สัมภาษณ์ beabadoobee ประสบการณ์สุดดุดันในไทย และหนังที่ตัวเองอยากสร้าง

หลังจากสัมภาษณ์กันแบบออนไลน์และ e-mail interview กันมาหลายครั้ง ในที่สุด Sanook ก็ได้เจอตัวจริของสาวน้อยน่ารัก beabadoobee (บีบาดูบี) ที่เดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตในเมืองไทย Beabadoobee Beatopia Tour 2022 Live in Bangkok ที่ Samyan Mitrtown Hall เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ตัวจริงน่ารักไซส์มินิอย่างที่คิดไว้ แต่ที่เซอร์ไพรส์คือความเป็นกันเอง และปล่อยตัวปล่อยใจจอยๆ คุยกับสื่อมวลชนแบบไม่มีฟิลเตอร์เลยแม้แต่น้อย และนั่นทำให้เราหลงรักเธอมากขึ้น

• รีวิวคอนเสิร์ต beabadoobee กระโดดไปพร้อมกับสาวน้อยเสียงหวานกับดนตรีร็อคยุคมิลเลนเนียม

---

มาเมืองไทยครั้งแรก เป็นอย่างไรบ้าง ประทับใจอะไรบ้างไหม

beabadoobee: ฉันรักที่นี่เลยแหละค่ะ ทุกอย่างที่นี่น่าตื่นตาตื่นใจไปหมด ฉันกับทีมงานได้ไปสปามาด้วย พวกเราอยากดูแดรกโชว์ (Drag Show) มากๆ พอได้ดูก็รู้สึกเลยว่ามันสุดยอดมากๆ มีเอกลักษณ์มากๆ ค่ะ ฉันอยากอยู่กรุงเทพฯ ให้นานกว่านี้เลยค่ะ

ส่วนอาหารไทย เผ็ดมากกกก (หัวเราะ) ฉันเป็นคนฟิลิปปินส์ คนอาจจะคิดว่าฉันจะกินเผ็ดได้เพราะอาหารฟิลิปปินส์น่าจะเผ็ด แต่จริงๆ แล้วไม่มีเลยนะคะ อาหารไทยเล่นฉันหนักมากเลยค่ะ (หัวเราะ) แต่ฉันก็ยังชอบกรุงเทพฯ มากๆ อยากอยู่ให้นานกว่านี้จริงๆ ค่ะ

 

ช่วงนี้กำลังทัวร์คอนเสิร์ตอยู่ ชอบเล่นเพลงไหนบนเวทีมากที่สุด

beabadoobee: ช่วงนี้ฉันชอบเล่นเพลง “The Perfect Hair” ค่ะ ส่วนเพลงที่ชอบเล่นสดอยู่เป็นประจำอยู่แล้วคือ “Care” และ “See You Soon” ค่ะ

 

จากจุดเริ่มต้นของเด็กสาวอายุ 17 ปีที่เล่นกีตาร์อยู่ที่บ้าน จนตอนนี้ได้ทัวร์รอบโลก และมีอัลบั้มที่ 2 แล้ว รู้สึกยังไงบ้าง

beabadoobee: เอาจริงๆ ฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยค่ะ รู้ตัวอีกทีทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นแบบนี้แล้ว ฉันว่ามันสนุกมากๆ ที่ได้เดินทางไปทั่วโลก รวมถึงกรุงเทพฯ ที่ฉันไม่เคยไปมาก่อน ฉันรู้สึกดีมากที่ได้แบ่งปันเพลงของฉันให้คนทั่วโลกได้ฟังกันค่ะ

 

ในฐานะที่เป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย มีคำแนะนำอะไรที่อยากบอกกับคนอื่นๆ ที่อยากเป็นศิลปินเหมือนคุณบ้างไหม

beabadoobee: ฉันว่าสิ่งสำคัญคือคุณต้องมีแรงผลักดันและทำทุกอย่างด้วยใจจริง หลายคนอาจจะให้ความสำคัญกับเงิน และชื่อเสียง ถ้าเป็นอย่างนั้นคือคุณไม่ได้ต้องการจะทำดนตรีจริงๆ หรอก คุณอยากทำเพื่อให้ตัวคุณเองสบายมากกว่า ฉันเดินบนถนนสายนักดนตรีเพราะฉันหาวิธีระบายความเศร้าหรือต้องการแสดงออก เพราะฉะนั้นนี่อาจจะเป็นคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ จากฉัน ที่อยากเน้นย้ำว่าอยากให้คุณรักที่จะทำเพลง ทำดนตรีจริงๆ ค่ะ

 

เพลงของคุณอบอวลไปด้วยดนตรีแนว ‘90s ช่วยบอกถึงเสน่ห์ของดนตรีแนวนี้ที่คุณหลงรักให้เราฟังหน่อย

beabadoobee: ฉันได้ยินบ่อยๆ ว่าเพลงของฉันมีกลิ่นอายของดนตรียุค ‘90s อาจเป็นเพราะฉันฟังเพลงแนวนั้นเยอะมาก จริงๆ แล้วฉันไม่ได้ตั้งใจให้เพลงของตัวเองไปในแนว ‘90s หรือที่บางคนบอกว่าฉันเหมือนเป็นคนที่ปลุกให้ดนตรี ‘90s กลับมามีชีวิตอีกครั้ง จริงๆ แล้วฉันแค่ตั้งใจทำเพลงให้คนฟังรู้สึกเหมือนได้ย้อนไปในอดีต นึกถึงช่วงที่แต่ละคนเติบโตมามากกว่า

ในอัลบั้มล่าสุด Beatopia ฉันก็ได้แรงบันดาลใจจากศิลปินหลายคนในช่วงยุค 2000 และอยากสิ่งอื่นๆ รวมๆ กันค่ะ

 

มีศิลปินคนไหนที่มีอิทธิพลทางดนตรีกับคุณบ้าง

beabadoobee: ลิสต์ชื่อให้ได้เลยค่ะ มี Elliot Smiths คนนี้เป็นแรงบันดาลใจสำคัญของฉันเลย ฉันมีรอยสัก XO ที่แขนด้วย (ชี้ให้ดู) นอกจากนี้ก็มี Mac DeMarco, Daniel Johnson, Kimya Dawson ฉันยังชอบร้องเพลงของ Harriet Wheeler จากวง The Sundays มากๆ เธอเป็นแรงบันดาลใจในการร้องเพลงของฉันเลยค่ะ

แล้วก็มีวง The Cardigans ฉันคิดว่าพวกเขาเป็นวงที่เพอร์เฟกต์สุดๆ แล้วฉันก็ชอบ Natasha Bedingfield ด้วยค่ะ ฉันมีความสุขกับดนตรียุค 2000 มากเลย

 

แล้วถ้าไม่ได้เป็นศิลปิน คุณคิดว่าตัวเองจะได้เป็นอะไร

beabadoobee: ฉันอยากทำหลายอย่างมากเลยนะ อยากเป็นครูสอนศิลปะ อยากเป็นศัลยแพทย์ หรือบางวันก็อยากเป็นนักบินอวกาศ (หัวเราะ) แต่ถ้าให้เลือกอย่างเดียวจริงๆ ฉันอยากทำอะไรเกี่ยวกับหนังค่ะ ฉันอาจจะอยากอยู่ในหนังสักเรื่อง แต่ไม่ใช่ตัวเอกนะ ฉันฝันว่าอยากเป็นเพื่อนตัวเอก บทเล็กๆ อย่างหญิงสาวในร้านเช่าวิดีโอ หรือรับเชิญบทเล็กๆ อะไรทำนองนี้

 

ทำไมถึงอยากเป็นเพื่อนตัวเอกล่ะ

beabadoobee: ถ้าตอบแบบขำๆ ก็คือฉันไม่อยากจำบทเยอะค่ะ (หัวเราะ) แต่ถ้าเอาคำตอบจริงจังคือ ฉันว่าบทเพื่อนตัวเองมันมีเสน่ห์ในแบบของมันอยู่นะ เหมือนคนที่เป็นที่พึ่งพาให้กับอีกคนน่ะค่ะ อาจจะเคยได้ยินว่าบางคนไม่ต้องการใครในชีวิตเลย แต่จริงๆ แล้ว ไม่นะคะ คุณต้องการใครสักคนที่จะตกหลุมรักด้วย หรือเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ เพราะฉะนั้นฉันเลยอยากถูกจดจำในบทเพื่อนตัวเอก และฉันอยากจะเป็นแบบนั้นในชีวิตจริงด้วย

 

แล้วถ้ามีหนังของตัวเองได้สักเรื่อง จะเป็นหนังแนวไหน

beabadoobee: น่าจะเป็นหนังที่รวมเอาหลายๆ แนวเข้าไว้ด้วยกัน ทั้ง sci-fi (เพราะจะมีเอเลี่ยนด้วย) โรแมนติก สยองขวัญ และต้องตลก! จะเป็นหนัง coming-of-age ที่ตลกมากๆ แน่ๆ (Q: แล้วจะตั้งชื่อหนังว่าอะไร) ฉันจะตั้งชื่อว่า Adventures with Bea ค่ะ (ยิ้ม)

 

สุดท้ายนี้ ฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยหน่อยค่ะ

beabadoobee: ขอบคุณมากนะคะที่สนับสนุนและฟังเพลงของฉัน แม้ว่าเราจะอยู่กันคนละซีกโลกก็ตาม จริงๆ แล้วฉันไม่รู้เลยว่าจะมีคนฟังเพลงของฉันที่นี่ด้วย ฉันแอบกลัวว่าจะไม่มีใครมาดูคอนเสิร์ตของฉัน (หัวเราะ) แต่วันนี้ความฝันของฉันก็เป็นจริงแล้ว ฉันรักพวกคุณทุกคนมาก ขอบคุณที่อยู่เคียงกันเสมอมาค่ะ