รีวิวคอนเสิร์ต OneRepublic 2023 รวมเพลงฮิต เพิ่มเพลงดัง มากี่ทีก็สนุก

คอนเสิร์ต ONEREPUBLIC PRESENTS LIVE IN CONCERT TOUR IN BANGKOK เป็นอีกครั้งที่แฟนๆ ชาวไทยได้เจอกับพวกเขา แม้ว่าจะได้เจอพวกเขาหลายครั้งแล้ว แต่ OneRepublic ก็ยังทำให้เราทึ่งได้ทุกครั้งจริงๆ

3 มีนาคม 2023 ที่อิมแพ็ค อารีน่า ที่เดิม จัดโดย Live Nation Tero เจ้าเก่า เราได้มาดูคอนเสิร์ตของวงป็อปร็อคแนวหน้าและมากฝีมือของโลกอย่าง OneRepublic กันอีกครั้ง หลังจากที่เราเคยดูคอนเสิร์ตของพวกเขาเมื่อปี 2017 และยังได้ชมโชว์เซ็ตใหญ่กว่า 10 เพลงของพวกเขาใน Spotify On Stage BKK 2019 อีกด้วย แต่ถ้าคิดว่า OneRepublic มาไทยแค่ 2-3 ครั้งล่ะก็ ต้องบอกว่าไม่ใช่ เพราะพวกเขามาเที่ยวที่ไทยก็บ่อย มาทำเพลงที่ไทยก็บ่อย เรียกได้ว่าเข้าๆ ออกๆ เมืองไทยบ่อยกว่าที่พวกเราคิดเลยทีเดียว

20.00 น. หลังจาก Jessia ศิลปินเปิดเสียงทรงพลังพร้อมเพลงป็อปติดหูง่ายทำการแสดงสนุกๆ จบไป ก็เป็นคราวของ OneRepublic ที่มาพร้อมกับเครื่องดนตรีสด กีตาร์ เบส คีย์บอร์ด ซินธิไซเซอร์ กลอง และเครื่องสายอย่างไวโอลิน และแชลโล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำวง OneRepublic ไปแล้ว เพลงป็อปร็อคกับเครื่องสาย เป็นอะไรที่เข้ากันดีกว่าที่คิดจริงๆ

จากชื่อทัวร์ก็คงพอจะเดาได้ไม่ยากว่าหนนี้ OneRepublic เขามาเล่นดนตรีสด และไม่ได้โปรโมตอัลบั้มใหม่อย่างที่ควรจะเป็น Ryan Tedder นักร้องนำและนักแต่งเพลงของวงกล่าวอย่างชัดเจนว่า ค่ำคืนนี้จะเต็มไปด้วยเพลงฮิตทีทุกคนร้องตามได้ ดังนั้นคืนนี้จึงอัดแน่นด้วยเพลงดังแบบที่ไม่มีเพลง B-Sides ทั้ง “Secrets”, “Good Life”, “Stop and Stare”, “Rescue”, “Wherever I Go”, “Love Runs Out” ที่เล่นต่อกันกับสลับพุดคุยกับแฟนเพลงอย่างเป็นกันเอง

นอกจากเพลงฮิตของวงตัวเองแล้ว ด้วยความเป็นนักแต่งเพลงมืออาชีพของ Ryan Tedder จึงสามารถนำเพลงดังที่เขาแต่งให้กับศิลปินระดับโลกมากมายมาร้องในคอนเสิร์ตนี้ด้วย “เราคงเป็นวงเดียวที่ทำแบบนี้ได้” Ryan กล่าวออกไมค์อย่างมั่นใจ ดังนั้นแต่ละเพลงที่เขาร้องจึงเรียกเสียงกรี๊ดและเสียงฮือฮาจากแฟนๆ ได้ไม่ยาก ทั้ง “Halo” ของ Beyoncé, “Bleeding Love” ของ Leona Lewis, “Rumour Has It” ของ Adele ที่ Ryan พูดล้อเลียนสำเนียงคนอังกฤษของ Adele อย่างน่ารัก, “THATS WHAT I WANT” ของ Lil Nas X และ “Sucker” ของ Jonas Brothers เอาจริงๆ นี่เป็นเพียงแค่ส่วนน้อยมากๆ เท่านั้นสำหรับเพลงที่ Ryan Tedder แต่ง สมกับเป็นนักแต่งเพลงมือทองจริงๆ

กลับมาต่อกันที่เซ็ตลิสต์ของ OneRepublic อีกครั้ง ยังคงมีทั้งเพลงเก่าเพลงใหม่ปะปนกันไป “Sunshine”, “I Ain't Worried” เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Top Gun: Maverick, “Apologize” ที่ Ryan เปิดคลาสสอนแฟนๆ ร้องเพลงประสานเสียงกันอย่างสนุกสนาน, “I Lived”, “Counting Stars” เพลงฮิตที่แฟนๆ ร้องตามกันได้ทุกคำ และปิดท้ายแบบไม่มีอังกอร์ด้วย “If I Lose Myself”

แม้ว่าตอนจบจะเหวอๆ เล็กน้อยที่ไม่มีอังกอร์ แต่พอนึกไปนึกมา เพลงดังๆ ที่เป็นซิงเกิลของพวกเขาก็เล่นแทบจะหมดแล้วจริงๆ ในฐานะแฟนเพลงตัวยงอย่างเรา ถ้าจะได้ฟังเพลง B-Sides บ้างก็ไม่เป็นไร แถมจะเป็นเรื่องดีเสียอีก แต่ถึงกระนั้นเพลงที่เราอยากฟังมากๆ ก็ยังอยู่ในลิสต์ไม่โดนตัด นั่นคือ “Stop and Stare” เพลงแรกที่ทำให้เราหลงรัก OneRepublic นอกนั้นมาตรฐานในการเล่นสดของ Ryan Tedder และนักดนตรีในวงยังคงทำได้ดี ทุ่มเทเต็มที่ นักไวโอลินเล่นทุ่มสุดตัวแทบจะกลัวสายไวโอลินขาด แม้ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้จะไม่มีจอด้านข้างเวทีให้แฟนๆ ชาวยอดดอยได้ดูกันชัดๆ จึงแอบน่าเสียดายไปบ้าง และถึงแม้จะมีบางช่วงบางตอนเล็กๆ ที่เราแอบเห็นความเหนื่อยของพี่ Ryan บ้าง แต่เขายังมีสปิริตสูง จังหวะที่เหนื่อยก็รู้จักพัก อยู่นิ่งๆ ชาร์ตพลังเงียบๆ แล้วร้องเสียงสูงดังสนั่นฮอลล์ได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังกระโดดลงมาหาคนดูโซนหน้าตั้งหลายครั้ง แสงสีเสียงเรียบง่ายแต่พอดิบพอดีไม่ขาดไม่เกิน แบบนี้เอาใจเราไปได้เหมือนเดิมจริงๆ

ไม่ว่าจะมาเพื่อทำงาน พักผ่อน หรือเล่นคอนเสิร์ต เชื่อว่าแฟนๆ ชาวไทยยินดีต้อนรับ OneRepublic เสมอ