SINGING BIRD #2 บันทึกความสุขีจากผลงานล้ำค่าของซูเปอร์สตาร์เหนือกาลเวลา (วันแรก) | Sanook Music

SINGING BIRD #2 บันทึกความสุขีจากผลงานล้ำค่าของซูเปอร์สตาร์เหนือกาลเวลา (วันแรก)

SINGING BIRD #2 บันทึกความสุขีจากผลงานล้ำค่าของซูเปอร์สตาร์เหนือกาลเวลา (วันแรก)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทุกๆ ครั้งที่ซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของไทยอย่าง เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ มีผลงานใหม่ สิ่งที่จะตามมาอย่างแน่นอนคือคอนเสิร์ต ซึ่งในวันที่เขากลับมาพร้อมอัลบั้ม BIRD 22 เราก็ได้รับข่าวดีว่าเขาจะกลับมาพร้อมงานคอนเสิร์ต SINGING BIRD#2 /2022 ตอน LIFETIME SOUNDTRACK ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ เช่นกัน เพราะการแสดง 3 รอบในอิมแพ็ค อารีน่า ได้ SOLD OUT ขายหมดไปก่อนวันงาน 

ที่ผ่านมานอกจากการแสดง คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ที่มีธีมสตอรี่คล้ายภาพยนตร์และบทเพลงมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราว และงานคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบที่มีธีมอิงอัลบั้มและความสนใจของเบิร์ดแล้ว งาน Singing Bird ที่เคยจัดในชื่อ  Singing Bird ครั้งที่ 1 "เพลงตามคำขอ" ก็เป็นอีกงานที่ได้รับการตอบรับจากแฟนๆ เนื่องด้วยคุณภาพการแสดงและธีมที่สามารถยืดหยุ่นได้ จนเราอยากรู้ว่า Singing Bird ครั้งที่ 2 จะออกมาในรูปแบบไหน เราจะได้ฟังเพลงช้ายาวๆ แบบงานรอบก่อนหน้าไหม หรือมันจะมีอะไรเพิ่มมา

โดยการแสดงรอบแรกเริ่มเมื่อวงดนตรีได้มากับอินโทรและการแสดงเพลงแรกอย่าง “เสียดาย” ที่มากับดนตรีกลิ่นอายโซลแจ๊สแปลกหู ก่อนจะตามด้วยช่วงที่เราขอเรียกว่า เพลงฮิตแบบมัดรวมมาเลย ทั้ง “ฝากฟ้าทะเลฝัน”, “สบาย สบาย”, “บูมเมอแรง”, “พริกขี้หนู”, “ซ่อมได้”, “แฟนจ๋า” และ TOO MUCH SO MUCH VERY MUCH” ก่อนที่จะถึงเพลงอัลบั้มล่าสุดอย่าง “ฟ้อนทั้งน้ำตา” ที่เปลี่ยนอิมแพ็ค อารีน่า กลายเป็นหน้าฮ้านหมอลำที่ทำเราต้องลุกขึ้นยืนทันที เรียกได้ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้เปิดมาอย่างเร้าใจและฉีกภาพจำงาน Singing Bird ครั้งแรกที่เป็นการเน้นเพลงช้าทันที 

และช่วงแรกก็ถึงการแสดงของเบิร์ดกับแขกรับเชิญกลุ่มแรกอย่างวง Polycat ที่ถูกแนะนำโดยกราฟฟิคยุค 80 ที่ยุคเดียวกับเพลงซินธ์ป็อปของวง โดย Polycat มากับเพลง “ขออุ้มหน่อยนะ” ของเบิร์ด และเพลง “กำแพง” ที่พวกเขาทำด้วยกัน ก่อนตามด้วยเพลง “พบกันใหม่?” ที่ Polycat เลือกมาโชว์ ซึ่งซาวด์ของนักดนตรีงานนี้ได้ส่งให้เพลง “พบกันใหม่?” ในงานครั้งนี้ เป็นเวอร์ชั่นที่เราชอบมากๆ และหลังจากนั้นก็เป็นการแสดงของวง Season Five ที่มากับเพลง “โตมากับเพลงพี่เบิร์ด” ที่เป็นการรวมเพลงของเบิร์ดจากทุกยุคเข้าเป็นเพลงเดียว ก่อนที่วงจะร่วมประสานเสียงร้องเพลง “อยู่คนเดียว” กับเบิร์ด 

พองานครั้งนี้ถึงครึ่งทางก็เป็นการแสดงเพลงช้าที่เปิดโอกาสให้เบิร์ดได้พูดคุยกับแฟนๆ ทั้งในเพลง “เพลงที่ไม่มีใครได้ฟัง”, “ไม่แข่งยิ่งแพ้” ที่แฟนๆ ได้ฟังแง่คิดกำลังใจดีๆ จากเบิร์ดควบคู่กับโชว์ ก่อนที่เราจะได้ฟังเพลง “ถ่านไฟเก่า” ที่เริ่มด้วยช่วงการแนะนำทีมคอรัส และ “ใจบันดาลแรง แรงบันดาลใจ” ที่การเต้นของแดนเซอร์และการใช้แสงได้ช่วยทำให้ฟีลลิ่งจากโชว์นี้ชัดเจนมาก 

สำหรับแขกรับเชิญช่วงท้ายก็มาถึงคิวของ หนุ่ม กะลา (ณพสิน แสงสุวรรณ) ที่ร้องเพลง “ทุกวันได้ไหม” ซึ่งเป็นเพลงที่เบิร์ดเป็นแขกรับเชิญฟีทเจอริ่งและเป็นเพลงแรกที่มีเบิร์ดเป็นแขกรับเชิญด้วย และหลังจากนั้นเบิร์ดกับหนุ่มก็ร่วมร้องเพลง “คนไม่มีแฟน” และ “เธอเป็นแฟนฉันแล้ว” ที่เพลงหลังเบิร์ดได้ร้องจนเหมือนกับเป็นเพลงเขาไปแล้ว ก่อนที่เบิร์ดจะให้หนุ่มร้องเพลง “เหนื่อยไหม” ให้กับแฟนๆ แบบเดี่ยวๆ ซึ่งหนุ่มก็ร้องเพลงดังกล่าวได้เป็นเอกลักษณ์และเข้าปากสุดๆ

และช่วงแขกรับเชิญสุดท้ายก็เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่เป็นตัวแทนพลังบวกยุคใหม่อย่าง สิงโต นำโชค (นำโชค ทะนัดรัมย์) ที่มากับเพลง “ต้องโทษดาว” ที่เผยความสามารถของเขาในการร้องเพลงเศร้า และตามด้วยเมดเล่ย์เพลงอย่าง “คู่กัด”, “อย่าต่อรองหัวใจ”, “เงียบๆ คนเดียว”, “หมอกและควัน” ที่กลายร่างเป็นเพลงอีสานสุดสนุกเมื่อสิงโตพาเพื่อนนักดนตรีเขาขึ้นเวทีมาแจม ก่อนที่สิงโตจะร้องเพลง “อยู่ต่อเลยได้ไหม” ช่วงเบิร์ดลงจากเวที ซึ่งการที่เขาเป็นตัวแทนพลังบวกและสนุกสนาน ก็ทำให้เขาเข้ากับโชว์และทำให้เราสนุกมากๆ  

หลังจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงท้ายงานที่เบิร์ดนำเพลงล่าสุดอย่าง “ทดลองใช้” มาโชว์ภายใต้ธีมหุ่นยนต์ทั้งแดนเซอร์และตัวของเบิร์ด ก่อนที่จะร้องเพลงช้าอย่าง “อย่าทำอย่างนี้ไม่ว่ากับใคร..เข้าใจไหม”, “กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง” และ “ก็เลิกกันแล้ว” ซึ่งทั้งสามเพลงเบิร์ดได้ลองซาวด์เสียงว่าคนดูร้องตามดังขนาดไหนและให้คะแนน ก่อนที่ช่วงท้ายงานสิงโตจะกลับออกมาแจมเบิร์ดในเพลงร้อยล้านวิว “อ้ายจัสวอนน่าเป็นแฟนยูได้บ่” ผลงานร้อยล้านวิว และตามด้วยโชว์สุดสนุกของเบิร์ดและแขกรับเชิญทุกคนกับเพลง “มากองรวมกันตรงนี้” ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ก่อนที่งานจะเข้าสู่ช่วงอำลาที่เบิร์ดได้ร้องเพลงซึ้งๆ “ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด” ส่งทุกคน แต่พอความซึ้งจบก็มีความฮือฮาเกิดขึ้น เพราะบนจอกลางได้มีการประกาศว่าเดือนพฤศจิกายน 2023 จะมีการจัดงานคอนเสิร์ต แบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ครั้งที่ 12 หลังห่างหายการจัดไปเกือบ 4 ปีเต็ม 

สำหรับการแสดงของเบิร์ด ธงไชย นั้น นอกจากการร้องที่เป็นเอกลักษณ์และไปได้ดีกับแทบทุกแนวดนตรีแล้ว การร้องเพลงที่รักษาคุณภาพได้ดีไม่เปลี่ยนก็คือสิ่งที่ดีงามมาก เพราะการที่เบิร์ดมีวินัยการซ้อมร้องเพลงสูง ทำให้ตลอดโชว์เขาทำดีแทบฟอร์มไม่ตกเลย แม้โชว์ที่ต้องใช้พลังงานเสียงเยอะ โดยสคริปต์รวมของงานนี้ก็มีเพลงหลากหลายและแทบทุกยุคของเบิร์ด แม้เราจะแอบเสียดายเล็กๆ ที่ไม่ได้ฟัง “เล่าสู่กันฟัง” ที่ถูกนำมาประกอบกับเพลงฝนตกไหม ในอัลบั้ม BIRD 22 จนเราคาดหวังว่าจะได้ฟังในงาน แต่โดยรวมแล้วเราก็ชอบการแสดงของเบิร์ดในงานนี้ และมองว่าโชว์รอบนี้มีความผสมผสานระหว่างคอนเสิร์ตวาไรตี้ของเบิร์ดกับ Singing Bird รอบที่แล้ว

แต่สิ่งที่ดีเด่นไม่แพ้ฝีมือ ก็คือการส่งมอบพลังบวกและการเอนเตอร์เทนของเบิร์ดที่มีมุกรับส่งดีทั้งตอนอยู่คนเดียวบนเวที หรือกับแขกรับเชิญที่ดูประหม่า และยังเซอร์วิสจับมือคนดูแบบรัวๆ ราวกับเป็นเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน ชนิดที่เรามองว่าถ้าสามารถขึ้นไปหาคนดูชั้น 3 ได้ เบิร์ดคงขึ้นไปแล้ว พร้อมทั้งมีคำพูดที่เสริมสร้างความมั่นใจคนดูเป็นช่วงๆ ทั้งก่อนเพลง “ใจบันดาลแรง แรงบันดาลใจ” และ “ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด” ที่ให้กำลังใจทุกคนที่ฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ และนอกจากคนดูแล้ว เบิร์ดยังให้สปอร์ตไลท์ทีมคอรัสและทีมนักดนตรีของสิงโตราวกับพวกเขาและเธอคือแขกรับเชิญอีกกลุ่ม เรียกได้ว่าใครมาดูการแสดงของเบิร์ดคือแค่สัมผัสพลังบวกก็มีความสุขแล้ว 

ทางด้านสคริปต์งานครั้งนี้แม้จะแตกต่างจาก Singing Bird ครั้งที่ 1 "เพลงตามคำขอ" ที่เกือบทั้งหมดเป็นเพลงช้ารวมถึงมีเพลงที่หาฟังยากอย่าง “บ้านหลังน้อย” แต่งาน Singing Bird ครั้งที่ 2 จะมีทั้งเพลงช้า และเพลงสนุก ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ เราจะได้เห็นว่าแม้จะมีบางเพลงฮิตที่หายไป แต่เบิร์ดได้นำเพลงจา่กแทบทุกช่วงทั้งตอนแจ้งเกิด ตอนยุค 90 ไปจนถึงช่วง ชุดรับแขก หรือแม้แต่อัลบั้มชุดหลังอย่าง Bird Mini Marathon มาใส่ในเซ็ทลิสต์จนสะท้อนคอนเซ็ปต์งานที่พูดถึงชีวิตองค์รวมของเบิร์ด และในขณะเดียวกันเซ็ทลิสต์ก็เต็มไปด้วยความหลากหลายแนวดนตรี เรียกได้ว่าเป็นโชว์สำหรับคนทุกวัย 

ซึ่งสิ่งที่เราประทับใจนอกจากเบิร์ดแล้วคือพาร์ทดนตรีที่เรียกได้ว่าแน่นสุดๆ และสร้างมิติใหม่ๆ ให้กับแทบทุกเพลงในโชว์ ภายใต้การดูแลของ โหน่ง-วิชญ วัฒนศัพท์ ศิลปินและนักดนตรีผู้ก่อตั้ง หัวลำโพงริดดิม สตูดิโอที่อยู่เบื้องหลังหนังและซีรีส์ จนเรามองว่าใครที่รักดนตรีแจ๊สและโซลต้องฟินกันสุดๆ โดยหลายๆ คนในทีมนักดนตรีแบ็คอัพล้วนแล้วแต่มีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็น โอบ-โอบขวัญ กิ่งหลักเมือง จาก The Voice Thailand ซีซั่น 5 แนท-บัณฑิตา ประชามอญ จาก The Voice Thailand ซีซั่น 3 ที่มาเป็นคอรัส หรือแม้แต่ทีมนักดนตรีของสิงโต นำโชค ที่มีหัวเรือใหญ่จาก ASIA7 อย่าง ต้น-ต้นตระกูล แก้วหย่อง ที่เรียบเรียงพาร์ทนี้และเล่นดนตรีพื้นบ้าน รวมถึงมีมือเพอร์คัชชั่น กิ๊กกี้-ญาณิกา เลิศพิมลชัย ที่ก่อนหน้านี้เพิ่งไปสร้างสีสันให้กับโชว์ของ Potato ในงาน The Gentleman Live 2 มาสร้างสีสัน โดยนอกจากทีมนักดนตรีหลักจะทำซาวด์เพลงโซลและแจ๊สได้ดีแล้ว พาร์ทหมอลำอีสานก็ม่วนสุด ขณะที่โชว์ของแขกรับเชิญอย่าง Polycat ในเพลง "พบกันใหม่" ได้รับอานิสงค์เต็มๆ จากซาวด์งานนี้จนออกมาเป็นหนึ่งในเวอร์ชั่นแสดงสดของเพลงนี้ที่เราชอบที่สุด ส่วนตัวเรามองว่าพาร์ทที่แอบติดเล็กน้อย คือช่วงระหว่างโชว์เพลง “เธอเป็นแฟนฉันแล้ว” มีเหตุการณ์ไมค์หอนเล็กๆ กับช่วงเพลง “เสียดาย” ที่บางพาร์ทเสียงคอรัสกับเสียงเบิร์ดขัดและกลบกันบ้าง 

ส่วนโปรดักชั่นโดยรวม เราชอบที่งานครั้งนี้มีการจัดเต็มกราฟฟิคที่บอกเล่าพาร์ทต่างๆ ของงานและแนะนำแขกรับเชิญแบบจัดเต็มในทุกเพลง ไปจนถึงการใช้จอสามจอบนเวที ที่ทำให้เราที่แม้จะอยู่เกือบริมซ้ายสุดของเวที ยังเห็นสิ่งที่อยู่ในจอกลางได้ ต่างจากงานหลายงานที่มีจอแค่จุดริมซ้ายสุด หรือขวาสุด และตัวสเตจก็ทำออกมาจนเบิร์ดสามารถออกมาสนุกสนานกับผู้ชมได้เต็มที่ และยังนำสู่ฉากท้ายงานที่อลังการของเพลง “มากองรวมกันตรงนี้” เรียกได้ว่างานครั้งนี้โปรดักชั่นนั้นส่งศิลปินให้เด่นจริงๆ 


นอกจากงาน Singing Bird #2 สำหรับเราไม่ใช่แค่งานที่รวมเพลงจากแต่ละยุคที่เป็น Lifetime Sound Track สะท้อนความเป็นเบิร์ดแล้ว มันยังเป็น 3 ชั่วโมงที่พิสูจน์ว่าเบิร์ด ธงไชย ควรค่ากับคำว่าซูเปอร์สตาร์จริงๆ ทั้งแง่ความสามารถ วินัยการทำงาน พรสวรรค์ รวมถึงความสามารถในการเอนเตอร์เทน ความคิดบวก ไปจนถึงความรักที่มีต่อคนรอบตัวจนมันเอ่อล้นออกมา ซึ่งสิ่งนี้พอมารวมกับความตั้งใจของทีมงานและ GMM Show ก็ทำให้โชว์ครั้งนี้ตราตรึงใจเรา จนเราอยากวาร์ปไปเดือนพฤศจิกายนปี 2023 เพื่อชมงานคอนเสิร์ต แบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ครั้งที่ 12 ที่มีการประกาศบนเวที

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ ของ SINGING BIRD #2 บันทึกความสุขีจากผลงานล้ำค่าของซูเปอร์สตาร์เหนือกาลเวลา (วันแรก)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook