สัมภาษณ์ bbno$ ถึงที่มาของชื่อ เหตุผลที่เลิกปาร์ตี้ และชีวิตที่เปลี่ยนไปจากเพลง “Lalala”

บทสัมภาษณ์ของ bbno$ (baby no money) ที่จะทำให้คุณรู้ว่า ทำไมเขาถึงตั้งชื่อในการเป็นศิลปินเป็นชื่อนี้ ทำไมไม่ใช้ชื่อตัวเองตามปกติ ทำไมถึงเลิกปาร์ตี้ เลิกดื่มแอลกอฮอล์ แล้วซัดกาแฟตอนตี 3 แทน และความสำเร็จของเพลง “Lalala” เปลี่ยนชีวิตเขาไปอย่างไรบ้าง

Sanook มีโอกาสได้พูดคุยกับเขาผ่าน Email Interview ที่เรากล้าพุดได้เลยว่าถึงแม้เราจะได้ทำความรู้จักเขาผ่านตัวอักษร แต่เขาเป็นศิลปินคนหนึ่งที่จริงจังและจริงใจในการตอบคำถามมาก ถ้าสงสัยว่าเป็นอย่างไร ก็มาอ่านบทสัมภาษณ์ที่เต็มไปด้วยรสชาติของเขากัน

---

ทำไมถึงตั้งชื่อในการเป็นศิลปินของตัวเองว่า bbno$ (baby no money) ไอเดียของชื่อนี้มาจากไหน

bbno$: Baby no money หรือ bbno$ เป็นอีกตัวตนหนึ่งของผม (alter ego) ที่เน้นไปที่ตัวตนของ Alexander Gumuchian คนที่ผมอยากเป็นมาตลอด แต่จากชีวิตในที่ทำงานที่แสนธรรมดาและเป็นแบบแผนในทุกวันนี้ของผม ถ้าผมเป็นเขาจริงๆ ผมคงเอาชีวิตรอดไม่ได้ bbno$ เป็นตัวตนที่ทำให้ผมได้เป็นคนที่ผมอยากจะเป็นมาตลอด

ส่วนชื่อ bbno$ ผมคิดชื่อนี้ขึ้นมาได้โดยบังเอิญครับ ตอนนั้นผมทำเสื้อ jersey กับดีเจของผม (Dan) และตอนนั้นผมใช้ชื่อว่า bbfreestyle แต่ตัวอักษรมันไม่พอดี ผมเลยย่อให้เหลือ bbno$ จริงๆ ที่มาของอะไรแบบนี้มันก็แปลกดีเหมือนกันเนอะ

 

นอกจากเป็นศิลปินแล้ว คุณยังเป็นนักเล่นเกมและนักกีฬาอีกด้วย เกมกับกีฬามีอิทธิพลอะไรต่อการเป็นศิลปินของคุณบ้างไหม

bbno$: วัฒนธรรมเกมและอินเตอร์เน็ตมีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ การเป็นนักกีฬาก็ทำให้ผมสู้ต่อไปเวลาที่ผมหมดแรง ผมยังคงจำได้อย่างชัดเจนเลยว่าการเหนื่อยแบบหมดแรงจนถึงขีดสุดตอนที่ฝึกว่ายน้ำและไม่อยากจะว่ายต่อแล้ว แต่ก็ยังโดนโค้ชตะโกนใส่ให้ว่ายต่อมันเป็นยังไง ผมเชื่อว่าความมีระเบียบวินัยตอนที่เป็นนักกีฬาถูกซึมซับอยู่ในบุคลิกของผมไปแล้ว และทำให้ผมเป็นคนที่เผชิญกับความเครียดความกดดันทั้งทางร่างกายและจิตใจได้เป็นอย่างดีครับ

 

คุณเลิกดื่มและเลิกปาร์ตี้ แต่เลือกที่จะดื่มกาแฟอย่างหนักตอนตีสามแทน ทำไมคุณถึงตัดสินใจที่จำทำอะไรแบบนั้น

bbno$: บางครั้งคุณก็ต้องเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีสุดๆ บ้าง ผมเล็งเห็นถึงอนาคตในอาชีพของผม และอะไรอื่นๆ อีกมาก ผมคงตัดอนาคตตัวเองไปง่ายๆ ถ้าผมยังไม่ทันได้ลองพยายามกับมันอย่างเต็มที่จริงๆ ว่าไหม? บางครั้งเราก็ต้องบอกร่างกายของเราให้เข้าใจในเรื่องนี้และพยายามทำให้ได้ จริงๆ แล้วงานปาร์ตี้มันสนุกมากจริงๆ แต่หลายครั้งที่ทำให้เราเหนื่อยสุดๆ และไม่สามารถทำอะไรต่อได้ การดื่มก็เหมือนกัน มันจะยากนิดนึงตอนที่พยายามจะกลับมาเข้ารูปเข้ารอยใหม่อีกครั้งครับ

 Instagram @bbnomulabbno$ (baby no money)

ถ้าให้อธิบายซาวด์ดนตรีที่คุณทำ คุณอยากอธิบายว่าอะไร แตกต่างจากซาวด์เพลงของศิลปินคนอื่นๆ อย่างไรบ้าง

bbno$: ถ้าได้ฟังเพลงของผม คุณจะบอกได้เองเลยครับว่ามันแตกต่างมากๆ ผมไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดยังไงว่าเพลงของผมเป็นดนตรีแนวไหน แต่ผมแน่ใจมากว่ามันแตกต่างจากดนตรีของคนอื่นอย่างชัดเจน ผมแค่เป็นตัวจของผมเอง ผมรู้สึกว่ามันออกมาเป็นแบบนั้นผ่านทางออนไลน์และโชว์ต่างๆ ผมพยายามที่จะเป็นตัวของตัวเอง แม้ว่าบางครั้งมันก็ยากเพราะเราก็รายล้อมไปด้วยอิทธิพลต่างๆ รอบตัว และอาจจะยากที่จะให้เราแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องต่างๆ ออกมา แต่ถ้าให้ผมอธิบายดนตรีของผมจริงๆ ผมอาจจะบอกว่ามันเป็นแค่เพลงจังหวะสนุกๆ ที่ให้เราได้ฟังแล้วมีช่วงเวลาที่ดีไปกับมันครับ

 

คุณเป็นอีกคนหนึ่งที่เติบโตมากับการโปรโมตเพลงผ่านอินเตอร์เน็ต เช่น SoundCloud, YouTube และสตรีมมิ่ง ถ้าโลกนี้ไม่มีอินเตอร์เน็ต คุณจะโปรโมตเพลงของคุณอย่างไร

bbno$: เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าผมจะได้มาเป็นศิลปิน แต่ผมก็ได้รับอิทธิพลทางดนตรีอย่างหนักมากๆ จากแร็ปเปอร์หลายคนผ่านทาง SoundCloud ทั้ง BONES, Yung Lean และคนอื่นๆ ถ้าไม่ได้อิทธิพลจากพวกเขา ส่วนตัวผมคิดว่าผมคงไม่มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จบนถนนสายดนตรีนี้ได้แน่ๆ ผมเป็นเด็กติดอินเตอร์เน็ตมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ผมเลยคิดว่ามันก็สมเหตุสมผลที่จะคิดแบบนี้จริงๆ นะ เหมือนเป็นเด็กที่นั่งติดโต๊ะคอมตลอดเวลาเลย (หัวเราะ) ถ้าโลกนี้ไม่มีอินเตอร์เน็ตเพื่อช่วยโปรโมตเพลง ชีวิตผมคงพังแน่ๆ

 

เพลง “Lalala” เป็นเพลงสุดฮิตทาง social media ต่างๆ และมียอดสตรีมมากกว่า 12 ล้านครั้งในช่วงเวลาแค่ไม่กี่สัปดาห์ แถมยังมีเวอร์ชั่น remix กับ Enrique Iglesias และ Carly Rae Jepsen ออกมาให้ฟังอีกด้วย รู้สึกยังไงบ้าง คิดว่าเหตุผลที่ทำให้เพลงนี้ฮอตฮิตจนกลายเป็นไวรัลมากขนาดนี้ เป็นเพราะอะไร

bbno$: เพลงนั้นทำให้ผมจริงจังกับชีวิตในการเป็นศิลปินของผมมากขึ้นครับ จริงๆ แล้วผมจบการศึกษาในวันที่ปล่อยเพลง “Lalala” เลย วันนั้นเลยสุดๆ มาก ช่วงนั้นเพื่อนๆ ในวงการเพลงของผมกำลังหยุดทำเพลงกันยาวๆ เลย ยกเว้นผม จริงๆ ก็ค่อนข้างน่ารำคาญนิดๆ ด้วยนะตอนนั้น เพราะผมเองก็เห็นเพื่อนศิลปินหลายคนได้ดิบได้ดีกันทั้งนั้น ผมเลยแบบ แม่ง! โชคของเราไปไหนหมด แต่สุดท้ายก็มีเรื่องเพลงนี้เข้ามา มันเลยเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ เลยครับ เพอร์เฟกต์สุดๆ ไปเลย

ถึงแม้ว่าตอนนั้นผมจะยังไม่พร้อมที่จะเป็นศิลปินที่อยู่ในกระแสหลักมากๆ จากเพลงนี้ เพราะเรื่องที่ดีๆ ที่มากับความโด่งดังของเพลงนี้มันถาโถมเข้ามาแบบเร็วเกินกว่าจะตั้งตัวทัน แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ ที่เห็นเพลงนี้เติบโต เหมือนได้รับรางวัลให้กับชีวิตเลยครับ ผมคิดว่าจริงๆ แล้วเหตุผลที่ทำให้เพลงนี้โด่งดังมากๆ เพราะเพลงมันดีและติดหูง่ายมากๆ ครับ

 Instagram @bbnomulabbno$ (baby no money)

คุณได้ร่วมงานกับศิลปินมากฝีมือหลายคนเลย ไม่ว่าจะเป็น  Diplo, Rich Brian, BENEE, Wiz Khalifa, MAX และอีกมากมาย อะไรที่เป็นเหตุผลที่ทำให้คุณตัดสินใจที่จะทำเพลงร่วมกับศิลปินสักคนหนึ่ง

bbno$: อันที่จริง บางครั้งพวกเขาก็เป็นติดต่อผมมา แล้วผมก็ตกลงที่จะทำงานกับเขาไปครับ แต่บางครั้งผมก็เป็นคนติดต่อไปขอร่วมงานกับเขาเอง แต่ส่วนใหญ่มักจะผ่านคนรู้จักกันครับ BENEE เป็นศิลปินคนหนึ่งที่ผมชอบมาก ผมเลยเซอร์ไพรส์มากๆ ที่เธอติดต่อผมกลับมา มันดีมากๆ เลยครับ

 

เป้าหมายในการเป็นศิลปินของคุณ คืออะไร

bbno$: แค่อยากสนุกในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วก็สร้างสรรค์ผลงานศิลปะออกมาครับ

 

เคยมาเที่ยวเมืองไทยไหม คุณประทับใจอะไรในเมืองไทยมากที่สุด

bbno$: (พิมพ์เป็นตัวอักษรใหญ่) อาหารโครตอร่อยเลยครับ ผมไม่สนว่าใครจะห้ามไม่ให้ผมพูดคำหยาบในบทสัมภาษณ์นี้ แต่คุณเอ๊ย มันโครตอร่อย โอ้มายก๊อด ผมชอบส้มตำมาก โอ้มายก๊อด เป็นเมนูที่ผมชอบที่สุดในโลกนี้เลย ผมไม่ได้โกหกด้วย

 

ฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยหน่อย

bbno$: พวกคุณโครตน่าอิจฉา เมืองไทยอาหารโครตอร่อย ผมจะกลับไปให้เร็วที่สุด ผมรักเมืองไทยครับ 555