ฟังเพลงชิล ๆ ในห้องนั่งเล่นของ “FKJ” ศิลปินอัจฉริยะ ผู้สร้างงานศิลปะผ่านเสียงดนตรี

ถือเป็นการชมคอนเสิร์ตอีกครั้งของชีวิต ที่แม้จะผ่านไปหลายวันแล้ว แต่ความอิ่มเอมและความประทับใจก็ยังอัดแน่นอยู่ภายในใจ จนยากที่จะลืมเลือน สำหรับคอนเสิร์ต “FKJ: Asia Tour Live in Bangkok” ของ FKJ หรือ French Kiwi Juice ศิลปินอัจฉริยะ ผู้สร้างงานศิลปะผ่านเสียงดนตรี ที่สะกดหัวใจของคนฟังเพลงจากทั่วทั้งโลก หลังจากไม่ได้มาเยือนประเทศไทยนานกว่า 4 ปี Defiance Entertainment ร่วมกับ OVD ก็ได้พา FKJ กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง พร้อมผลงานเพลงที่พัฒนาขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์และเอกลักษณ์ความเป็นเขาได้อย่างยอดเยี่ยม เรียกว่าการได้เข้าไปยืนฟังเพลงของ FKJ ตลอด 1 ชั่วโมงครึ่งในครั้งนี้ ถือเป็นการ “ฮีลใจ” มนุษย์เงินเดือนที่เหนื่อยล้าจากการทำงานมาตลอดทั้งสัปดาห์ได้เป็นอย่างดี 

Defiance Entertainment

คอนเสิร์ต FKJ: Asia Tour Live in Bangkok จัดขึ้น ณ centralwOrld Live บนชั้น 8 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ต้องบอกว่าเป็นสถานที่จัดงานที่ดี ทั้งในแง่ของทำเล ซึ่งอยู่ในย่านกลางเมืองที่เดินทางได้ง่าย ขนาดของพื้นที่ที่กว้างขวางและรองรับผู้ชมได้พอเหมาะพอเจาะ ไม่อัดแน่นจนเกินไป พร้อมห้องน้ำที่มีจำนวนเพียงพอกับจำนวนคนที่ไปคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ถือเป็นตัวเลือกที่ดี และเป็นความประทับใจแรกที่เราขอยกนิ้วให้ 

Opening Act จาก 3 ศิลปินไทย 

แม้ส่วนตัวจะไม่ใช่คนฟังเพลงที่ติดตามศิลปินไทยมากนัก แต่ 3 ศิลปินไทยที่เป็น Opening Act ของคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ได้แก่ H 3 F, YUU และ HYBS ก็สร้างความประหลาดใจให้กับเรามากพอสมควร ทั้งในเรื่องสไตล์และเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของศิลปิน รวมไปถึงความสามารถทางดนตรีของศิลปินไทย ที่พัฒนาก้าวหน้าจนสามารถเทียบกับศิลปินจากต่างประเทศได้อย่างภาคภูมิใจ 

Defiance Entertainment

H 3 F คือศิลปินวงแรกที่ขึ้นเวทีมาเรียกน้ำย่อยให้กับผู้ชม การแสดงที่เต็มไปด้วยพลังของพวกเขาทำให้ผู้ชมเริ่มโยกตัวตามเสียงดนตรี ที่ผสมผสานหลากหลายแนวเพลงเข้าด้วยกัน ทั้งป๊อป บลูส์ ฟังก์ อาร์แอนด์บี ก่อนจะถึงคิวของ YUU ที่พาเราดำดิ่งไปกับเสียงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ และความรู้สึกที่หลากหลายที่ถูกอัดแน่นอยู่ในสุ้มเสียงดนตรีของศิลปินหนุ่มมากความสามารถคนนี้ 

ก่อนที่ HYBS จะขึ้นมาเปลี่ยนบรรยากาศให้ทั้งฮอลล์สดใสไปกับเพลงจังหวะสนุก ๆ ของพวกเขา สำหรับเราแล้ว HYBS คือวงดนตรีที่เราได้ยินเพลงของพวกเขาบ่อยมาก ๆ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าหน้าตาของศิลปินเจ้าของบทเพลงที่เราร้องตามได้เป็นอย่างไร กระทั่งได้มาเห็นหน้าตาและลีลาของพวกเขาในคอนเสิร์ตครั้งนี้ เป็นอีกความประทับใจส่วนตัวที่ได้รับจากงานนี้ และต้องบอกว่า HYBS คือวงดนตรีมากความสามารถ ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกอิ่มเอมใจ และพร้อมจะไปสนุกกับ FKJ กันแล้ว 

ฟังเพลงชิล ๆ ในห้องนั่งเล่นกับ FKJ

หลังจาก Opening Act ของทั้ง 3 ศิลปินไทย ก็ถึงคิวของ FKJ กันแล้ว เวทีถูกเปลี่ยนให้เป็น “ห้องนั่งเล่น” สุดชิล ขณะที่จอ LCD ขนาดใหญ่ก็ทำหน้าที่เหมือนเป็นกระจกใสของห้องนั่งเล่น ที่ฉายภาพต้นไม้สีเขียวและหมู่มวลนกที่บินวนไปมา ให้ความรู้สึกผ่อนคลายคล้ายกับ FKJ ได้เปิดห้องนั่งเล่นให้ผู้ชมได้เข้าไปนั่งอยู่กับเขาจริง ๆ ขณะที่หัวใจเต้นแรงเพราะตื่นเต้นกับเซ็ตห้องนั่งเล่นสุดชิลนี้ FKJ ที่เรารอคอยมาอย่างยาวนานก็เดินขึ้นเวทีด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนที่เพลง “Let’s Stay Together” จะดังขึ้น แต่ก็มีเหตุแผ่นสะดุดอยู่สองสามรอบ จน FKJ ตัดสินใจบรรเลงดนตรีด้วยตัวเองเสียเลย นั่นคือจุดเริ่มต้นของค่ำคืนแห่งความสนุกและเพลิดเพลิน ด้วยเสียงดนตรีจากนักดนตรีอัจฉริยะ นามว่า “FKJ” 

Defiance Entertainment

ตลอด 1 ชั่วโมงครึ่งของคอนเสิร์ต FKJ ขนเพลงดังของเขามาฝากแฟน ๆ ชาวไทยอย่างครบถ้วน ให้สมกับที่ไม่ได้มาเยือนเสียหลายปี FKJ เสียงเพลงของเขาทำให้ผู้ชมค่อย ๆ โยกตามจังหวะดนตรีและเช็กลิสต์ที่ถูกร้อยเรียงมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเพลง Skyline ที่ยังคงละมุนและนุ่มนวลเหมือนในแผ่นเพลงที่เราเปิดฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า, Losing My Way ที่ FKJ ได้ Tom Misch มาร่วมฟีทเจอริ่ง เพลงจังหวะสนุก ๆ ให้เราได้พอโยกหัวตามได้ และถือเป็นเพลงที่พิเศษมาก ๆ สำหรับเรา เพราะนี่คือบทเพลงที่ทำให้เราตกหลุมรัก FKJ มาจนถึงวันนี้, Risk และ Ylang Ylang จาก Ylang Ylang EP ที่ FKJ สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างงดงาม (เหมือนอย่างเคย) ทำให้เราดำดิ่งลงไปในห้วงดนตรีชวนฝัน หรือเพลงจากอัลบั้ม V I N C E N T อัลบั้มล่าสุดของ FKJ ที่ยังคงความเป็นเขาได้อย่างชัดเจน แต่เพิ่มขึ้นด้วยลูกเล่นและทักษะทางดนตรีที่เราคิดว่า FKJ พัฒนามากขึ้น แน่นขึ้น และจับหัวใจคนฟังเพลงมากขึ้น

Defiance Entertainment

สิ่งหนึ่งที่เราคาดหวังว่าจะได้สัมผัสด้วยตัวเองเมื่อไปคอนเสิร์ตของ FKJ คือเสียงแซกโซโฟนของเขา ที่มัดหัวใจเราไว้ได้อย่างอยู่หมัด (ตลอดมาและตลอดไป) และคอนเสิร์ตในค่ำคืนนี้ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะ FKJ ยังคงสื่อสารกับผู้ชมด้วยเสียงแซกโซโฟนแสนไพเราะ เช่นเดียวกับเครื่องดนตรีชนิดอื่น ๆ ที่เขายังทำให้เรารู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่หลากหลาย 

Encore ที่ทำให้หัวใจเต้นแรง

ช่วงเวลาที่ทำให้หัวใจของเราเต้นแรงมากที่สุดในคอนเสิร์ตครั้งนี้ คือช่วงเวลาที่ FKJ กลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง เพื่อทำการแสดงอังกอร์ 3 เพลงสุดท้าย ได้แก่ Instant need, Tadow และ Sundays ซึ่งทั้ง 3 เพลงเปรียบเสมือน “Comfort song” ของเรา เวลาที่รู้สึกเหนื่อยล้า เพลงของ FKJ คือยาใจที่ช่วยเติมพลังให้กับเราทุกครั้ง การได้ยืนฟังเพลงเหล่านั้น โดยมีศิลปินที่เรารักมาก ๆ เล่นสดอยู่ตรงหน้า จึงมีความหมายกับหัวใจของเราอย่างมาก ถือเป็นการปิดคอนเสิร์ตที่งดงามและสร้างพลังให้กับเราได้อย่างแท้จริง 

Defiance Entertainment

คอนเสิร์ตครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลา “ชาร์จพลังใจ” ให้กับเราและเป็นประสบการณ์ที่แสนคุ้มค่า สำหรับแฟนคลับของ FKJ ก็คงจะได้ดื่มด่ำกับดนตรีที่แสนงดงาม เต็มไปด้วยพลังและทักษะของศิลปินอัจฉริยะคนนี้อย่างเต็มที่ นี่เป็นประสบการณ์การดูคอนเสิร์ตที่น่าจดจำมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเรา และหวังว่า FKJ จะกลับมาเยือนเมืองไทยอีกครั้งในอนาคตอันใกล้นี้