เปิดตัวตน “เจ้าขุน” ถึงมุมอ่อนแอ สิ่งที่คนเข้าใจผิด และ เหตุผลที่เปลี่ยนแนวทุกซิงเกิล | Sanook Music

เปิดตัวตน “เจ้าขุน” ถึงมุมอ่อนแอ สิ่งที่คนเข้าใจผิด และ เหตุผลที่เปลี่ยนแนวทุกซิงเกิล

เปิดตัวตน “เจ้าขุน” ถึงมุมอ่อนแอ สิ่งที่คนเข้าใจผิด และ เหตุผลที่เปลี่ยนแนวทุกซิงเกิล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ท่ามกลางศิลปินรุ่นใหม่ที่เติบโตในวงการ เจ้าขุน-จักรภัทร วรรธนะสิน ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่มีเรื่องราวน่าสนใจ เพราะในขณะที่เขามีต้นทุนในการเริ่มต้นเส้นทางศิลปิน แต่การทำงานของเขานั้นกลับไม่ง่าย เพราะนอกจากสปอร์ตไลท์ที่ส่องตัวเขามาตั้งแต่เกิด จนนำพามาซึ่งความกดดันและคำวิจารณ์แรงๆ ที่เขาต้องเจอ เขายังต้องรักษาบาลานซ์ระหว่างการทำงานและการเรียนที่ประเทศอังกฤษ ห่างไกลจากทีมงานที่เขาร่วมงานทำงาน ซึ่งถือเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยสำหรับใครก็ตาม 

และในโอกาศที่เขากลับมาพร้อมเพลง “ถ้าเธออยากไปทะเลฉันพร้อม…Talayซิงเกิลที่ 3 ที่เขาตั้งใจทำและมีความแตกต่างจาก 2 เพลงก่อนหน้านี้ ทาง Sanook ได้คว้าตัวเขามาพูดคุยในฐานะ Artist of the Month ถึงการทำงานที่ผ่านมาที่เขาทดลองแนวทางใหม่ๆ พบเจออุปสรรคมากมาย รวมถึงเป้าหมายอันใกล้ที่อาจเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับเจ้าขุนแล้ว มันคือเรื่องใหญ่ที่อาจจะทำให้เขาเสียน้ำตาถ้ามันเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา 

อะไรคือสิ่งที่ทำให้เจ้าขุนรู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้วกับการทำเพลงตอนปี 2019 

เจ้าขุน : เมื่อตอนออกซิงเกิลแรก ขุนอายุประมาณ 15-16 ถ้าถามว่าพร้อมไหม จริงๆ ขุนก็ไม่แน่ใจนะ ว่าพร้อมแล้วรึเปล่า ตอนนั้นขุนแค่รู้สึกว่าเรามีดนตรีอยู่รอบตัวมาตลอดชีวิต พอถึงจุดนึงก็มีความรู้สึกว่าเราก็อยากทำบ้าง อยากมีเพลงเป็นของตัวเอง จริงๆ ด้วยวัยตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดอะไรมากมาย แอบมีความรู้สึกว่าอยากเอาไปอวดเพื่อนที่อังกฤษด้วยครับ (หัวเราะ) แต่ถ้าว่าตั้งใจไหม ขุนตั้งใจนะเต็มที่ด้วย แต่อาจจะไม่ได้คิดอะไรที่มันไกลมาก ไม่ได้คิดถึงฟีดแบก หรือกระแสอะไรเท่าไหร่ ก็คือพออยากทำ ก็ลงมือทำเลยครับ

ที่ผ่านมา เจ้าขุน มี 3 ซิงเกิล ปี 2019 เรามากับเพลง “อย่าเพิ่งคิดไปไกล” ที่เป็นอาร์แอนด์บีป็อป หลังจากนั้นก็ 2021 มากับเพลง “มะรืน” ที่เป็นป็อปพังก์ และตามด้วย “ถ้าเธออยากไปทะเลฉันพร้อม…Talay” ที่เป็นฟีลอินดี้ป็อป อยากรู้ว่าอะไรคือแนวคิดที่อยู่เบื้องหลังการนำเสนอแต่ละเพลง 

เจ้าขุน : สำหรับแต่ละซิงเกิลที่ออกมา แนวมันต่างกันแทบทุกเพลงเลย (หัวเราะ) ซึ่งขุนเองก็ไม่ได้มีผลงานถี่ หรือออกมาอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องไปเรียนที่อังกฤษด้วย เลยทำให้การทำเพลงไม่ต่อเนื่อง ซึ่งความต่างของแนวเพลงในแต่ละซิงเกิล ขุนคิดว่ามันเป็นเหมือนกราฟชีวิต กราฟอารมณ์ความรู้สึกในแต่ละวัยของขุนด้วยนะ เวลาผมทำงานผมใช้อารมณ์เยอะมาก และมันก็ช่วงอายุที่ต่างกันด้วยครับ วัยนั้นรู้สึกอะไร มีสิ่งเร้าอะไร ชอบอะไร กำลังอินกับอะไร มันก็สะท้อนออกมาผ่านเพลงในช่วงนั้นๆ ของขุนครับ และอาจจะเป็นช่วงที่ขุนเพิ่งเริ่มต้นหาแนวทางของตัวเองด้วย ก็เลยเปลี่ยนแนวเพลงไปเรื่อยๆ เพื่อหาสิ่งที่ใช้สำหรับตัวเองมากที่สุด

ทุกเพลงของเจ้าขุน เจ้าขุนจะมีเครดิตการเขียนเสมอ อยากรู้ว่าเรามองว่าการแต่งเพลงเอง มีความท้าทายจุดไหนบ้าง เราเรียนรู้อะไรจากรุ่นพี่ที่ร่วมงาน 

เจ้าขุน : ขุนคิดว่าการที่เราจะอินกับเพลงเพลงนึงได้ เราต้องมีอารมณ์ร่วม หรือมีส่วนใดส่วนหนึ่งที่เป็นตัวเรา ในส่วนของการแต่งเพลงเอง ขุนก็ไม่ได้เก่งอะไรขนาดที่จะจับปากกาเขียนเพลงได้เหมือนพี่ๆ คนอื่นๆ แต่ขุนแค่ยึดว่าเราทำเพลงของเรา เราก็อยากมีโมเมนต์ใดโมเมนต์หนึ่งที่ขอแชร์ออกไปให้ถึงคนฟังด้วย ซึ่งอย่างที่ขุนบอกว่าขุนคือจูเนียร์มากๆ สำหรับตรงนี้ การที่มีรุ่นพี่เข้ามาช่วยคือทำให้เรามองแนวทางได้ชัดขึ้น รู้ว่าไดเร็คชั่น เราต้องไปทางไหนยังไง ขุนขอคำแนะนำจากพี่ๆ เยอะมากๆ เช่น การหาคำที่ลงตัว หาเมโลดี้ที่เข้ากันได้แล้วไพเราะ ถ้าคิดไม่ออกต้องทำยังไง เพราะขุนเองก็ไม่ได้แข็งแรงเรื่องภาษาไทยเท่าไหร่ (หัวเราะ) ขุนเป็นคนที่มีอะไรในหัวเยอะมากที่อยากจะถ่ายทอดทั้งในพาร์ทดนตรี และพาร์ทเนื้อเพลง คือถ้าไม่ได้พี่ๆ มาช่วยตบให้เข้าที่เข้าทาง น่าจะฟุ้งไปเยอะแน่ๆ ครับ ตรงนี้ต้องขอพื้นที่ของทาง Sanook ในการขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่ช่วยขุนด้วยนะครับ

แล้วเพลง “ถ้าเธออยากไปทะเลฉันพร้อม…Talay” การทำงานเป็นอย่างไร พอเป็นเพลงที่ 3 แล้ว 

เจ้าขุน : สำหรับซิงเกิลนี้ ขุนรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นมาก และคิดว่าตอนนี้เรากลับมาไทยยาวๆแล้ว เราอยากตั้งใจแบบจริงจังในการทำเพลงที่ทุกคนยอมรับ ชอบร้องตามได้ ขุนเลยคุยกับเจ้านาย และมีปรึกษาพ่อว่า เพลงนี้ขุนขอมีส่วนในทุกพาร์ทเองเลยนะ ทั้งในเรื่องแมเนจหลังบ้านต่างๆ และในพาร์ทดนตรีด้วย 

ซึ่งพอเราตั้งโจทย์ให้ตัวเองแบบนี้ ก็ทำให้ขุนรู้เลยว่า การทำเพลงไม่ใช่แค่อยากทำอย่างเดียว แต่มันมีหน้าที่ความรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่าง ที่เราต้องดูแลจัดการ ทั้งตัวเองที่ต้องคิดให้เยอะขึ้น กว้างขึ้น รอบคอบขึ้น สำหรับศิลปินคนอื่นๆ ขุนไม่แน่ใจว่ามันจะยากหรือจะง่าย แต่สำหรับขุนบอกเลยครับว่ายากมากกก (หัวเราะ) ทำให้เพลงนี้แม้จะฟังดูสบายง่ายๆ แต่มันยากกว่าเพลงอื่นเยอะเลย (หัวเราะ) 

ซึ่งเพลง “ถ้าเธออยากไปทะเลฉันพร้อม...Talay” ขุนพยายามสื่อถึงเนื้อหาที่ทุกคนอินได้ง่ายและยังเป็นตัวเรา คือ เราพร้อมยอมทำทุกอย่างเพื่อผู้หญิงคนนึงที่เราชอบ อ่ะอยากไปไหนเราพาไปนะ อยากได้อะไรเราเปย์นะ แล้วคือพอได้แพลนกับพี่ๆ ในทีมว่าเพลงนี้เราจะปล่อยในช่วงซัมเมอร์ ก็หาจุดที่จะเชื่อมโยงกับโอกาสตรงนี้ เลยทำให้เป็นไอเดียว่า หน้าร้อน ก็ต้องทะเลสิ ไปทะเลอยากฟังเพลงแบบไหน มันเลยออกมาเป็นเพลง“ถ้าเธออยากไปทะเลฉันพร้อม...Talay” อย่างที่ทุกคนได้ฟังกันครับ

เจ้าขุนเป็นคนที่ค่อนข้างจะเว้นช่วงแต่ละซิงเกิลพอสมควร การที่เราเว้นช่วงมันมีผลกับการทำงานเราอย่างไรบ้าง 

เจ้าขุน : มีผลพอสมควรเลยครับ อย่างที่บอกไปว่าขุนไม่ได้ตั้งใจให้ระยะมันเว้นช่วงนานขนาดนั้นครั้ง แต่ด้วยความจำเป็นในชีวิตคือขุนต้องไปเรียนที่อังกฤษ ซึ่งพอไปอยู่ที่นู่น แต่ทีมงานทุกอย่างขุนอยู่ที่ไทย มันก็เลยต้องเว้นช่วงไปแบบอัตโนมัติ ซึ่งพอเว้นระยะไปมันยากตรงโมเมนตัม ความต่อเนื่องของฟีลต่างๆ บางอย่างพอเราได้เริ่มเรียนรู้ ปกติมันก็ต้องทำต่อให้เข้าใจจริงๆ แต่พอหยุดไปนานแล้วได้กลับมาทำใหม่ มันก็เหมือนการเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นเลยครับ

เวลาศิลปินเปลี่ยนแนวเพลง มันมักจะมากับแรงต้าน หรือความคาดหวัง เราเจอสิ่งนี้ไหม

เจ้าขุน : เจอตลอดเลยครับ แรกๆ ที่เจอแรงต้าน คอมเมนต์หนักๆ ขุนเซนต์ซิทีฟมากเลย พออ่านเราก็เครียดจนเคยคิดว่าไม่อยากทำแล้ว เราตั้งใจทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ อาจเพราะยังเด็ก ประสบการณ์ไม่มีด้วย เราไม่ได้คิดถึงว่า ทุกอย่างมันมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ คือแค่เห็นคอมเมนต์แย่ๆ ขุนไม่อ่านเลยครับ ปิดคอมเมนต์ก็มี เพราะเราอาจจะไม่แข็งแรงพอที่จะรับมือกับความรู้สึกตรงนี้ แต่พอเราโตขึ้น คิดอะไรได้เยอะขึ้น เราก็คิดว่าเราเอาเวลาที่ซีเรียสกับคนที่ไม่ชอบเรา อันนี้ไม่นับคนที่คอมเมนต์เพื่อให้เราพัฒนานะครับ (ยิ้ม) ตรงนั้นขุนขอบคุณและรับฟังมากๆ ไปทำผลงานเราให้ดี ให้คนที่รอ ให้แฟนคลับ คนที่รักเราไม่ผิดหวังดีกว่า 

ที่ผ่านมาเจ้าขุนอยู่อังกฤษ อยากรู้ว่าเพื่อน และวัฒนธรรมดนตรีมีผลกับการฟังเพลง หรือรสนิยมการฟังเพลงเราอย่างไรบ้าง เพื่อนๆ เราที่นู่นมีฟีดแบคเกี่ยวกับเพลงเราอย่างไรบ้าง

เจ้าขุน : จริงๆ เพื่อนๆ ที่นู่นไม่ค่อยเห็นผมในลุคนักร้องเขาก็ขำกันดีครับ (หัวเราะ) ไม่คิดว่าเราจะเป็น artist เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับความเป็น Artist ของเรามากนัก พอเรามีเพลงก็มาเปิดให้เพื่อนฟัง เขาก็ฟังแล้ว ก็มีว้าวบ้าง ยินดีกับผลงานเราบ้าง แต่จริงๆ เพื่อนๆ ขุนที่นู่นไม่ได้สนใจอะไรมากครับ (หัวเราะ) สำหรับวัฒนธรรมดนตรีของอังกฤษก็ค่อนข้างหลากหลายนะครับ ไม่ได้มีผลมากกับการเลือกฟังเพลงของขุนเท่าไหร่ แต่อาจจะมีผลว่าอาจจะทำให้เราได้เสพย์เพลงของฝั่งเค้ามากขึ้น วัยรุ่นอังกฤษ เอาเท่าที่ขุนได้สัมผัส ตอนนี้ก็เสพย์เพลงคล้ายๆ วัยรุ่นไทย คือฟังเพลงฮิตจาก Tiktok ครับ (หัวเราะ) ตอนอยู่ที่นู่นถ้าขุนกับเพื่อนอยากฟังเพลง ก็ไปหาที่นั่งฟังตามที่ที่มีดนตรีสด หรือเปิดเพลงแนวที่เราชอบครับ ซึ่งมีศิลปินอังกฤษที่ขุนชอบ ชื่อ Central Cee ครับ เป็นแร็ปเปอร์แนว UK Drill ขุนชอบแนวเพลงเขา แต่ก็ยังเป็นเฉพาะทางมากๆ และยัง Niche ที่อังกฤษ แต่ก็ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ชอบเพลงแนวนี้ 

เราตั้งเป้า หรือมีเป้าหมายในการเป็นศิลปินอย่างไร ในเรื่องเพลง เรื่องคอนเสิร์ต หรือมีความสำเร็จไหนที่เราใฝ่ฝันนอกเหนือจากนี้ไหม 

เจ้าขุน : เป้าหมายในการเป็นศิลปินคนนึง ขุนเชื่อว่าหลายๆ คนคงคิดคล้ายๆ กัน ว่าอยากมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง มีแฟนๆ ที่รักเรามาดูมาให้กำลังใจ และร้องเพลงของเราได้พร้อมๆ กัน ในฟีลนั้น ขุนน่าจะร้องไห้แน่ๆ (หัวเราะ)  แต่ด้วยความที่ขุนเพิ่งเริ่มอย่างจริงจัง ก็ไม่อยากตั้งเป้าอะไรไปไกลตัวมากครับ แค่อยากให้แฟนๆและผู้ฟัง ชอบผลงานที่เราตั้งใจทำออกมา ให้กำลังใจและสนับสนุนกันไปนานๆ แหล่ะครับ ซึ่งหลังจากซิงเกิลนี้ ขุนจะไม่หายไปนานอีกแล้ว มีผลงานมาให้ฟังอย่างต่อเนื่องแน่นอน ฝากเนื้อฝากตัวอย่างเป็นทางการกับทั้งทาง Sanook และแฟนๆ ทุกคนด้วยนะครับ

สุดท้ายนี้เจ้าขุนอยากถูกจดจำอย่างไรในฐานะศิลปิน 

เจ้าขุน : คำนี้ฟังแล้วขนลุกนะครับ มันดูมีพลังดีจัง (หัวเราะ) ถ้าในฐานะศิลปิน ตอนนี้ขุนถือว่ายังเป็น Beginner ที่ตั้งใจทำทุกผลงานออกมาสู่ผู้ฟังทุกคน สิ่งที่อยากให้ทุกคนจดจำคือ เป็นศิลปินที่มีความตั้งใจ เข้าถึงง่าย คือเจอขุนที่ไหนเข้ามาทักได้เลยครับ หลายคนอาจคิดว่าขุนเข้าถึงยาก ไม่ค่อยยิ้ม แต่จริงๆ ขุนไม่ได้หยิ่งหรืออะไรเลย ยิ้มง่าย บางทีก็ง่ายเกินไปด้วยซ้ำ (หัวเราะ) เป็นศิลปินที่มีผลงานที่ทุกคนชื่นชอบและพร้อมสนับสนุนกันไปเรื่อยๆ ครับ รักขุนกันเยอะๆ นะครับผม (ยิ้ม)

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ เปิดตัวตน “เจ้าขุน” ถึงมุมอ่อนแอ สิ่งที่คนเข้าใจผิด และ เหตุผลที่เปลี่ยนแนวทุกซิงเกิล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook