SM เผย ถ้า HYBE เทคโอเวอร์ SM สำเร็จ ศิลปินจะถูกดอง-ราคาบัตรคอนเสิร์ตจะสูงขึ้น
SM ปล่อยวิดีโอลง YouTube ช่องหลัก “เหตุผลที่ SM ไม่ยอมให้ HYBE เทคโอเวอร์” ที่พูดถึงผลกระทบบางส่วนที่อาจเกิดขึ้นเมื่อ HYBE กลายเป็นเจ้าตลาดที่ผูกขาดวงการ K-POP และพูดถึงแผนการทางธุรกิจใหม่ SM 3.0 ที่จะส่งดีต่อ SM มากกว่า
ยังคงอัปเดตอย่างต่อเนื่องแทบจะรายวัน สำหรับการตอบโต้จากทางฝั่งของ SM หลังอีซูมาน อดีตโปรดิวเซอร์และผู้ก่อตั้ง SM Entertainment ที่ขายหุ้นเกือบทั้งหมดของตัวเองให้กับ HYBE บริษัทคู่แข่งในวงการ K-POP จน HYBE กลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ SM เพื่อคานอำนาจกับหลายชาย อีซองซู CEO ของ SM ที่มี Kakao เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ทำให้อีซองซูโพสต์วิดีโอที่ตั้งข้อสงสัยว่าอีซูมานเลี่ยงภาษี และยืนยันว่าพนักงานกว่า 208 คนของ SM จะไม่ยอมให้ HYBE เข้าเทคโอเวอร์ (ยึดกิจการ) บริษัท SM เด็ดขาด รวมถึงการที่ตัวเขาเองวางแผนลาออกจากตำแหน่ง CEO และจะกลับไปทำงานในแผนกดนตรีใน SM
- HYBE กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของ SM หลังซื้อหุ้นต่อจาก “อีซูมาน”
- “อีซองซู” CEO SM ยัน “อีซูมาน” เลี่ยงภาษี-ยัดเยียดเนื้อเพลงให้ aespa จนต้องเลื่อนคัมแบ็ค
- พนักงาน SM กว่า 208 คนแสดงจุดยืนหลัง “อีซูมาน” ขายหุ้นให้ HYBE
วันที่ 20 ก.พ. YouTube ช่อง SMTOWN ช่องออฟฟิเชียลของ SM โพสต์คลิปจาก จางชอลฮยอก ผู้ดำรงตำแหน่ง CFO (Chief Financial Officer) โดยแถลงอย่างเป็นทางการว่า
“ทันทีที่วิสัยทัศน์ฉบับ SM 3.0 ถูกประกาศออกมา ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดก็ขายหุ้นของเขา และพยายามเข้ายึดกิจการผ่านการเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทคู่แข่ง การพยายามในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการมองข้ามการพิจารณาและความทุ่มเทของพนักงาน SM กว่า 600 คนที่มีความฝันอยากจะเป็นที่หนึ่งในวงการบันเทิงของโลก แต่ยังมองข้ามคุณค่าและความภาคภูมิใจในความเป็น SM ที่ร่วมสร้างกันมาด้วยกันทั้งเหล่าศิลปินและแฟนคลับด้วย”
ใจความสำคัญจากวิดีโอความยาวกว่า 15 นาที ระบุว่า
- การพยายามเข้าเทคโอเวอร์ SM ของ ของ HYBE ผ่านการซื้อหุ้นจากอีซูมาน เท่ากับการที่ SM ตกเป็นของเจ้าของเดิม (อีซูมาน) ซึ่งเป็นสิ่งที่ SM พยายามเลี่ยงมาตลอด
- CEO ของ HYBE ออกมายืนยันแล้วว่า จากหุ้นใน SM ทั้งหมด 14.8% ที่มีอยู่ตอนนี้ (หลังซื้อต่อจากอีซูมาน) เขามีแผนที่จะเป็นเจ้าของหุ้นให้ได้ราวๆ 40% ในอนาคตด้วยการซื้อหุ้นต่อจากผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ
- แม้ว่า HYBE จะเคยบอกว่าจะไม่เข้าไปยุ่งกับการจัดการต่างๆ ของ SM แต่ CFO ยืนยันว่าเป็นคำสัญญาที่เป็นจริงได้ยาก
- CFO ถึงปัญหาบางส่วนที่อาจเกิดในอนาคตหาก HYBE เทคโอเวอร์ SM ได้สำเร็จ เช่น
- ศิลปินในค่ายจำนวนมากขึ้น ทำให้ศิลปินของ SM ถูกเพิกเฉย การปล่อยเพลง/อัลบั้มอาจจะน้อยลง
- ศิลปินของ SM อาจต้องย้ายไปใช้แพลตฟอร์ม Weverse และแพลตฟอร์มเก่าของ SM อาจต้องทิ้งไป (อาจหมายถึง Bubble ใน Dear U และเซอร์วิสอื่นๆ)
- แผนการทำงานร่วมกันที่มีการพูดถึงในตลาดมีแต่การเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ถือหุ้นของ HYBE ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นของ SM
- HYBE จะกลายเป็นเจ้าตลาดที่ผูกขาดวงการ K-POP จากส่วนแบ่งทางการตลาดมากถึง 66% และรายได้ของเพลงและอัลบั้ม 70% การเป็นเจ้าตลาดอาจทำให้วงการ K-POP ขาดโอกาสในการพัฒนา
- ราคาบัตรคอนเสิร์ตของศิลปิน K-POP ทั้ง SM และ HYBE เดิมอาจสูงขึ้น โดย CFO ของ SM อ้างว่า HYBE ไม่ได้ขึ้นค่าบัตรคอนเสิร์ตแค่เฉพาะกับศิลปินใน HYBE แต่ยังรวมถึงศิลปินจากค่ายเพลงที่ตัวเองไปควบรวมมาด้วย การเป็นเจ้าตลาดสามารถผูกขาดราคาบัตรคอนเสิร์ตได้มากขึ้น
- 85% ของพนักงาน SM (259 โหวต) คัดค้านการพยายามเข้าเทคโอเวอร์ของ HYBE
- Co-CEO และผู้บริหารของ SM กว่า 25 คนคัดค้านการพยายามเข้าเทคโอเวอร์ของ HYBE
- CFO ของ SM เชิญชวนผู้ถือหุ้นไม่ให้ขายหุ้นให้ HYBE ที่พยายามเตรียมกว้านซื้อหุ้นให้ถึง 40% เพราะผลกระทบที่ตามมาจะไม่ส่งผลดีต่อ SM ศิลปินและแฟนเพลง
- หาก HYBE กว้านซื้อหุ้นได้สำเร็จ แผนการดำเนินธุรกิจ SM 3.0 ที่เตรียมเอาไว้จะถูกยกเลิก ซึ่งเป็นแผนการธุรกิจที่ส่งผลดีต่อ SM มากกว่า รวมถึงราคาหุ้นที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตที่จะมากกว่าราคาที่ HYBE เสนอให้ในตอนนี้
จางชอลฮยอก CFO ของ SM ปิดท้ายว่า ในคลิปต่อไปจะพูดถึงแผนการดำเนินงาน SM 3.0 ที่จะส่งผลดีต่อผู้ถือหุ้น ศิลปิน และแฟนๆ ในอนาคต