คุยกับ "ส้ม มารี" ถึงเพลงจากตัวตนสายมู และชีวิตหลังผ่านหมุดหมายที่หลายศิลปินใฝ่ฝัน
ในบรรดาศิลปินไทย ส้ม-มารี เออเจนี เลอเลย์ ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นตัวอย่างว่าความพยายามจะทำให้ความฝันเป็นจริงในเวลาเหมาะสม โดยหลังจากที่ทำงานหนักมาเกือบ 10 ปี ในปี 2020 เป็นต้นมา เธอได้ค่อยๆ ถึงเป้าหมายที่หลายศิลปินใฝ่ฝัน ไม่ว่าจะเป็นการเพลงร้อยล้านวิวอย่าง “รางวัลปลอบใจ” และมีเพลง “หรือฉันคิดไปเอง” ที่ติดอันดับ TOP10 ยอดฟังของ JOOX ในปี 2020 และในขณะเดียวกันฐานแฟนและจำนวนผลงานก็มากพอจัดคอนเสิร์ต Zommarie La Lune Concert ในที่สุด
และหลังจากที่คอมพลีตความสำเร็จที่กล่าวมา ส้ม มารี ก็ได้ย้ายเข้าสู่ High Cloud Entertainment และมีเพลงใหม่ “ดวงสุขเข้า ดวงเขาแทรก” ที่มากับสีสันใหม่ๆ ทางดนตรี ที่ทำให้เราอยากพูดคุยกับเธอถึงเรื่องราวเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และการก้าวต่อหลังผ่านหมุดหมายที่หลายศิลปินฝัน
ส้มมาอยู่ High Cloud Entertainment ได้อย่างไร
ส้ม มารี : เริ่มต้นกับการแยกย้ายกับต้นสังกัดเก่า และตอนแรกว่าจะทำเอง แต่พี่กอล์ฟก็โทรถามว่ามาอยู่ด้วยกันไหม ก็เลยได้พูดคุยและรู้สึกว่าเส้นทางที่เราจะไป มันเป็นทางที่ High Cloud จะไป ก็เลยมาลองเดินด้วยกันดู และจะได้ลองทำอะไรกับใครใหม่ๆ ด้วย พยายามหาอะไรใหม่ทำค่ะ
การทำงานเปลี่ยนไปไหม เพราะเปิดมาเพลงแรกก็มีกลิ่นใหม่ๆ เยอะมาก
ส้ม มารี : อันนี้ความตั้งใจของเรา เราตั้งใจทำอะไรใหม่ๆ ซาวด์ใหม่ๆ ออกจากคอมฟอร์ตโซน ไม่ว่าจะอยู่ที่เก่าที่ใหม่เราก็จะทำ ก็ตั้งใจทำให้สนุกขึ้น แต่พอมาอยู่ใต้ High Cloud มันก็ได้สนุกขึ้นภายนอก ภายในค่ะ
เพลง “ดวงสุขเข้า ดวงเขาแทรก” มีที่มาอย่างไร
ส้ม มารี : ด้วยความที่เราเป็นคนสายมูค่ะ แล้วก็อยากให้เพลงสนุกขึ้น เราก็หาคอนเซ็ปต์ เราก็อยากคงเรื่องรักไม่สมหวัง ก็ลองดูว่าเพลงสนุกแต่ไม่สมหวังจะไปทางไหนได้บ้าง ก็นึกถึงความน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา ก็ทำเพลงเกี่ยวกับดวง ก็มีการคุยกับพี่ ปู๋ วง HENS (ปิยวัฒน์ มีเครือ) และ ฮาย Paper Planes (ธันวา เกตสุวรรณ) ว่าใช้คำอะไรได้บ้าง ก็ได้ “พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก” ฮายก็บอกว่า “ดวงสุขเข้า ดวงเขาแทรก” ไง แบบดวงเราดี แต่ดวงเขาดีกว่า และคุณฮายก็ทิ้งชื่อเพลงไว้ และไปโด่งดังเลี้ยงเด็กอยู่ (หัวเราะ) ก็เอาชื่อเพลงมาทำต่อ แต่งกับพี่ปู๋ จบเพลงด้วยกัน ทีนี้มีประโยคที่เราอยากใส่ในเพลง “I Told พระแม่ ลักษมี About You” คือขั้นสุดแล้วการขอความรัก ต้องบอกสเป็คว่าอยากได้แบบนี้ ก็คิดว่าวิธีเดียวที่ทำได้คือท่อนแร็ป และอยู่กับพี่กอล์ฟก็ให้พี่กอล์ฟแต่งให้หน่อย แบบใช้คำนี้ที่เหลือเป็นอะไรก็ได้ ก็ได้เป็นท่อนแร็ปที่หลายคนน่ารักมากๆ ก็ได้ เบน LUSS (ศิรสิทธิ์ ตั้งบุญดวงจิตต์) มาโปรดิวซ์ค่ะ
ชาวสมร แฟนคลับของส้มมีฟีดแบคกับมุมมองใหม่ๆ เราอย่างไร
ส้ม มารี : ชาวสมรก็เซอร์ไพรส์เพราะเราทำเพลงเศร้าๆ ตลอด แต่เราอยากเซอร์ไพรส์ สมรเขาก็บอกเพลงน่ารักนะ ชาวสมรเป็นสายมู ศิลปินกับแฟนคลับก็จะคล้ายกัน เจอหน้าก็จะขอเลขหน่อยตลอด และแซวทุกวันหวยออกว่าถูกไม่ถูก แฟนคลับค่อนข้างเด็กกว่าเรา และเป็นพี่ส้มของน้องๆ ก็มีบ้างที่อายุมากกว่าค่ะ
ส้มเป็นคนที่ลุยงานในวงการมาเป็น 10 ปี แต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาถึงมีเพลงฮิต และมีคอนเสิร์ตใหญ่ เรารู้สึกอย่างไรกับทุกสิ่งที่มาอย่างรวดเร็ว
ส้ม มารี : รู้สึกดีใจค่ะ เพราะเรารอมันมาเสมอ เรารอที่จะพบผู้คนมากมาย ได้ขึ้นเวทีมากมาย ทำสิ่งที่รักต่อเนื่อง มันจะเกิดไม่ได้ถ้าไม่มีคนสนับสนุน หรือแบรนด์ที่จ้าง ก็ดีใจมากๆ เป็นฝันตั้งแต่เราเริ่มทำงานตอน 16 เป็นฝัน 20 ปี เพราะเราฝันอยากเป็นนักร้องตั้งแต่เด็กน้อย ก็หวังว่าการทำงานต่อไปจะเจอความตื่นเต้นและสิ่งใหม่ๆ เพราะเรายังมีความสุขในการทำเพลงและเจอแฟนๆ หวังว่าความรู้สึกนี้จะอยู่ไปนานค่ะ
แล้วช่วงที่มันไม่ถึงเป้าหมาย เราทำอย่างไร
ส้ม มารี : ท้อแท้ ท้อเป็นลิงถือลูกท้อเลยค่ะ (หัวเราะ) แต่เราต้องสู้ต่อไป มันใช้คำว่า ถ้าไม่เลิก เราต้องทำไปเรื่อยๆ ค่ะ
ระหว่างเพลงร้อยล้านวิวและคอนเสิร์ตใหญ่ เราตื่นเต้นอะไรมากกว่ากัน
ส้ม มารี : คอนเสิร์ตใหญ่ค่ะ ร้อยล้านวิวเป็นสิ่งที่สะสมมาเรื่อยๆ แบบเราเห็นว่ามันจะถึงนะ มันเป็นความสำเร็จในฐานะนักร้องที่เรามีเพลงร้อยล้านวิว ส่วนคอนเสิร์ตใหญ่มันต้องเตรียมตัว และเราไม่เคยมีอะ ไม่เคยมีมาก่อน แต่ตอนเราแสดงมัน Magical (มหัศจรรย์) มากๆ ตอนซ้อมคือเหนื่อย ร้องไห้ กลัวทำไม่ได้ มันกดดัน วันรันทรูยังทำไม่ได้ แบบพรุ่งนี้จะรอดไหม แต่วันจริงมันมหัศจรรย์มาก พลังที่คนดูส่งมาคือเราไม่เหนื่อยเลย ตอนลงเวทีและอ้อมเข้าห้องพักยังคิดว่าอีก 2 ชั่วโมงยังไหว และคือเราไม่รู้ว่าเราเล่นไปกี่ชั่วโมงแล้ว ก็ถามทีมงานเราเล่นไปกี่ชั่วโมง ก็รู้ว่าเราเล่นไป 3 - 4 ชั่วโมง ก็ตกใจมากค่ะ เพราะไม่เหนื่อยเลย
ช่วงนี้ส้ม มารี ออกไปเล่นคอนเสิร์ตเยอะมาก เราเตรียมตัวอย่างไรมีเหตุการณ์ที่ทำให้เสียความรู้สึกบ้างไหม
ส้ม มารี : เราไม่ค่อยเจอคนไม่น่ารัก อาจจะไม่ใช่แฟนเพลงของเรา ก็มีไปเล่นร้านแล้วเจอคนเมา ส่วนใหญ่ที่เจอก็จะไม่ร้ายแรง ก็ใช้ความเข้าใจซึ่งกันและกัน ส่วนการเตรียมตัวช่วงว่างจะเงียบ เซฟแบต เราเป็นคนพูดมากเวลาทำงาน ตอนไม่ทำงานจะนิ่งๆ เงียบๆ เวลาโชว์เราจะโชว์ติดๆ กัน จนโชว์มันอยู่ตัว มันจะเป็นการรับสถานการณ์เฉพาะหน้า คนแตกต่างกัน ต้องสังเกตว่าคนที่นี่เป็นแบบไหน คนที่นี่กล้า หรือขี้อาย จะไม่ใช่เรื่องที่เตรียมมาก่อน จะเป็นรับสถานการณ์ ส่วนโชว์ที่ผ่านมาจะซ้อมมาแน่นอยู่ตัว แต่ก็จะมีการเปลี่ยนโชว์และเพลงใหม่ และองค์ประกอบใหม่ๆ ในเร็วๆ นี้
เราตั้งเป้าหมายอะไรไว้ในอนาคต หลังมีเพลงดัง และคอนเสิร์ตใหญ่แล้ว
ส้ม มารี : ถ้าขยายตลาดได้ก็คงจะดี ช่วง 2-3 ปีมีโควิด-19 เราก็ไม่ได้ไปนอก แต่ระหว่างนั้นเราก็มีทำเพลงสากลไปด้วย ก็หวังว่าเมื่อสถานการณ์ปกติ ก็อยากมีโชว์เมืองนอก เพราะที่เราไลฟ์ก็มีแฟนอินโดนิเซีย กัมพูชา ไต้หวัน บอกว่ามาจากที่นู่นนี่ทักเข้ามา เราก็อยากไปเจอเขาตัวเป็นๆ อยากรู้ว่าเอเนอร์จี้เป็นยังไง ก็คอนเสิร์ตใหญ่อันแรกมันอาจไม่ใหญ่มาก มันใหญ่สำหรับเรา คือเราจับสเกลนี้ได้แล้ว ก็อยากไปสเกลที่ใหญ่ขึ้น แต่ขอโฟกัสที่อัลบั้มนี้ก่อนอย่างเพลง “ดวงสุขเข้า ดวงเขาแทรก” มันเป็นเพลงสนุกๆ ที่เอาสีสันซนๆ ออกมา คือ 5-7 ปีที่ผ่านมามีแต่เพลงเศร้าค่ะ
Photo : Ditsapong K.
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ