65) ตามเวลาท้องถิ่น เขาจากไปในวัย 34 ปี
Aaron Carter เป็นศิลปินระดับป็อปสตาร์ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในยุคท้ายๆ ของปี ‘90s และช่วงต้นๆ ของปี 2000s ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเขามีผลงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัลบั้มเต็มทั้งหมด 5 ชุด อัลบั้ม EP อีก 3 ชุด และ 39 ซิงเกิล เขาเริ่มเส้นทางการเป็นศิลปินตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และเริ่มมีอัลบั้มของตัวเองตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เขาเป็นที่จดจำในฐานะนักร้อง นักแสดงเด็ก และน้องชายสุดที่รักของ Nick Carter สมาชิกน้องคนสุดท้องของบอยแบนด์ระดับโลก Backstreet Boys
Sanook พาย้อนความสำเร็จจากผลงานเด่นๆ ของเขา ให้แฟนๆ ได้ระลึกถึงเขากันอีกครั้ง
Crush on You (1997)
ซิงเกิลแรกอย่างเป็นทางการในชีวิตของการเป็นศิลปินตัวน้อยของ Aaron Carter ในเอ็มวีเปิดฉากด้วย Nick คนพี่มาสอนน้องจีบสาว แม้ว่าตอนนั้นเขายังเด็กเล็กมากๆ แต่ก็เป็นที่สนใจของคนอเมริกันในยุคนั้นเป็นอย่างมากเช่นกัน
I Want Candy (2000)
ตอกย้ำความเป็นเด็กแนวร่าเริงสดใสด้วยเพลงลูกอมหวานๆ ที่มีเนื้อเพลงซ้ำๆ จะง่าย สูตรเพลงฮิตของเพลงในยุค 2000 แต่ก็เป็นเพลงติดหูที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายคนแน่นอน และเป็นเพลงเปิดตัวอัลบั้ม Aaron's Party (Come Get It) อัลบั้มที่มีในหลายๆ บ้านของชาวอเมริกันแน่นอน
Aaron's Party (Come Get It) (2000)
Aaron เปิดตัวเป็นศิลปินแนวฮิปฮอปอย่างเต็มตัวจากเพลงนี้ ด้วยวัยที่โตขึ้น สกิลในการร้องและแร็ป รวมถึงความมั่นใจในการเป็นศิลปินของเขาพุ่งขึ้นแบบทะลุกราฟ ในวัย 10 ต้นๆ ของ Aaron สามารถแสดงบนเวทีและเป็นที่รู้จักของคนอเมริกันและแฟนๆ ทั่วโลกโดยไม่ต้องมีชื่อของ Nick พ่วงท้ายแล้ว
Not Too Young, Not Too Old (2001)
เป็นอีกเพลงหนึ่งที่มีชื่อเสียงในเมืองไทยบ้านเรา นอกจากเพลง “Oh Aaron” เพลงจังหวะน่ารักที่ได้ Nick Carter มาร่วม featuring แล้ว เพลงนี้เขาก็ยังได้พี่ชายมาช่วยร้องให้ด้วยเหมือนกัน จะเห็นได้ว่าเพลงดูโตขึ้นกว่าเดิมอีกนิด และแนวเพลงไปทางฮิปฮอปกว่าเดิมอีกหน่อย เริ่มเห็นทิศทางแนวดนตรีของเขามากขึ้น
I'm All About You (2001)
เชื่อได้เลยว่าหลายคนในเมืองไทยรู้จักชื่อ Aaron Carter จากเพลงนี้ เพลงบัลลาดป็อปอาร์แอนด์บีที่ถูกใจคนไทยในทุกยุคทุกสมัย รวมถึงเพลงแฟนเพลงทั่วโลกด้วย และปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นช่วงที่เขาดูดีสุดๆ ช่วงหนึ่งเช่นกัน
Summertime ft. Baha Men (2002)
เปิดอัลบั้มใหม่ Another Earthquake! ในปี 2002 ด้วยเพลงสนุกๆ แนวฮิปฮอปสนุกๆ เพิ่มความเป็น ska หน่อยๆ จากการได้ featuring กับ Baha Men เรียกว่าจับมือกันรุ่งทั้งคู่ได้เลย
Do You Remember (2002)
อีกเพลงสไตล์ป็อปใสๆ ที่โด่งดังในเมืองไทยต่อจากเพลง “I’m All About You” โดยเป็นซิงเกิลที่ 2 จากอัลบั้มถัดมาในปี 2002 อย่าง Another Earthquake! ที่ต่อยอดความสำเร็จจากอัลบั้มที่ได้แล้วได้เป็นอย่างดี
Saturday Night (2005)
กาลเวลาผ่านไป Aaron กลับมาด้วยเสียงที่หนาและทรงพลังมากขึ้น แนวดนตรีโตขึ้น ฝีไม้ลายมือในการแสดงสดก็แพรวพราวมากขึ้น เห็นได้จากกระแสตอบรับจากเพลงนี้ที่แฟนๆ หลายคนชื่นชมในความสามารถของเขาอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ดาราเด็กที่ดังตามพี่ชายเท่านั้น โดยเพลงนี้ได้ประกอบภาพยนตร์ Popstar ที่เขานำแสดงอีกด้วย
Sooner Or Later (2017)
Aaron Carter หายไปช่วงหนึ่งจากปัญหาโรคซึมเศร้า มีพฤติกรรมการกินอาหารที่ผิดปกติ (eating disorder) และบำบัดอาการติดสิ่งเสพติด ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการเป็นซูเปอร์สตาร์ตั้งแต่วัยเด็ก ถูกบังคับให้ทำงานเกินตัว ถูกผู้ใหญ่รอบตัวเอารัดเอาเปรียบ เขายังรักในเสียงดนตรีและยังปล่อยเพลงออกมาเรื่อยๆ โดยเพลงนี้เป็นการกลับมาที่สมบูรณ์แบบอีกครั้งของเขา ที่ยังคงพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการเป็นศิลปิน และความรักในเสียงดนตรีของเขาตั้งแต่เด็กจนโตได้เป็นอย่างดี
Scars (2022)
ผลงานเพลงสุดท้ายที่ Aaron ปล่อยให้แฟนๆ ได้ฟังกัน เป็นเพลงที่เขาทำร่วมกับ 3D Friends นักร้อง นักดนตรี และโปรดิวเซอร์ที่เขาเคยทำเพลง "She Just Wanna Ride" ด้วยกันมาก่อนหน้านี้
ในปี 2022 นี้ เขาทยอยปล่อยเพลงใหม่ทีละเพลง และวางแผนจะปล่อยอัลบั้มเต็มที่มีชื่อว่า Blacklisted ที่เจ้าตัวทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และวางแผนจะปล่อยให้ฟังกันในวันที่ 7 ธันวาคม เพื่อฉลองครบรอบวันเกิด 35 ปีของเขา แต่หลังจากเขาเสียชีวิต จึงเลื่อนมาปล่อยในวันที่ 6 พ.ย. นี้ โดย Morgan Matthews และ John Wyatt Johnson โปรดิวเซอร์ในอัลบั้มนี้ของเขาตัดสินใจปล่อยอัลบั้มเร็วขึ้น เพื่อเป็นการให้เกียรติกับเขาผู้ล่วงลับไปแล้วนั่นเอง
อัลบั้ม Blacklisted เป็นอัลบั้มสุดท้ายของเขาอย่างน่าเสียดาย ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกในรอบ 6 ปีของเขาที่ใช้เวลาอัดเพลงในอัลบั้มทั้งหมดนานกว่า 12 เดือน
โปรดิวเซอร์ของ Aaron บอกว่า “พวกเรารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับเขาตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมาเพื่อโปรดิวซ์อัลบั้ม Blacklisted เขาเป็นนักร้องและนักแต่งเพลงที่มีพรสวรรค์ ความสามารถของเขาเปล่งประกายอย่างชัดเจนระหว่างทำโปรเจกต์นี้ ไม่คิดเลยว่านี่จะเป็นอัลบั้มสุดท้ายของเขา”
“เราสองคนจึงตัดสินใจปล่อยอัลบั้มนี้ออกมาเร็วขึ้นกว่าเดิม เป็นวันที่ 6 พ.ย. เพื่อเป็นเกียรติให้กับเขา และแบ่งปันความเป็นศิลปินของเขาให้กับแฟนๆ ทั่วโลกได้ฟังระหว่างที่ทุกคนอยู่ในช่วงรำลึกและโศกเศร้ากับการจากไปของเขา”
อัลบั้มภาพ 46 ภาพ
.jpg?ip/crop/w350h197/q80/jpg)
