คุยกับ Kamal. ทำไมชื่อต้องมีจุด เพลงที่ดังในหมู่ไอดอลเกาหลี และสิ่งที่อยากทำในไทย
Kamal. นักร้อง/นักแต่งเพลง/นักดนตรีอายุ 20 ปี กับชีวิตศิลปินที่เริ่มตั้งแต่วัยยังน้อย และเพลงที่สื่อความเป็นตัวตนของเขามากที่สุด
Sanook มีโอกาสได้สัมภาษณ์ผ่านอีเมลกับหนุ่ม Kamal. ศิลปินมากความสามารถที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย กับเพลงดังอย่าง “blue” ที่เป็นเพลงโปรดของศิลปิน K-POP หลายคนแ รวมถึงแฟนเพลงคออาร์แอนด์บีอินดี้ชาวไทยด้วย Kamal. เป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้ขึ้นเวทีเทศกาลดนตรีนานาชาติ PELUPO ที่พัทยาบ้านเราในวันที่ 11 มีนาคมนี้ด้วย มาทำความรู้จักตัวตนของเขาให้มากขึ้นกัน
ทำไมชื่อ Kamal. ถึงต้องมีจุด
Kamal.: ผมอยากให้ชื่อของผมไม่ซ้ำกับคนอื่นๆ ที่ใช้ชื่อ Kamal ในโซเชียลมีเดีย และสตรีมมิงแพลตฟอร์มต่างๆ เหมือนกันน่ะครับ หลังจากที่ปล่อยเพลงออกมา 2-3 เพลง ผมก็รู้สึกว่าชื่อนี้มันจำง่ายดีนะ จากนั้นการใช้จุดก็กลายเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวผมไปเลย
คุณเริ่มเล่นดนตรีเร็วมาก ทั้งเปียโนตอน 6 ขวบ และเริ่มแต่งเพลงจากอูคูเลเล่หลังจากนั้นแค่ไม่กี่ปี จำได้ไหมว่าเพลงแรกที่แต่งเป็นเพลงเกี่ยวกับอะไร
Kamal.: เพลงแรกที่ผมแต่งชื่อเพลงว่า “searching” ครับ ผมแต่งตอนอยู่ชั้นประถม ตอนนั้นแต่งด้วยความคิดที่ว่า ผมกำลังมองหาใครสักคนที่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย และรู้สึกเหงาน้อยลงได้บ้างเมื่ออยู่บนโลกใบนี้ครับ
คุณเล่นเครื่องดนตรีได้หลายประเภทมากๆ และยังเล่นเก่งทุกอย่างเลยด้วย แต่ถ้าให้เลือกว่าเครื่องดนตรีชนิดไหนที่เล่นได้ดีที่สุดแล้วคุณเองก็ชอบที่สุด จะเป็นชิ้นไหน
Kamal.: ผมว่าผมเล่นเปียโนได้เก่งที่สุดครับ และน่าจะเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกคุ้นเคยมากที่สุดด้วย
จากทุกเพลงที่ปล่อยออกมา คิดว่าเพลงไหนที่สื่อถึงความเป็นตัวคุณได้มากที่สุด เหมือนเป็นเพลงแนะนำตัวของคุณได้ (หรือเป็นเพลงที่อยากแนะนำให้คนที่เพิ่งรู้จักคุณครั้งแรกได้ฟัง)
Kamal.: ผมว่าเป็นเพลง “war outside” และ “homebody” เป็นเพลงที่ผมตกผลึกมุมมองของผมที่มีต่อโลก และเผยถึงความรู้สึกวิตกกังวลของตัวเองผ่านเพลงออกมาได้ชัดเจนที่สุดครับ
คุณก้าวเข้าสู่วงการดนตรีตั้งแต่อายุยังน้อยมากๆ คิดว่าจากประสบการณ์ตรงของคุณเอง สิ่งที่ดีและสิ่งที่แย่ต่อการเริ่มเป็นศิลปินตั้งแต่อายุยังน้อยคืออะไร
Kamal.: ผมว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีมากนะที่ได้รู้สึกถึงการประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แต่มันก็ทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับเพื่อน และการทำให้สิ่งที่คุณชอบมากๆ กลายมาเป็นสินค้าก็อาจทำให้คุณรู้สึกเศร้าได้บ้างเหมือนกัน
แต่โดยรวม ผมก็ยังรู้สึกขอบคุณอยู่ดีที่ผมได้มีโอกาสทำเพลงเป็นอาชีพ เป็นสิ่งที่สวยงามที่ผมคิดไม่ออกเลยว่าถ้าขาดมันไปผมจะอยู่ยังไง
คุณเป็นที่รู้จักจากเพลง “blue” ที่เป็นกระแสอยู่ในเกาหลีใต้ ทั้งขึ้นอันดับ 1 ของ MelOn ในชาร์ตเพลง R&B และยังเป็นเพลงโปรดของไอดอลเกาหลีหลายคน ทั้ง แจฮยอน NCT, เยริ Red Velvet, ชินบี GFriend+Viviz และ กอนฮี ONEUS คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้เพลง “blue” ประสบความสำเร็จ และกลายเป็นเพลงโปรดของใครหลายๆ คน
Kamal.: ผมว่าอาจเป็นเพราะเพลงปล่อยออกมาในช่วงเวลาที่คนกำลังเริ่มปรับตัวหลังเจอโควิด-19 แล้วเพลงก็มีเนื้อหาเศร้าๆ ที่ทุกคนเข้าใจและรับรู้ได้ บวกกับคอรัสที่มอบความหวังให้กับคนฟังด้วย นั่นน่าจะทำให้เพลงนี้เป็นที่ชื่นชอบของคนที่ฟังได้ครับ
ถ้ามีโอกาสได้ร่วมทำเพลงกับศิลปินคนใดก็ได้ในโลก หรือจะเป็นศิลปิน K-POP ก็ได้ จะเลือกร่วมงานกับใคร
Kamal.: ผมยังไม่ค่อยรู้จัก K-POP มากนักนะครับ แม้ว่าอยากจะรู้จักให้มากขึ้นอยู่ก็ตาม แต่ผมเคยฟังเพลงของคุณ Yeri เพราะเธอเคยติดต่อมาหาผม แล้วผมก็ชอบน้ำเสียงของเธอมากเลย ถ้านอกเหนือจากนี้ ที่ผมนึกออกก็มี James Blake, Dijon และ SZA ครับ
เคยมาเมืองไทยไหม สิ่งแรกที่นึกถึงประเทศไทย คืออะไร
Kamal.: ผมยังไม่เคยไปเมืองไทยเลยครับ แต่สิ่งแรกที่ผมนึกถึงเมืองไทยคือ ชายหาดสวยๆ ที่ผมเคยเห็นในรูป มันอาจจะดูธรรมดาไปหน่อย แต่วิวทิวทัศน์ต่างๆ ที่ผมเคยเห็นมันสวยมากเลยครับ
ถ้าได้ทำอะไรก็ได้ หรือทำอะไรก็ได้ที่เมืองไทยตอนนี้ คุณอยากทำหรืออยากไปไหน
Kamal.: จริงๆ แล้วการได้ไปแสดงคอนเสิร์ตก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆ แล้วครับ แต่ผมก็ตื่นเต้นที่จะได้ลองอาหารที่แตกต่างของที่นั่นดูด้วย!
คุณวางแผนชีวิตในปี 2023 เอาไว้อย่างไรบ้าง อยากแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวนอกเหนือไปจากแสดงในเทศกาล PELUPO บ้างไหม
Kamal.: เรื่องคอนเสิร์ตเดี่ยวคงต้องคิดดูก่อนนะครับ แต่ผมวางแผนจะปล่อย mixtape ใหม่ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ครับ ผมรู้สึกเหมือนทุกคนจะได้เห็นการพัฒนาด้านการเป็นศิลปินของผมได้มากขึ้น เลยแทบจะรอไม่ไหวเลยครับ
ฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยหน่อย
Kamal.: ผมรักทุกคนนะครับ และไปเจอกันที่ PELUPO นะครับ!