คุยกับ TRINITY ถึงปีที่โลกหยุด การคัมแบ็กที่ดันบาร์ T-POP และการแมส (ที่ชวนฉงน)
หลังสถานการณ์โควิด-19 แฟนๆ มีโอกาสได้เห็น วง TRINITY และสมาชิกอย่าง เติร์ด ลภัส, ปอร์เช่ ศิวกร และ แจ๊คกี้ จักริน คัมแบ็กอย่างต่อเนื่อง ทั้ง TRINITY 1ST FULL ALBUM EP.01 ที่มีเพลง "LIFE AIN’T OVER", "NOBODY", "I DON'T MISS YOU", "Oh! Oh!" และ EP.02 ที่มากับเพลงสากล “Champagne Poppin” ที่เป็นเพลงสากลที่สมาชิกมีส่วนร่วมเต็มที่ พร้อมได้ จีน-คำขวัญ ดวงมณี ที่เคยกำกับเอ็มวี "Hidden Track", "5:59 (Five - Fifty Nine)" และ "NOBODY" มาร่วมงานอีกครั้ง
ด้วยการกลับมาครั้งนี้เป็นการคัมแบ็กในวันที่วงได้ห่างหายจากการโชว์และปล่อยผลงานหลังสถานการณ์โควิด-19 ทำให้พวกเราตัดสินใจว่านอกจากการพูดคุยเรื่องเพลงใหม่แล้ว เรายังได้สอบถามพวกเขาถึงการจัดการความรู้สึกช่วงที่หยุดเพราะโควิด-19 และขณะเดียวกันก็พูดถึงกระแสโซเชียลช่วงที่ผ่านมาของวงที่ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องฟีลกู้ด พร้อมก้าวต่อไปของพวกเขาและมุมมองต่อ 2 วงน้องใหม่อย่าง bXd และ DVI ที่กำลังจะตามมา ซึ่งเป็นการพูดคุยที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอย่างแท้ทรูจริงๆ จะสนุกแค่ไหนมาอ่านกันเลย
คัมแบ็คในรอบเกือบ 2 ปี หายไปพักใหญ่ ช่วงที่ไม่ได้ปล่อยเพลง ทำอะไรกันบ้าง
เติร์ด : กักตัวอยู่บ้านครับ ทุกอย่างปิดหมดเลยครับ
ปอร์เช่ : ทำอะไรไม่ได้เลยครับ เอาความจริงคือทำอะไรไม่ได้ครับ เพราะมันเหมือน เพราะว่าช่วงแรกเราก็จะแบบไม่มีใครรู้ว่าต้องจัดการกับมันยังไง นอกจากจะอยู่บ้านนิ่งๆ เพราะว่าออกไปไหนก็ต้องระวัง ออกไปซ้อมก็ไม่ได้ เข้าออกกำลังกายก็ไม่ได้อะไรอย่างงี้ครับ คือทุกอย่างปิด ยิมปิดหมดเลยอะไรอย่างงี้ครับ
แจ๊คกี้ : ช่วงนั้นก็ไม่ได้ทำ ไม่ค่อยได้ทำอะไรเลยครับ ส่วนผมเองก็ต้องเรียนออนไลน์ฮะ
การเดบิวต์แล้วเจอโควิด เรารับมือความผิดหวังต่างๆ ช่วงนั้นอย่างไร?
เติร์ด : ผมว่ามันเป็นสถานการณ์ที่เราไม่สามารถควบคุมเองได้อะ ก็ได้แต่ยอมรับมันฮะ แล้วก็ยังไงเราก็ต้องทำงานต่ออยู่ดี ก็สู้ต่อ มันหยุดกันทั้งโลกอะเราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วมันเป็น External Factors (ปัจจัยภายนอก) อ่ะครับ
แจ๊คกี้ : เราต้องเตรียมอะ เตรียมว่าแบบ ถ้าสมมุติว่าโควิดมันหาย เราจะทำอะไรต่อไป
ทำไมถึงเลือกเพลง “Champagne Poppin” เป็นเพลงโปรโมต EP.02 DESIRE ?
ปอร์เช่ : เพลง “Champagne Poppin” ผมว่ามันน่าจะเล่าถึงการเดินทางของ EP.01 BREATH ที่เพิ่งจบไป แบบว่า เออ คือ EP.01 เราได้เล่าถึงการเดินทางที่แบบ เนื้อเรื่องที่มันลำบากไปจนถึงผ่อนคลายใช่ไหม ที่เรากลับมาเราอยากกลับมาประมาณว่า เราฉลองกับมันกับการเดินทางของพวกเรา เรารู้สึกว่าบีทมันค่อนข้างเข้ากับธีม หรือว่ามู้ด หรือว่าคอนเซ็ปต์ที่เขาวางไว้ของ EP.02 ครับผม แล้วเพลงเปิดมันเป็นเพลงที่เรารู้สึกว่ามันอิมแพคดีครับ
แนวเพลงเหมือนหรือว่าแตกต่างจาก EP ที่แล้วยังไงบ้าง ?
แจ๊คกี้ : ตอนนี้ก็ออกมาเพลงเดียว ก็ยังบอกไม่ค่อยได้ครับ (หัวเราะ)
ปอร์เช่ : ยังบอกไม่ได้ครับ ยังมีเพลงเดียวอยู่
เติร์ด : ยังเหลืออีกเยอะฮะ (หัวเราะ)
อัลบั้มนี้ใครมีส่วนช่วยอะไรตรงไหนบ้าง เช่น แต่งเนื้อร้อง คิดท่าเต้น เสนอไอเดียต่างๆ จัดมุมกล้องในเอ็มวี ?
ปอร์เช่ : เราจะวกเข้าในเพลงก่อนแล้วกัน ก็คือในห้องอัดพวกผมเป็นคนอัดเสียงเองสามคน เช่น ผมอัดก็จะมีเติร์ดกับแจ๊คกี้ช่วยฟัง เติร์ดอัดก็จะมีพวกผมสองคนช่วยฟัง แจ๊คกี้อัดก็จะมีผมอีกสองคนช่วยฟัง แล้วก็เราก็จะมาหาวิธีการร้อง การอะไรแบบนี้ครับผม เพื่อให้เข้ากับมู้ดเพลงให้ได้มากที่สุดครับ แล้วมีพวกแบบเขียนเนื้อ แล้วก็ให้เพื่อนๆ เช็ค อะไรแบบนี้ด้วยครับ
แจ๊คกี้ : ใช่ครับ เป็นวิธีการร้องแบบใหม่
การทำงานกับจีน คำขวัญ เป็นอย่างไร การถ่ายมิวสิควิดีโอทำเป็นอย่างไร ?
แจ๊คกี้ : ก็รู้สึกว่าพี่จีนก็ เขาเรียกว่าอะไร ไม่เคยทำให้เราผิดหวังครับ พี่เขาเตรียมพร้อมมาเต็มที่กับงานที่ทำกับเราเสมอ อะไรประมาณนี้ฮะ รู้สึกว่าพี่จีนเก่งขึ้นทุกครั้งที่เราเจอเขาเลยครับ เขาพยายามพัฒนาฝีมือตัวเองตลอดเวลา มาทุกครั้งก็จะแบบรู้สึกว่า เฮ้ย! (เติร์ด: เซอร์ไพรส์ทุกครั้งครับ) ใช่ครับ มีอะไรใหม่ๆ ให้เซอร์ไพรส์ทุกครั้งเลย
ปอร์เช่ : ตอนถ่ายทำสนุกครับ มันทำให้แบบไม่ได้เครียดหรืออะไรอย่างงี้ด้วย ครับ เพราะว่าด้วยธีมเพลง ด้วยมูดการเต้นด้วย มันเหมือนเป็นการเชียร์อัพกันนะครับผม แล้วก็พอเราได้ทำงานด้วยกันในทีมก็แบบ เอเนอร์จี้การทำงานทั้งพวกเราทั้งพี่แดนเซอร์หรือพี่ทีมงานทุกๆ คนส่งเอเนอร์จี้มาแบบว่า LETS GO! อะเพลงนี้ อย่างงี้ครับผม
มีซีนจดจำบ้างไหม ?
แจ๊คกี้ : ซีนจดจำ ซีนจดจำมีครับผมชอบซีนหมอก ซีนที่เต้นแบบไดร์ฟเวอร์
ปอร์เช่ : ผมว่ายากอะ คือซีนเต้นใหญ่
แจ๊คกี้ : ใช่ครับ ยากสุดคือซีนเต้นใหญ่ ซีนสุดท้ายที่อยู่ใน MV ครับ ที่มาเต้นหน้าคฤหาสน์ ซีนสุดท้ายผมว่ายากครับ อย่างฝนตกด้วยครับ
เติร์ด : ผมว่าคนมันเยอะด้วย ต้องให้ดีเทลทุกอย่างมันออกมาดีที่สุดครับ
ถ้าโลกแตก หรือเหตุการณ์ในเอ็มวีเกิดขึ้น เราอยากทำอะไร ?
เติร์ด : ผมน่าจะอยู่บ้านกับครอบครัวครับ
ปอร์เช่ : ผมนอนครับ
แจ๊คกี้ : อยากเล่นคอนเสิร์ตครับ (ราชมังไหม?) ถ้าได้ก็ดีครับ
ปอร์เช่ : ถ้าเกิดทีมจัดคอนเสิร์ตเขายังจัดให้เรานะครับ (หัวเราะ)
เติร์ด : แล้ววันสุดท้ายก็บินไปโตเกียวโดม
ปอร์เช่ : เครื่องบินเขาจะยังบินป่าววะ
เติร์ด : หรือไม่ก็ Superbowl
ปอร์เช่ : อืม ไปนอนกลางสนามอะ แล้วก็กลับไม่ได้นะ
เติร์ด : ไปยึดสนาม เพราะว่าโลกจะแตกแล้วก็ยึดไปเลย
ปอร์เช่ : คงต้องจัดเป็นเชลเตอร์ (ที่พักชั่วคราว)
วันนี้ TRINITY เป็นรุ่นพี่ใน 4NOLOGUE แล้ว การทำงานกับน้องๆ bXd (บี-เอ็กซ์-ดี) กับ DVI (ดี-วาย) เป็นอย่างไร?
ปอร์เช่ : มีโอกาสคุยน้อยมากเลยฮะ หมายถึงว่าด้วยความที่เวลามีจำกัดหรือบางอย่างอะครับ เขาก็จะแยกซ้อมกัน เราไม่ค่อยได้เจอกับน้องๆ ตัวๆ ไม่ค่อยได้เจอกันแบบ ถ่าย MV ก็จะได้เจอแค่บางซีนเพราะว่า เขาแยกแต่งหน้ากัน ได้เจอกันที่แบบบางช่วง ช่วงที่เขาไปพักเราก็ถ่ายกันอยู่อะไรอย่างงี้ อาจจะไม่ค่อยได้คุยแต่ว่า พวกผมอะก็จะมีการคุยกันตั้งแต่แบบว่าเห็นน้องเทสอะไรแบบนี้แล้วครับ (เติร์ด & แจ๊คกี้: "อือ ใช่ครับ") อาจจะแนะนำตอนนั้นไป แต่ถ้าเกิดแนะนำจริงจังแบบนี้ยังไม่เคย ผมว่าน้องๆ ทุกคนเต็มที่ มันก็ต้องสะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ครับ มันบอกกันไม่ได้ เพราะว่าบางอย่างก็ต้องเจอด้วยตัวเอง มันถึงจะแบบเรียนรู้กับสิ่งที่เจอไปครับ
แจ๊คกี้: แต่ว่ามีแค่แบบงาน ฮาโลวีนปาร์ตี้ครับ
ปอร์เช่ : ใช่ครับ ถึงจะได้มีโอกาสนั่งกันแล้วได้คุยกันครับ
พูดถึงแฟนคลับชาว Twilight หน่อย เติบโตด้วยกันมาตั้งหลายปี มีโมเมนต์ที่ประทับใจแฟนคลับเรื่องไหนที่จำไม่ลืมบ้าง?
แจ๊คกี้: ประทับใจทุกครั้งที่เจอเลยครับ แบบว่าก็เหมือน พวกผมอะเห็นรอยยิ้มแล้วก็เสียงเชียร์ของแฟนคลับทุกๆ ครั้งที่แบบว่ามาเจอพวกเรา เหมือนแบบ เออเขาก็แบบเตรียมความรู้สึกใหม่ๆ มาให้พวกเราเสมอ ไม่เคยเห็นสายตาที่แบบเบื่อหน่ายส่งมาให้เลย ก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เจอครับ
ปอร์เช่: ผมก็เขาคอยมาติดตามตลอด คอยมารอหน้างานที่เรามีคอนเสิร์ต คอยมาแบบให้กำลังใจเรา คอยมาถือป้ายให้พวกเรา คอยมาเรียกว่าอะไรดีอะ คอยส่งเสียงกรี๊ดให้เราเวลาร้องเพลงอะไรงี้ครับ ก็รู้สึกดีที่เราเห็นป้ายที่เขาชูชื่อพวกเรา แล้วเราก็เห็นเขาตลอดเวลาครับ
เติร์ด: ก็รู้สึกดีใจทุกครั้งที่ได้เจอครับ รู้สึกตั้งแต่วันแรกเป็นยังไงวันนี้ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมครับ ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ ก็จะตั้งใจทำผลงานแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ครับ
แจ๊คกี้: แล้วก็ผมชอบที่ Twilight เขาเสพผลงานเราจริงๆ แบบว่าฟังไม่ได้แบบฟังผ่านๆ หรือว่าดูแค่ภายนอกอะไรแบบนี้ เขาชอบเพราะเขาเข้าถึงตัวของเราจริงๆ ครับ
หลายคนประทับใจโมเมนต์ที่ แจ๊คกี้ไปซื้อของสะสมแฟนคลับที่กำลังป่วย เล่าความรู้สึกวันนั้นให้ฟังหน่อย ?
แจ๊คกี้: ก็วันนั้นผมไถ Twitter อยู่อะไรอย่างเงี้ย แล้วก็เห็นเขาโพสต์ขายเหมือนแบบเป็นของของเรา เหมือนของสะสมที่เกี่ยวกับเรา เราก็เลยแบบว่า เราอยากช่วย เหมือนเห็นว่าพี่เขาเป็นโรคมะเร็ง เราก็เลยอยากสนับสนุนเขา เราก็เลยแบบเออ ช่วยซื้อของเขา แต่ว่าเราก็ไม่รับให้เขาเก็บไว้ดีกว่าครับ เพราะว่าก็อยากจะให้ของชิ้นนั้นเป็นเหมือนตัวแทนของเราที่แบบให้กำลังใจเขาครับ
ช่วงนี้ต้องบอกเลยว่าแจ๊คกี้มีประเด็นที่แบบแมสๆ มีเรื่องให้แมสเยอะมาก อย่างเช่นเรื่องวันฮาโลวีนเลย อยากรู้ว่าแต่ละลุค แต่ละคนมีแรงบันดาลใจจากไหนกันครับ ?
ปอร์เช่: ผมดูอนิเมะครับ Jujutsu Kaisen (มหาเวทย์ผนึกมาร) ผมชอบสุคุนะครับผมก็เลยหยิบมาแต่งครับ เพราะธีมผีเราจะแต่งอะไรก็ได้ คือพวกเราก็คือแบบทางพี่เมเนเจอร์ก็ให้โจทย์มาว่าวันฮาโลวีนเขาจะแต่งเป็นนู้นเป็นนี่กัน อยากแต่งอะไรกันไหม สามคนก็คือคนละธีมกันหมดเลยครับ ผมแต่งเป็นอันนี้ครับ ผมแต่งอันนี้ครับ ผมแต่งเป็นอันนี้ครับผม เออ แล้ว ก็แบบคนในบริษัทคือนัดกันมาหมดเลยครับว่าจะแต่งอะไร มาในธีมเดียวกัน พวกผมคือแบบไม่เลยครับ
แจ๊คกี้: ของผมเป็นเออ คาโอนาชิ หรือว่า No Face จากเรื่อง Spirited away ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากน้องที่แต่งคอสเพลย์ที่เป็นมีมอ่ะครับผม ผมชอบมาก (หัวเราะ) ผมก็เลยแบบ ฉันอยากเป็นน้องคนนี้
เติร์ด: ส่วนผมเป็นตัวละครจากนิยายจีนที่ผมอ่านครับ ครับก็นิยายชื่อ "โต้วหลัวต้าลู่" ครับ เป็นนิยายจีนที่ผมอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วมันก็มาดังทีหลังก็มีการทำเป็นแบบการ์ตูน แล้วก็ทำเป็นแอนิเมชั่น ถังซาน (ตำนานจอมยุทธ์ภูตถัง) ผมอ่านตั้งแต่ตอนที่มันเป็นหนังสือเลย
ฮาโลวีน ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง แจ๊คกี้ ปอร์เช่ เติร์ด เป็นกระแสเรื่องชุดเต็มๆ ได้ติดตามฟีดแบคไหม ?
แจ๊คกี้: ผมไม่คิดว่างานมันจะใหญ่ขนาดนี้ครับ จัดเต็มมากครับ เป็นงานปาร์ตี้ที่เหมือนพวกเราได้เอ็นจอยกันมากกว่าครับ ก็ดีใจที่ทุกคนมีความสุขแล้วก็เอ็นจอยไปกับพวกเราครับ
เติร์ด: เขาบอกว่างานปาร์ตี้ชิลล์ๆ ใบบริษัทครับ คือเราเข้าใจกันแล้วตั้งแต่แรกว่า อ้อ งานเป็นกันเอง เน้นภายใน สักพักเดินเข้ามาเจอพรมก็คือช็อคไปเลยครับ มีกล้อง มีไลฟ์ มีโดรน
ปอร์เช่: ปาร์ตี้กันเองครับ นั่นคือคำแรก ปาร์ตี้ฮาโลวีน ปุ๊บ อยู่ๆ พี่วุธส่งรูปมา ส่งส่วนตัวมาหาผม ยิงเลเซอร์ใส่บริษัท ผมก็พี่….งานกันเองจริงหรือเปล่าครับ งานไม่ใหญ่แน่นะวิ (หัวเราะ) งานกันเองสิ แล้วผมก็เข้าไปบริษัทไปฟิตติ้ง เดินออกมาก็เจอเขาตกแต่ง หัวกะโหลก แล้วก็ใส่ใยแมงมุม ผมขับไปวันแรกก็แบบ เขาตั้งซุ้มแบบนี้เลยนะตอนแรก เป็นซุ้มที่เป็นทางเข้าที่มันปิดสีดำอะ ผมเข้าไปปุ๊บ เสร็จแล้วก็สิ่งแรกที่ผมเจอเลเซอร์มันเปลี่ยน เปลี่ยนเป็นแอนิเมชั่นได้ ก็แบบ อืม (หัวเราะ) ผมถามพี่ยาม พี่ครับอันนี้คือผ่านได้ใช่ไหมครับ อ้อ เขาเตรียมเสื้อให้พี่ยามด้วย (หัวเราะ) เต็มที่ครับ (จัดเต็ม) เอาจริงๆ ผมไม่ได้เน้นฟีดแบคเลยครับ ถ้าเกิดรู้ว่ามีไลฟ์ผมคงไม่แต่งตัวแบบนี้หรอกครับ (หัวเราะ)
ปีนี้ดีมากๆ เลย แล้วปีหน้าเราจะยังจัดกันอยู่หรือเปล่า ?
ปอร์เช่: ผมว่ามีทุกปีครับ มันเป็นอีเวนท์บริษัทอะ งานฮาโลวีนอะไรแบบนี้ครับ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าแบบปีหน้าจะเป็นงานแบบไหน
เติร์ด: มีทุกปีครับมีทุกปี แต่ปีหน้าผมไม่ใส่วิกแล้วครับหนักหัวมาก
ปอร์เช่: แต่คุณผมยาวแล้วเข้านะ พูดเป็นเล่น คุณหล่อนะ
แจ๊คกี้เพิ่งสร้างความไวรัลด้วยคลิป “คนไทยครับ” จนถึงกับเปลี่ยนชื่อทวิตเตอร์เป็น “น้องแจ๊คกี้คนไทยครับคนไทย” รู้สึกยังไงบ้างกับความแมสแบบไม่ทันตั้งตัว ?
แจ๊คกี้: ซิทคอมมาก เสียงมันเข้ามาในหูพอดีฮะ
ปอร์เช่: มันตลกหรอครับ (หัวเราะ)
ทีมงาน : มันไม่ได้ตลกแบบนั้น คงเป็นจังหวะที่ว่าถ้าเป็นคนอื่นก็คงไม่หันมาตอบ แล้วน้องตอบว่า คนไทยครับ ซึ่งภาษาที่เขาสื่อสารกับเราคือภาษาเกาหลี
ปอร์เช่: อ่อช็อตฟีล (หัวเราะ)
ในฐานะศิลปินกลุ่มแรกๆ ที่มากับ T-POP เวฟนี้ TRINITY อยากเห็นอะไรในวงการ T-POP ?
ปอร์เช่: ผมอยากเห็นความหลากหลายครับ แต่ละวงมีกลิ่นเป็นของตัวเองอยู่แล้วครับ ก็ทำแบบที่ตัวเองถนัดดีกว่าครับ ฝากซัพพอร์ตทุกๆ วงด้วยนะครับ ไม่งั้นวงก็ไม่สามารถทำงานในสิ่งที่ตัวเองรักต่อได้
แจ๊คกี้: ใช่ครับ อยากเห็นพวกเรามาผลักดันวงการเพลงไทยอะไรอย่างงี้ครับ แต่ละวงแต่ละศิลปินก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองครับ รู้สึกว่าศิลปินไทยมันมีดี
ไม่คิดว่ามันเป็นการแข่งขันที่สูงขึ้นเหรอ ?
เติร์ด: ไม่เลยครับ ผมรู้สึกว่าพวกผมมาทำงานก็เหมือนแข่งกับตัวเองมากกว่า เราก็แค่ทำในส่วนของเราให้ดีที่สุดครับ เหมือนเวลาเราวาดรูป เราไม่ได้ไปนั่งดูว่า เฮ้ย คนข้างๆ เราวาดอะไร เราก็แค่โฟกัสสิ่งที่เราวาดอยู่ครับ
แจ๊คกี้: ขอแค่มันแบบอยู่แล้วมีความสุขครับ
ทั้งสามคนมีงานแสดงให้ติดตามอีกไหม ?
ปอร์เช่: ของผมยังไม่มีครับ (หัวเราะ)
เติร์ด: ไม่ทราบครับ
แล้วมีบทอะไรที่อยากรับไหมหลังจากนี้ ?
ปอร์เช่: ฆาตกรครับ (หัวเราะ) ผมเล่นเป็นคนดีบ่อยแล้วครับ 2 เรื่องอะ
เติร์ด: ผมอยากเป็นลูกเจ้าพ่อครับ ฟีลเจ้าพ่อมาเฟียอะครับ
แจ๊คกี้: ผมอยากเป็นคนร้าย Money Heist ประมาณนี้แหละฮะ นักต้มตุ๋นอะไรอย่างงี้ ใช่ ทำได้ไง อะไรอย่างงี้
เติร์ด: คุณเคยเล่นบทนักศึกษามั้ย
แจ๊คกี้: ไม่เคย แล้วไงอะ
เติร์ด: ผมยังไม่เคยเล่นเป็นนักศึกษาเลย เล่นเป็นเด็กมัธยมแล้วก็ข้ามไปตอนโตเลย (หัวเราะ)
แล้วปี 2023 จะมีอะไรบ้างให้เราติดตาม ?
แจ๊คกี้: 2023 ก็คาดว่า EP 02 น่าจะยังไม่ปล่อย ปล่อยไม่หมดเลยครับ (หัวเราะ) ปีหน้ารอติดตามครับ คิดว่าน่าจะดีขึ้นไปอีกครับ ทุกคนน่าจะได้เห็นความแปลกใหม่ของเราแน่ๆ ครับ
ปอร์เช่: แต่ว่าๆ แผนเราก็มีเยียร์แพลนวางไว้แล้ว เลยไม่ได้ปล่อยหมดปีครับ
สุดท้ายแล้วมีอะไรฝากถึงแฟนๆ ไหม ?
แจ๊คกี้: ก็ฝากถึง Twilight นะฮะ ครอบครัวของเราก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ก็อยากจะให้ติดตามแล้วก็อยู่กับพวกเราแบบนี้ไปตลอดเลยนะฮะ ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้แล้วก็ขอบคุณที่คอยผลักดันให้พวกเราทำผลงานดีๆ แบบนี้ออกมา มีอะไรอีกไหมครับคุณพี่เติร์ด
เติร์ด: ก็ครอบคลุมหมดแล้วเนาะ
ปอร์เช่: ฝากพวกเราด้วยครับผม
เติร์ด: สวัสดีปีใหม่ด้วยครับผม
เรามีแพลนอะไรในช่วงปีใหม่บ้างไหม ?
เติร์ด: เราจะได้มีวันหยุดแล้วครับ เราจะได้มีวันหยุดเหมือนชาวบ้านเขาแล้วครับผม
แจ๊คกี้: เราทำงานเสร็จแล้วเราก็จะพักครับ เราจะนอน นอน นอน ครับ
เติร์ด: แล้วเราก็จะรีชาร์จกลับมาพร้อมกับแรงในการทำงานที่ตูมต้ามครับ แล้วเราก็จะลุยงานอย่างหนักหน่วงในช่วงต้นปีครับ พูดไว้ก่อนยังไม่ได้เห็นตารางเลย (หัวเราะ)
และก่อนจะลาจากกันเราก็ได้ปิดท้ายการสนทนาด้วยการขอให้พวกเขาได้นอนข้ามปี ที่ทั้งสามตอบกลับมาว่า "ขอบคุณครับ!" ซึ่งแฟนๆ ที่รอคอยการคัมแบ็กของพวกเขา สามารถฟังเพลงของวงได้ที่ JOOX Music Application และ Sanook Music
อัลบั้มภาพ 19 ภาพ