สัมภาษณ์ The White Hair Cut ถึงปีที่เติบโตครั้งใหญ่แบบไม่ควรมองข้าม
ช่วงปีที่ผ่านมา ค่าย genie records ได้ระเบิดไลน์อัพศิลปินรุ่นใหม่แบบแน่นๆ ซึ่งในบรรดาศิลปินที่มีผลงาน หนึ่งในคนที่มีการเติบโตน่าจับตาคือ ฮิว-พัชรพล วงศาโรจน์ หรือ The White Hair Cut ศิลปินอายุน้อยเป็นแต่วันแมนแบนด์ที่น่าจับตาและอยู่ในวงการอินดี้มาหลายปีตั้งแต่ตอนเขาอยู่ชั้นมัธยมและเป็นเด็กหัวเกรียน ซึ่งเป็นที่มาชื่อวง และหลังจากนั้นมีหลายคนรู้จักเขาผ่านเพลง “คนคนนึง” เมื่อปี 2019 และปีที่แล้วเขาก็มากับเพลง “เผื่อว่าจะพบเธอสักวัน” ที่ทะลุหลัก 10 ล้านวิวและอีกหลายเพลงที่ทะลุล้านซึ่งการันตีความเข้าใกล้ความแมสของเขาได้เป็นอย่างดี
และในปีนี้หลังมีเพลงช้าให้ฟังต่อเนื่อง ปีนี้ The White Hair Cut ได้มากับเพลง “นักรอ” ที่มีสีสันใหม่ๆ จังหวะเร็วขึ้น และจากการพูดคุยก็ทำให้พบว่าปีนี้ The White Hair Cut ไม่ได้เติบโตแค่ซาวด์ แต่จะเติบโตผ่านโชว์และงานแสดงที่มีมากขึ้น ประสบการณ์ในบ้านที่มีรุ่นพี่ตัวท็อปของวงการและ EP อัลบั้มชุดแรก
เพลง “นักรอ” มีที่มาอย่างไรเพราะ ถือเป็นกลิ่นสีใหม่ของ The White Hair Cut เลย ?
The White Hair Cut : เริ่มมาจากการที่เราทำเพลงช้าเยอะแล้ว และที่ผ่านมาได้ออกไปเล่นและรู้สึกว่าบางเพลงเร็วที่เราเอาออกมาเล่นก็สดชื่น พี่ๆ แบ็คอัพเล่นก็สดชื่น ก็เลยอยากทำเพลงเร็วที่กระฉับกระเฉงหน่อย แล้วก็หาชื่อเพลง ช่วงหลังๆ ก็แบบตั้งชื่อเพลงและโปรเจกต์ไว้ก่อน ก็ได้เพลง “นักรอ” เพลงก่อนๆ ของผมจะเป็นคนรออยู่แล้ว ก็เลยตั้งชื่อแบบประชดๆ นิดๆ เอามาตั้งชื่อเพลงและขยายความต่อ
มันยากไหมกับการเอาซาวด์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา มาใส่กับเพลงที่จังหวะเร็วขึ้น ?
The White Hair Cut : มันมีบางส่วนที่ใหม่ จริงๆ เราเคยมีเพลงเร็วแหละครับ แต่มันก็มีการเอาเพลงที่เราเคยทำมาวิเคราะห์ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เอาสิงที่ชอบมาใส่ อย่างซาวด์กีตาร์ที่เราเคยเล่นในเพลงเก่าๆ และเป็นเรา เรารู้สึกว่าเล่นสนุกก็เอามาใส่
นอกจากตัวเพลงแล้ว คอสตูม เอ็มวี ก็ต้องเปลี่ยนไป เรามีส่วนร่วมพาร์ทนี้อย่างไร ?
The White Hair Cut : ก็เอ็มวี พอได้ส่งเพลงให้ค่ายก็บอกไปว่าขอเอ็มวีกวนๆ นิดนึง เพลงก็มีความกวน ในพาร์ทดนตรีก็มีความกวนอย่างตอนอยู่ดีๆ ก็หยุด เพลงก็มีประชดประชัน ฟังแล้วก็นึกถึงแบบภาพยนตร์ Wes Anderson แบบสีพาสเทล นักแสดงหน้าเดดๆ นิ่งๆ สถานการณ์เกินจริง แบบการ์ตูนๆ
พอเป็นเพลงที่ออกจากภาพจำเดิมๆ เรากังวลกระแสตอบรับไหม ?
The White Hair Cut : ไม่ค่อยกังวลเพราะ เพราะไม่ว่าฟีดแบคจะเหมือนเพลง “คนคนหนึ่ง” หรือไม่ เราก็จะเอาเพลงนี้มาเล่นสดได้เหมือนกัน เป็นฟังค์ชั่นในการเล่นสด
ตอนนี้ The White Hair Cut ก็งานโชว์มากขึ้น เราเตรียมตัวอย่างไร ?
The White Hair Cut : เหมือนจะคิดโชว์ให้เหมือนวงที่เราอยากดู ประติดประต่อให้เพลงต่อกัน เหมือนทำให้เป็นฉากๆ เชื่อมต่อ ผมจะเน้น Interlude แบบพูดต่อเพลง เวลาเล่นสดจะวุ่นๆ ผมก็จะทำซาวด์แอมเบียนต์ก่อนเข้าเพลง แทนการหยุดแล้วเดดแอร์ ก็มีความประทับใจก็มีตอนที่ไปเล่นเพลง “เผื่อว่าจะพบเธอสักวัน” เริ่มมีคนร้องตาม จะมีท่อนที่ฮุคสุดท้ายที่หยุด เป็นการดีไซน์เครื่องดนตรีให้คนร้อง คนก็ร้องได้
เพลง “นักรอ” จะมีเรื่องราวเอ็มวีในโซเชียล เรามีมุมมองเกี่ยวกับการเล่นโซเชียลอย่างไร ?
The White Hair Cut : มันทำให้คนรู้จักกันง่ายและเร็ว ความเร็วก็มีข้อเสียคือเจอกันเร็วก็อาจจะจากกันเร็ว แต่โลกความจริงเราอาจมีเวลาซึมซับและมีโอกาสถาวรได้มากกว่า
The White Hair Cut ตั้งใจอยากมาอยู่ genie records ตั้งแต่เริ่มทำเพลง อะไรคือสิ่งที่ทำให้อยากมาอยู่ที่นี่?
The White Hair Cut : เป็นเหตุผลด้านอารมณ์ครับ ก็คือรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เราเห็นตั้งแต่เด็ก ก็คิดว่าถ้าเรามาอยู่บ้างคนน่าสนใจดี และพอเราได้เข้ามาก็ตื่นเต้น พอเข้ามันก็เติมเต็ม เหมือนสุดท้ายแล้วเรายังต้องทำงาน คือเราทำเองแล้วได้ผลงานไปอยู่ข้างคนฟัง สุดท้ายจุดสำคัญคือคนฟัง
The White Hair Cut เป็นกลิ่นใหม่ใน genie records เราสนิทกับใครในค่ายบ้าง ?
The White Hair Cut : ถ้ารุ่นเดียวกันก็เป็น Fool Step ได้พูดคุยกันบ้าง ส่วนเรื่องการทำงานในอนาคตก็ยังไม่แน่ใจ ตอนนี้ก็ฟีทกับตัวเอง (หัวเราะ) ส่วนพี่ อ๊อฟ Big Ass (พูนศักดิ์ จตุระบุล) เรื่องเพลงต่างๆ เทคนิคการโปรดิวซ์เพลง บางเพลงมาสเตอร์แล้ว ส่งไปให้พี่อ๊อฟ ตอนนั้นส่งไปแล้วมีความหนักไม่เท่ากัน เพลงนี้ดังกว่า เพลงนี้เบากว่า แล้วเขาก็ฟังออกก็ส่งไปให้ตัดให้เท่ากัน กลืนกัน อย่างบางเพลงเส้นร้องจมไป บางท่อนจมไป ก็สอนให้เราลงรายละเอียดกับผลงาน คือบางทีเราจมกับผลงานตัวเอง ว่ายน้ำคนเดียวอาจจะชินกับสิ่งที่ฟัง ก็มีพี่อ๊อฟมาช่วยก็พอเจออะไรส่งให้พี่ Mixing Engineer ช่วยแก้ครับ
ปี 2023 เราจะได้เห็นอะไรจาก The White Hair Cut ?
The White Hair Cut : ปีนี้ก็จะได้เห็นอัลบั้ม EP อัลบั้ม คือจริงๆ พอเหมือนอัลบั้มออกแล้ว หลายคนจะมองเป็นมัดรวมซิงเกิล แต่จริงๆ มันไม่ใช่ เพราะทุกเพลงมันเหมือนผ่านการวางตัวหัวข้อมา มาจากแนวความคิดเดียวกัน
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ