คุยกับ "หญิงลี" ถึงชีวิตหลัง "คาเฟอีน" เพลงสากลที่ชอบ และชีวิตที่เป็นเจ้าแม่เพลงสนุก
ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา หญิงลี ศรีจุมพล ถือเป็นศิลปินที่น่าจะเรียกได้ว่ามีกราฟชีวิตที่พุ่งสูงอีกครั้งในรอบ 10 ปี จากความสำเร็จของเพลง "คาเฟอีน" ที่มอบโอกาสต่างๆ มากมาย ทั้งคอนเสิร์ต รายได้ จนถึงงานพรีเซนเตอร์ จนทำให้เธอเข้ามาอยู่ในลิสต์ศิลปินที่ทาง Sanook Music อยากนำเรื่องราวมาเสนอ
และล่าสุดในโอกาสที่หญิงลีมากับเพลง “อ้อนแม่กินกุ้งแช่” เราได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอ ถึงเพลงใหม่ แนวทางการทำงาน ไปจนถึงชีวิตบทบาทต่างๆ และเพลงสากลที่ชอบ ซึ่งจะทำให้แฟนๆ ได้รู้จักเธอมากขึ้นในมุมที่ไม่รู้จัก ในฐานะ Artist of the Month เดือนเมษายน
เพลง “อ้อนแม่กินกุ้งแช่” มีที่มาอย่างไร ?
หญิงลี : จุดเริ่มต้นมาจาก พวกเราจะสั่งเมนูกุ้งแช่น้ำปลา แต่ไม่สั่งสักทีร้องแต่กุ้งแช่ๆจนพนักงานเสิร์ฟรำคาญ และหลังจากนั้นท่อนกุ้งแช่ๆ เหมือนเสียงตุ้งแช่ตอนเชิดสิงโตติดหูวนไป ไม่ว่าจะตอนเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ เข้านอน ก็แบบ กุ้งแช่ๆ ร้องทั้งวัน เหมือนมนต์สะกดแบบ “คิดสิคิดสิ คาปูชิโน่ เอสเปรสโซ่ อาราบิก้า” ที่ทำให้ติดปาก เอาออกจากหัวไม่ได้ คิดว่าน่าจะทำให้คนจำได้ไว ก็เลยคิดเนื้อเรื่องที่ไปที่มาก่อนท่อนกุ้งแช่คืออะไร และได้เป็นเรื่องราวความรักของผู้ชายคนนี้ เจ้าชู้หัวงู ที่ทำให้อกหัก ไม่ใครมาอยู่ปลอบใจ สุดท้ายก็คงต้องเป็นแม่ ชวนแม่ไปดื่มเป็นเพื่อนหน่อย แบบ ‘แม่กินกุ้งแช่หน่อยแม่ กินแต่ข้าวไข่เจียว อยากกินกุ้งแช่ อยากกินก๋วยเตี๋ยว อยากไปเที่ยว’
เพลง หญิงลี ส่วนใหญ่มีคาแรคเตอร์ชัดมากๆ อยากรู้ว่าการทำงานเพลงนี้ต่างจากที่ผ่านมาอย่างไร ?
หญิงลี : เพลงนี้ง่ายและเร็ว เพราะทางทีมแกรมมี่เข้าใจความเป็นหญิงลีมากขึ้น หลังเพลง “คาเฟอีน” ตอบโจทย์น้องๆ หนูๆ เป็นเพลงเต้นง่ายใกล้ตัว เพลงนี้เราก็ให้โจทย์ครูเพลงว่าอยากได้แบบ “ขอใจเธอแลกเบอร์โทร” ทางอาจารย์ สวัสดิ์ สารคาม ก็ตีโจทย์มาให้ไว โปรดักชั่นภาพวิดีโอทางค่ายก็เข้าใจว่าภาพต้องแบบนี้ เพลงจะเป็นแบบเชิดมังกร ก็ตีโจทย์ออกมาได้เร็ว ทางคุณ ฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ก็สั่งการเร็วให้ก่อนสงกรานต์ เพลงนี้ก็จะเว้นช่วงจาก “คาเฟอีน” ไม่นาน เพราะเราอยากให้สงกรานต์นี้ทุกคนได้มาสนุกกับเพลงกุ้งแช่เลยค่ะ
ความสำเร็จของ “คาเฟอีน” ส่งผลกับเพลงอื่นในอัลบั้มและผลงานที่จะตามมาอย่างไรบ้าง ?
หญิงลี : เพลงก็ยังเป็นแนวสนุก ร้องตาม เต้นตามได้ง่าย ให้ทุกคนครอบครัวและเด็กๆ มีความสุข และยังคงเอกลักษณ์ของหญิงลี ความเต้นแรง เต้นเร็ว ความเป็นอีสานยังมี เช่น คำอีสาน ดนตรีโจ๊ะๆ ค่ะ
“ขอใจเธอแลกเบอร์โทร” กับ “คาเฟอีน” ในวันที่ 2 เพลงนี้ประสบความสำเร็จ เรารับมือต่างกันอย่างไร?
หญิงลี : เหมือนปลาตัวเล็ก ปลาตัวใหญ่ค่ะ ปี 2555 ตอนเพลง “ขอใจเธอแลกเบอร์โทร” เรายังเป็นปลาอนุบาล ต้องทะเยอทะยาน มีอาหารอะไรก็จะกินๆ มีงานอะไรก็จะไปเพื่อเก็บเงิน ต้องออกสื่อเยอะๆ เพื่อให้เราโต แต่ตอนนี้ปี 2566 เราเป็นปลาที่โตแล้ว เราจะทำศักยภาพให้โตขึ้น ด้วยประสบการณ์ที่สะสมมา ถึงแม้ความสดใส ไม่เท่าตอนนั้นแล้ว พลังอาจจะน้อยกว่า แต่เรารู้ว่าเราไม่ต้องรัวหมัด เราเอาให้เข้าเป้า อาจจะแค่ 2 หมัดพอ เราคำนวนและมีประสบการณ์ความนิ่งและแม่นยำมากขึ้นกับเป้าหมาย แต่ก็ยังกินง่ายอยู่ง่ายเหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้มีพันธมิตรพี่สื่อมวลชนเอ็นดูให้ความรักเสมอ อาจจะเขาชอบคุยด้วยกับเรา และทางค่ายก็เอ็นดูไม่ทอดทิ้งหญิงลีค่ะ ก็รู้สึกว่าทำงานง่ายขึ้นค่ะ
เราจะได้ฟังเพลงช้าในอัลบั้มนี้ไหม ?
หญิงลี : เพลงช้าอาจจะไม่ใช่ทางจริงๆ ชอบนะคะ แต่ตอนนี้สำหรับเพลงฮิต คนเชื่อว่าเป็นเพลงสนุกไปแล้ว ทำได้แต่อาจจะไม่ใช่เพลงที่ดัง อาจจะเหมาะกับช่วงเวลาที่อยากทำ แต่ถ้าเป็นเพลงหญิงลี ขอเป็นเพลงสนุกไปแล้ว อย่างอัลบั้มแรกก็เคยมีทำเพลง “แทงข้างหลัง” ที่แต่งเองค่ะ
เพลง 2 เพลงเป็นของกินทั้งสองเพลงเลย คิดว่าเพลงของ หญิงลี เป็นเหมือนอาหารไหน ?
หญิงลี : ถ้าตัวหญิงลีต้องเป็นต้มยำกุ้ง มันแซ่บ มันนัว ขิงข่าตะไคร้แซ่บซี๊ด เติมน้ำตาลน้ำปลาให้มันนัวๆ ลาบก้อยรสจัดใส่กระเทียม เป็นจี๊ดจ๊าดไปเลยค่ะ
เวลาไปแสดงคอนเสิร์ต หญิงลีมีแนวคิดอย่างไร ?
หญิงลี : เราจะมีมวลชนเป็นคำถาม เขานั่งรถมา มารอเรา เขาไม่ได้เข้าห้องน้ำ นั่งเบียดกัน เขาคาดหวังอะไร นั่นคือคำตอบ คือการตอบแทนที่เขารักเรา เราจะฮึกเหิมเป็นนางพญา ฉันคือนางพญาที่คาดหวัง เราต้องปั้นตัวเองบนเวที เสียงการพูดจา คำพูดให้สนุก ไม่กระทบใคร ขอบคุณทุกคนและถ่ายรูปกับทุกคนที่เราถ่ายได้ค่ะ
ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่หญิงลีโดนดึงเกือบตกเวที เรารับมือเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างไร?
หญิงลี : ส่วนเหตุการณ์หน้าเวที ก็มีตกใจ แต่ไม่โกรธเพราเขาเมา และเขาก็เสียใจ คือเขาพยายามจะจับมือ จับแรงไป แล้วเราก็กระชากเหมือนกัน ก็จะพยายามพูดทุกหน้าเวทีขอความกรุณาอย่าดึงนะคะ หญิงตัวเล็กเดี๋ยวหญิงตกเวที จับมือกันได้เราเป็นแฟนกัน ก็ให้เขาไม่รุนแรงกับเรา เพราะงานของหญิงส่วนใหญ่ก็เป็นงานปาร์ตี้ค่ะ
แล้วหน้าเวทีหญิงลีได้ของฝากแบบไหนเยอะสุด ?
หญิงลี : มีทุกอย่าง มีพริกแห้ง ปลาส้ม ข้าวหลามที่เรากินสดๆ หน้าเวที แต่ไม่เยอะแบบคุณก้อง ห้วยไร่ ที่มาเป็นต้นส้ม มันก็ตลกดีค่ะ ไปดูก้องห้วยไร่ บางทีก็จะดูว่าก้องจะได้อะไร แต่ส่วนมากของหญิงแฟนคลับจะคาดหวังให้เราใส่ชุดแบบในมิวสิควิดีโอ คนอาจจะดู 3-5 เพลงแล้วกลับ เพราะอยากดูเพลงเด้งแรง “หญิงลั้ลลา”, “รอสายคนโสด”, “ขาขาวสาวลำซิ่ง” ก็จัดเต็มตามความคาดหวังคนดูไปก่อน ส่วนของฝากก็แล้วแต่งาน ก็ได้ข้าวหลาม แหนมปลาส้ม ก็กินกันสดๆ ค่ะ
แล้วแฟนคลับของหญิงลีส่วนมากเป็นคนแบบไหน คาแรคเตอร์แบบไหน ได้ของฝากแบบไหนเยอะสุด ?
หญิงลี : เดี๋ยวนี้แฟนคลับลูกเล็กเด็กแดงก็อ้อนแม่มาดู คาปูชิโน่ บางวันหญิงไปตลาดสด ซื้อของกินเสื้อผ้าหลักร้อย เราสบายใจ เพราะก่อนดังเราอยู่ตลาดนัด ตอนนี้เราก็ยังเดิน พอมางานร้องเพลง พ่อแม่พาเด็กมา หนุ่มสาวโรงงาน มันก็อบอุ่นใกล้ชิดเขาดี ล่าสุดไปเดินตลาดก็มีเด็กร้อง ‘แม่ๆ เอสเปรสโซ่มา พาไปถ่ายรูปกับเอสเปรสโซ่หน่อย’ เด็กอนุบาลเขาก็มาเต้นน่ารักมากๆ เรารู้สึกดีใจที่ได้เป็นไอดอลเด็กน้อย ก็เลยเป็นที่มาของเพลง “อ้อนแม่กินกุ้งแช่” ค่ะ
หญิงลีเป็นคนที่ร่วมงานกับศิลปินต่างแนวเยอะมากๆ ตั้งแต่อัลบั้มแรก นอกจากเพลงลูกทุ่งแล้วพี่ฟังผลงานเพลงแนวไหนบ้าง มีใครเป็นศิลปินที่ชอบไหม ?
หญิงลี : เสียดายเพลง “สายบันเทิง” ที่ทำกับพี่โอ๊ต ปราโมทย์ ที่ทำกับพี่โอ๊ตปราโมทย์ เพราะโควิด-19 ตอนนั้นทำเพลงมา 10 เพลงดีมาก ห้ามเที่ยว ห้ามกิน ห้ามปาร์ตี้ ก็เศร้าเลยค่ะ ไม่กล้าบันเทิงเลย ร้องไห้ตามเขา ส่วนตัวชอบเพลงสากล ชอบดนตรี ทำนอง แต่ฟังไม่รู้เรื่องหญิงเลยชอบ เพราะหญิงชอบผ่อนคลาย ชอบนอนฟังเพลินๆ ไม่ต้องคิดตาม เพราะเราไม่รู้เนื้อเรื่อง เราฟังแค่ดนตรี เพลงที่ชอบจะเป็นเพลงแจ๊ส และเพลง “Take Me to Your Heart” (Michael Learns to Rock), “My Love” (Westlife) และ “Hotel California” (Eagles) หรือ “Sexy Girl” (DJ Snake), “Dhoom Dhoom” ของพี่ ทาทา ยัง จังหวะมันดี และเพลง “No Coke” ที่หลายคนเรียกแร็ปแขก หญิงก็ได้ไอเดียเพลง “คาเฟอีน” มาจากเพลงนี้ แบบจังหวะยุค 80 ส่วนการร่วมงานอยากทำกับพี่ โจ๊ก So Cool (กรภพ จันทร์เจริญ) อยากทำเพลงสนุกๆ ก็จะให้ค่ายลองจีบมาดูค่ะ
การเล่นโซเชียลของหญิงลีแอคทีฟมาก เราได้เรียนรู้อะไรจากการใช้โซเชียล ?
หญิงลี : บางวันนึกได้ก็ไลฟ์ บางวันก็ตั้งหลัก บางทีตั้งหลักมากๆคนก็เข้ามาดูไม่เยอะเท่าไหร่ แต่บางทีอยู่สระน้ำอยากไลฟ์ง่ายๆ ก็มีคนเข้าดูเยอะค่ะ ถ้าเป็นความรู้ก็จะเป็นเรื่องช่วงเวลา เรื่องคอนเทนต์ ถ้าโพสต์รูปก็จะไลก์เยอะ ส่วนวิดีโอไม่ต้องยาวมาก แต่ถ้าไลฟ์ก็จะเริ่มพูดเลย เพราะเรารู้คนจะมาดูย้อนหลัง สมมุติพี่ดูย้อนหลังก็จะดูไลฟ์แรกก่อน ดูการพูดว่าเรื่องอะไร น่าสนใจไหม ก็จะไม่นาน 3-5 นาที หรือ 10 นาที คนจะดูไม่เกินนี้ บางทีดู 2 คนเราก็พูดแล้วค่ะ
ตอนนี้หญิงลีก็มีบทบาทนักแสดง นักธุรกิจด้วย ถ้าเทียบกับบทบาทศิลปินมันยากง่ายอย่างไร ?
หญิงลี : การเป็นศิลปินคือความรัก พระเจ้าให้พรสวรรค์มา ฟังเสียงก็จะรู้ว่าเป็นหญิงลี ถ้าไม่รู้ก็ไม่เป็นไร แต่ส่วนใหญ่จะจำได้เพราะมีลูกสะบัด และเป็นคนพูดชัด เป็นคนเต้นสะบัด ส่วนการทำธุรกิจก็เหมือนเราถูกขีดให้สร้างประโยชน์ให้บ้านเกิด หญิงลีมีเงินเท่าไหร่ก็ลงหมด แต่โชคดีไม่มีหนี้สิน มีลูกค้ามาน้อยก็ไม่เป็นไร วันที่มามากก็ดี ถือว่าสำรองวันที่มาน้อย และนักแสดงก็เคยได้เล่น ก็เครียดและยากเพราะทำงานหมู่มวล ต้องมีซีนร้องไห้ ต้องเถียงกับเขาให้ได้ และต้องจำบทจินตนาการว่าฉันเป็นคนคนนั้น เถียงแม่ก็ต้องคิดว่าเขาเป็นแม่จริงๆ เถียงพ่อ รักพ่อ ต้องคิดว่าโกรธกับเขาจริงๆ อย่างโกรธพี่ต่าย อรทัยอย่างงี้ ตอนแรกกดดันกลัวคนเกลียด แต่ดีใจที่คนเข้าใจค่ะ อย่างทุกวันนี้หญิงอยู่สระน้ำก็ทำตัวเองเป็นแม่ เพราะตัวเองไม่มีลูก (หัวเราะ) เป็นคนชอบเด็ก แฟนๆ จะรู้ว่าเราเป็นแบบนี้ ละครเป็นแบบนั้น ตอนนี้หญิงลีก็มีความมุ่งมั่นอยากเป็นดีเจ ก็โชคดีที่อาจารย์ หมาน หนองคายมิวสิค ที่มาให้ความรู้ ให้เพลงเป็นหมื่นๆ และหญิงก็แอคและแทรกคำพูดได้ เฟดเพลงลงแล้วก็พูด ซึ่งหญิงบางทีเสียงแหบก็เล่นไม่ได้ บางทีอุปกรณ์รุงรังก็ถือไปไหนไม่ได้ ก็อยากมีความพร้อมในการเล่นดีเจ
และสุดท้ายนี้หญิงลี อยากถูกจดจำอย่างไรในฐานะศิลปิน ?
หญิงลี : หญิงอยากให้จดจำในฐานะตำนานเพลงสร้างความสุข เจ้าแม่เพลงสนุกค่ะ จะเป็นเพลงบ๊องแบ๊ว เต้นก็ได้ หญิงได้สร้างความคุณงามความดีให้ประเทศชาติ สร้างเสียงหัวเราะ ถึงแม้วันหน้าหญิงจะหมดกระแสก็ไม่เป็นไร เพราะหญิงได้ทำไว้แล้ว เหมือนที่นักกีฬาทีมชาติได้ดึงเหรียญทอง เราไม่ได้เหรียญทองทุกปี แต่เราได้ครั้งหนึ่งก็ดีแล้ว เราสร้างความสุขได้หลายบทเพลง ต่อไปก็เป็น “อ้อนแม่กินกุ้งแช่” ที่จะสร้างความสนุกให้คนทั่วประเทศเมื่อสงกรานต์ 2566 หลังสงกรานต์คนจะเต้นเพลงนี้
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ