"เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" ร่ายยาวทำไมทำขายของออนไลน์ ยอมรับปีนี้เจ็บหนัก
กลายเป็นประเด็นที่หลายคนพูดถึงเสียงแตกกันมาก เมื่อ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น (รัชนก สุวรรณเกตุ) ออกมาเผยว่าเงื่อนไขในการให้ศิลปินที่ยอดวิวไม่ถึงเป้าได้ต่อสัญญา คือการที่ศิลปินคนนั้นขายสินค้าอย่างครีม DD Jenny ให้ได้ตามเป้า ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำหรับศิลปินที่ยอดวิวเพลงไม่ถึงตามเป้า จนหลายคนเข้ามาวิจารณ์เรื่องการทำงานของเจนนี่ จนเธอออกมาชี้แจงร่ายยาว
โดยเจนนี่ได้โพสต์ข้อความว่า "ทำไมยังหันมาทำแบรนด์ขายของออนไลน์ เพราะทุกอย่างต้องใช้เงิน การเลี้ยงดูน้องๆ จำเป็นต้องมีค่ากิน ค่าใช้ มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนทำเพลง ทำ MV และค่าอื่นๆอีกมากมาย ทำค่ายเพลงซีซั่นนี้ บอกทุกคนเสมอว่าไม่ต้องการกำไรเลย ขอแค่มีเงินมาหมุนทุนบ้างก็พอ ปีนี้ยอมรับ เจ็บหนัก เพลงของค่ายทุกเพลงยอดวิวน้อยมาก ซึ่งแน่นอนการทำผลงานจะให้ดังเหมือนเมื่อก่อนมันไม่ง่ายเลย เพราะฉะนั้น เจนนี่ต้องหาเงินจำนวนมากเพื่อมาซัพพอร์ตน้องๆ ให้เค้าได้มีผลงาน มีประสบการณ์เพื่อนำไปใช้ในยามที่เค้าหมดสัญญา และอย่าลืมว่ามากกว่าศิลปินในค่าย เจนนี่ยังมีลูกมีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดู เพราะฉะนั้นเจนนี่จะมารอแค่งานคอนเสิร์ตงานร้องเพลงไม่ได้ โลกเปลี่ยนไปแล้ว การขายออนไลน์เป็นอีก 1 ทางเลือกที่เราสามารถทำได้"
และเจนนี่ได้เผยว่า "ไม่ใช่แค่เจนนี่ น้องๆเองก็เช่นกัน วันนึงไม่มีงานร้องเพลง เราก็ต้องรู้จักเอาตัวรอด ไม่ทำอาชีพเสริมอย่างใดก็อย่างนึง อย่าลืมว่าการจะดัง จะมีงานไม่ใช่เรื่องง่าย ระยะเวลา 1 ปี ไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าเทียบกับศิลปินรุ่นพี่ยุคก่อนๆค่ะ และเจนนี่ต้องขอขอบคุณกระแสตอบรับที่ของสินค้าเจนนี่ เปิดตัววันแรกของติดจองหมดเกลี้ยง ซึ่งกำไรก้อนแรกที่เจนนี่ได้จากการขายของในครั้งนี้ จะมาสร้างผลงานให้น้องศิลปินชายของค่ายในโปรเจกต์ 8 หนุ่ม ได้หมดถ้าสดชื่นค่ะ สู้กันอีกตั้งก่อนหมดสัญญา เจ้าภาพท่านไหนสนใจติดต่องาน น้องๆ 10 คิวแรก เราไปแสดงฟรี เจนนี่ออกค่าใช้จ่ายให้เองทั้งหมดค่ะ ขอบคุณค่ะ"
นอกจากการปั้นศิลปินแล้ว ตอนนี้เจนนี่ก็มีเพลง "ตบสั่งสอน" ออกมาให้แฟนๆ ได้ฟัง และก็มีเพลง "เอาให้หลง" ซึ่งปล่อยในวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา และได้ ยิว ฉัตรมงคล สามีมาร่วมปรากฎตัวในเอ็มวีด้วย
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ