รีวิว WayV Fanmeeting 2023 สนุกครบรสจนอยากให้เป็นคอนเสิร์ต

WayV กับแฟนมีตติ้งครั้งที่ 2 ใน 2023 WayV Fanmeeting Tour [Phantom]’ in BANGKOK วันที่ 1-2 เม.ย. ที่ผ่านมา ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี แฟนๆ ชาว WayZenni ขำท้องแข็ง กรี๊ดแตกตอนขึ้นเวที และเอ็นดูความช่างพูดของแต่ละคนกันถ้วนหน้า ประทับใจทั้งแฟนคลับและศิลปินไปตามๆ กัน

รอบที่ผู้เขียนได้เข้าชมเป็นรอบของวันที่ 1 เม.ย. เวลา 18.00 น. หนุ่มๆ WayV ทั้ง 5 คน คุณ เตนล์ เฮนเดอรี่ เซียวจวิ้น และ หยางหยาง ปรากฏตัวพร้อมกับการแสดงเพลง “Kick Back” เป็นเพลงเปิด ก่อนจะต่อด้วย “Try My Luck” เพลงใหม่ในมินิอัลบั้มล่าสุด Phantom ฉากหลังเป็นจอ LED จำลองบรรยากาศในห้องโถงขนาดใหญ่ในปราสาทหรูสไตล์ตะวันตก สีแดง ทอง และดำ ฉากทั้งสองด้านของเวทีเป็นจอ LED รูปประตูเข้าห้องโถงขนาดใหญ่เปลี่ยนสีไฟตามไปเพลง แม้ว่าจะเป็นจอ LED แต่ก็ทำภาพออกมาได้สวยชัดเจนดี

หนุ่มๆ ทักทายแฟนๆ ก่อนเข้าสู่ช่วงกิจกรรมตามแบบฉบับของแฟนมีตติ้ง ที่ในแต่ละประเทศและแต่ละรอบที่แสดงจะเปลี่ยนช่วงนี้ไปเรื่อยๆ ในวันนี้เราได้ช่วง What’s In Kun’s Bag? มีอะไรอยู่ในกระเป๋าคุน ที่คุนบอกว่าเป็นกระเป๋าที่เขาใช้จริง แต่หยิบของออกมาก็มีของที่น่าจะเป็นของเขาจริงๆ และน่าจะเป็นของจากทีมงานด้วยเพื่อสร้างสีสันให้กับแฟนๆ ทั้งหมวกที่สวมก่อนการกระโดดร่มที่เป็นงานอดิเรกของคุน แป้งเย็นตรางูที่เหล่าสมาชิกเอามาลองทากันอย่างสนุกสนาน ขนมปาร์ตี้ของโปรดสายหวาน รวมไปถึงครกที่โดนแววว่าต้องทำส้มตำให้แฟนๆ ได้ลองกินกัน และปิ่นโตที่ข้างในมีปูผัดผงกะหรี่ เมนูสุดโปรดของคุน

 หลังจากหมดช่วงกิจกรรม หลังจากนี้ยาวๆ เป็นช่วงของการแสดงบนเวทีทั้งหมด ทั้งการแสดงพิเศษ เต้นเมดเลย์เพลงฮิต SM Dance Medley อย่าง “Illusion” ของ aespa เพื่อโชว์ด้านเซ็กซี่, “Candy” ของ NCT DREAM เพื่อโชว์ด้านน่ารัก และ “Sherlock (Clue + Note)” ของ SHINee เพื่อโชว์ความเท่ โดยหยางหยางบอกว่าอยากให้ทุกคนได้เห็นทุกๆ ด้านของ WayV ก็เลยเลือกเพลงหลากหลายแนวมาแสดงให้ได้ดูกัน

นอกจากเพลงเร็วๆ โชว์อินเนอร์เซ็กซี่ที่เป็นงานถนัดของ WayV อย่างเพลง “Action Figure” ที่แฟนๆ ไม่ได้เห็นกันมานาน และ “Nectar” เพลงโปรดของใครหลายๆ คนแล้ว ยังมีเพลงช้าที่แฟนๆ ได้ฟังเสียงร้องสดๆ เคลือบหูทองคำไปตามๆ กันอย่าง “Broken Love” และ “โต๊ะริม (Melt)” เพลงของนนท์ ธนนท์ จากคุน เตนล์ และเซียวจวิ้น ที่ซุ่มซ้อมร้องเพลงภาษาไทยกันมาอย่างดี และเหมือนจะยิ่งร้องบ่อยก็ยิ่งร้องได้ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

ปิดช่วงสุดท้ายของงานไปด้วยการแสดงเพลง “Diamonds Only”, “Phantom” และออกมาอังกอร์ด้วย “Good Life” สมาชิกทั้ง 5 เดินแจกรอยยิ้มไปทั่วเวที เป็นแฟนมีตติ้งที่อบอุ่นน่ารักเป็นกันเอง และดูเหมือนว่าทั้งศิลปินและแฟนคลับยังไม่มีใครอยากจะก้าวขาออกไปจากฮอลล์ แม้ว่าเวลาจะดำเนินไปแล้วเกือบ 2.40 ชั่วโมง

หากเทียบกับแฟนมีตติ้งรอบที่ผู้เขียนได้ชมออนไลน์ ที่จัดขึ้นครั้งแรกในเกาหลีใต้ รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหนุ่มๆ มีความสบายๆ ไม่เกร็งมากเท่าเก่า การดำเนินงานไปได้ราบรื่นมากขึ้นไม่ค่อยมีจังหวะเดดแอร์หรือช็อตสะดุดมากนัก แม้จะเป็นแฟนมีตติ้งที่ไม่มีพิธีกร แต่หนุ่มๆ ก็ช่วยกันดำเนินช่วงต่างๆ ไปได้อย่างราบรื่น คุน ที่แสดงด้านน่ารักๆ ออกมาให้เห็นตลอดเวลา เฮนเดอรี่ที่เป็นตัวชูโรงเรียกเสียงหัวเราะได้ตลอด เซียวจวิ้นที่ทุ่มเทกับการเอนเตอร์เทนแฟนๆ ได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง หยางหยาง น้องเล็กที่แม้จะดูเขินอายแต่ก็น่ารักสดใสเป็นตัวของตัวเองได้ดี แต่ MVP ต้องขอยก เตนล์ เจ้าบ้าน ที่ช่วยดำเนินรายการอย่างราบรื่น เกลี่ยแอร์ไทม์ให้กับเพื่อนในวงได้โชว์ของเท่าๆ กัน ไม่ลืมที่จะให้ตัวเองได้ไชน์ด้วย และยังพูดสลับภาษาไทยและเกาหลีอยู่ตลอดทั้งงาน ถือว่าทำได้ดีและเป็นธรรมชาติมากๆ

แม้ว่าจะเป็นงานแฟนมีตติ้ง แต่สเกลในการจัดงานถือว่าใกล้เคียงกับคอนเสิร์ต ฉาก LED สวยๆ แสง สี เสียง จัดเต็มครบครัน สิ่งที่เสียดายมีแค่ 3 จุด คือ จุดแรก ช่วง What's in Kun's Bag? ถ้าจัดสรรเวลาให้สามารถเปิดกระเป๋าทุกคนในวงได้ก็น่าจะดี จุดที่ 2 สถานที่จัดงานอย่างธันเดอร์โดม ไม่เพียงพอสำหรับแฟนๆ ของ WayV อีกต่อไป เห็นได้จากบัตรหมดเกลี้ยงทั้งสองรอบในเวลาอันรวดเร็ว และในโซนยืนที่แน่นขนัด และจุดที่ 3 WayV เป็นวงที่แสดงเพอร์ฟอร์มานซ์ได้ดีจนอยากดูเป็นคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบมากกว่าแฟนมีตติ้ง ถ้าเป็นไปได้ครั้งหน้าที่เราได้เจอกัน อยากชมเป็นคอนเสิร์ตสเกลใหญ่ที่จัดในฮอลล์อย่างอิมแพ็ค อารีน่าหรือใกล้เคียง น่าจะเหมาะกับศักยภาพของวงมากกว่า

แต่ไม่ว่า WayV จะมาหาแฟนๆ ชาวไทยด้วยรูปแบบไหน รับรองว่าแฟนๆ จะให้การสนับสนุนเหมือนเดิมหรือยิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอน