BTS ครบรอบ 10 ปี กับ 10 เรื่องที่พวกเขาเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์โลก

BTS ไม่ได้เป็นเพียงวง K-POP ที่ประสบความสำเร็จในวงการเพลงระดับโลก แต่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมายังบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ในหลายๆ ด้านที่ทำให้พวกเขากลายเป็นตำนานใหม่ของโลกเป็นที่เรียบร้อย

BTS สร้างบรรทัดฐานและธรรมเนียมอะไรใหม่ๆ ให้กับวงการ K-POP กันบ้าง มาดูกัน

---

1. Bangtan Blog

BTS ขึ้นชื่อว่าเป็นวง K-POP รุ่นแรกๆ ที่ใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสารกับแฟนๆ มาตลอดตั้งแต่ก่อนเดบิวต์ ตั้งแต่การประกาศเรื่องสำคัญๆ สั้นๆ อย่างการเพิ่มสมาชิก จีมิน เข้ามาในวง ไปจนถึงเรื่องสัพเพเหระอย่าง SUGA รีวิวเครื่องเล่น MIDI ของตัวเอง j-hope คุยเรื่องการเล่นแนว street และอัปเดตการซ้อม RM แนะนำเพลงให้แฟนๆ ฟัง จองกุกคุยเรื่องการฝึกที่อเมริกา และการฉลองคริสต์มาสกับเพื่อนในวง และ วี โพสต์คลิปร้องเพลงที่เขาแต่งเองให้แฟนๆ ฟังตั้งแต่ช่วงเดบิวต์ใหม่ๆ เรียกได้ว่า BTS เป็นวง K-POP แรกๆ ที่ใช้โซเชียลมีเดียในการประกาศข่าวสำคัญๆ และอัปเดตเรื่องราวทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

 

2. Born Singer

BTS เป็นวงไอดอลที่แต่งเพลงเอง และเล่าเรื่องราวของชีวิตตัวเองผ่านบทเพลงในแต่ละอัลบั้ม จึงทำให้ในแต่ละอัลบั้มเล่าเรื่องชีวิตของพวกเขาในแต่ละช่วงเหมือนกับไดอารี่ไล่ไปตามไทม์ไลน์ ตั้งแต่เพลงที่พร่ำบอกว่าตัวเองเป็นแค่เด็กฝึก ยังไม่เก่งไม่โดดเด่นอะไรอย่าง “We Are Bulletproof Pt.2” และเพลง “Intro: 2 Cool 4 Skool” (Feat. DJ Friz) ที่บอกว่าพวกเขากำลังพัฒนาตัวเอง และกำลังดีขึ้นเก่งขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึง “Born Singer” ที่พวกเขาร้องด้วยความมั่นใจว่า พวกเขาเป็นมืออาชีพแล้ว รวมถึงเรื่องราวอื่นๆ ที่พวกเขาได้ไอเดียมาจากการพูดคุยสื่อสารกับแฟนๆ มาตลอดตั้งแตก่อนเดบิวต์อย่าง “No More Dream” ที่พูดถึงชีวิตวัยรุ่นที่พยายามตามล่าฝันอย่างไม่หยุดหย่อน หรือเพลงในโปรเจกต์ LOVE YOURSELF ที่ BTS ต้องการสื่อสารให้แฟนๆ รักและเคารพตัวเองมากขึ้น

 

3. Burn the Stage

BTS เป็นวงที่มาพร้อมกับเพอร์ฟอร์มานซ์ที่หนักหน่วงและสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการ K-POP อยู่เสมอ ตั้งแต่ตอนโปรโมต “No More Dream” ที่แสดงเพลง “We Are Bulletproof Pt.2” ควบคู่กันไปด้วย ท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์เรียกความสนใจจากแฟนๆ ได้เป็นอย่างดี หลังจากนั้นการแสดงสดบนเวทีของ BTS ก็เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์อยู่เสมอ ทั้งการขนแดนเซอร์ขึ้นโชว์ด้วยเป็นสิบ การดวลเต้นกับวง Block B ในงานประกาศรางวัลท้ายปี การปรับเปลี่ยนท่อนเพลงเพื่อเพิ่มท่าเต้น การเพิ่มวงโยธวาทิตตอนแสดงเพลง “ON” และแสดงความครีเอทีฟในการแสดงต่างๆ ทุกครั้งที่ BTS ขึ้นเวทีเพื่อรับรางวัล ก็เป็นโอกาสอันดีที่แฟนๆ จะได้เห็นเพอร์ฟอร์มานซ์ที่เตรียมมาเป็นพิเศษเพื่อแฟนๆ ทุกครั้ง

 

4. Bangtan TV

BTS เป็นวงที่ทำคอนเทนต์ in-house ออกมาเพื่อให้แฟนๆ ได้ติดตามชมอย่างต่อเนื่องในหลากหลายรูปแบบ ทั้ง Bangtan Bomb ที่เป็นคลิปสั้นๆ รวมเบื้องหลังเมมเบอร์เล่นสนุกกันระหว่างทำกิจกรรมโปรโมต BTS Episode ที่บันทึกสิ่งที่เมมเบอร์ทำและสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ Run BTS! รายการวาไรตี้ที่เมมเบอร์ต้องทำภารกิจสนุกๆ มากมาย รวมไปถึงคอนเทนต์รีวิวอัลบั้มของ SUGA ที่เผยให้เห็นว่าพวกเขาเป็น YouTuber มานานนับ 10 ปีแล้ว เรียกได้ว่าเป็นไอดอล K-POP กลุ่มแรกๆ ที่ทำคอนเทนต์วิดีโอลงแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

 

5. นิยาย-การ์ตูน

BTS ก้าวล้ำหน้าไปอีกขั้นด้วยการมีการ์ตูนและนิยายชื่อ The Most Beautiful Moment in Life Pt. 0: Save Me โดยมีเนื้อเรื่องและไอเดียหลักตรงกันกับเพลงในอัลบั้ม นอกจากเนื้อเรื่องในมิวสิควิดีโอของเพลงในอัลบั้มชื่อเดียวกันนี้จะมีเนื้อหาที่ต่อเนื่องกันแล้ว ยังต่อยอดด้วยการเล่าเรื่องผ่านตัวละครที่มาจากศิลปิน และเป็นการต่อยอดการโปรโมตเพลงและโปรโมตศิลปินอย่างชาญฉลาดและแปลกใหม่ในอีกทางหนึ่งด้วย

 

6. @BTS_twt

แม้ว่า BTS จะไม่มีแอคเคาท์ social media ของตัวเองตั้งแต่เดบิวต์เหมือนกันวงอื่นๆ แต่ BTS มี Twitter ที่โพสต์รูปและข้อความด้วยตัวของสมาชิก BTS เอง ซึ่งเป็นช่องทางหลักในการพูดคุยและอัปเดตเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องสำคัญหรือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันกับแฟนๆ เป็นประจำอยู่เสมอ BTS ไม่สร้างภาพ แต่ละคนโพสต์เรื่องราวมีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง รูปหล่อๆ บ้าง รูปตลกๆ บ้าง ให้แฟนๆ ได้รู้จักและเข้าถึงตัวตนทุกมิติของเมมเบอร์ราวกับกำลังพูดคุยอยู่กัยเพื่อนสนิท และนี่เป็นข้อแตกต่างสำคัญที่ทำให้ชาวอาร์มี่รู้สึกสนิทชิดเชื้อและใกล้ชิดกับสมาชิกทุกคนแม้ว่าจะอยู่ห่างไกลหรือพูดกันคนละภาษาก็ตาม

 

7. Billboard

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของวงการ K-POP ที่มีประโยคที่เราเห็นกันบ่อยๆ ว่า “BTS paved the way.” คือการที่มีเพลง K-POP ขึ้นสู่อันดับ 1 ของชาร์ต Billboard Hot 100 เพลงแรกจาก “Dynamite” โดยมีเพลงอื่นๆ ก่อนหน้านี้ที่พาเหรดขึ้นชาร์ตกันไม่หยุดไม่หย่อน และกลายเป็นเพลงฮิตไปทั่วอเมริกาและทั่วโลกในเวลาไม่นาน ทั้ง “DNA”, “Mic Drop” (Steve Aoki Remix) Feat. Desiigner, “On”, “Black Swan”, “My Time”, “Filter” จากนั้นเพลงที่ขึ้น #1 ก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ทั้ง “Life Goes On” ซึ่งเป็นเพลงภาษาเกาหลีล้วน, “My Universe” ที่ทำกับ Coldplay และ “Savage Love (Laxed Siren Beat) [BTS Remix]” และเป็นศิลปินที่มีเพลงขึ้นอันดับ 1 ใน Billboard Chart ทั้งหมด 3 เพลง ในระยะเวลาที่สั้นที่สุดในรอบ 42 ปีเลยทีเดียว

 

8. FESTA

BTS ชวนแฟนๆ เฉลิมฉลองวันครบรอบของวงอย่างสนุกสนานด้วยกันทุกปี เป็นช่วงที่ทั้งศิลปินและแฟนๆ รอคอย เพราะในระยะเวลาราว 10 วัน ตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. ถึงวันที่ 13 มิ.ย. จะมีกิจกรรมพิเศษมากมาย ทั้งการปล่อยเพลงที่ไม่เคยได้ฟังกันมาก่อน รูปถ่าย คลิปซ้อมเต้น และกิจกรรมสนุกๆ อีกเพียบ เมมเบอร์ยังเคยแต่งเพลงเพื่อแฟนๆ เนื่องในโอกาสพิเศษนี้โดยเฉพาะอีกด้วย เช่น “4 O’CLOCK” ของวี, “My You” ของจองกุก, “Ddaeng” ของแก๊งแร็ปเปอร์ และ “so 4 more” และ “I Know” ที่เป็นเพลงที่มอบให้กับแฟนๆ ในช่วง FESTA โดยเฉพาะ

 

9. Stadium

จากฮอลล์เล็กๆ ที่มีความจุเพียง 2,000 ที่นั่ง สู่สเตเดี้ยมใหญ่ระดับโลกอย่าง Wembley Stadium ที่มีความจุมากถึง 90,000 คนและบัตรขายหมดเกลี้ยง BTS เติบโตมาอย่างดีในช่วงระยะเวลา 6 ปีที่ผลักดันตัวเองจากวง K-POP สู่ศิลปินแถวหน้าของโลกด้วยการเป็นศิลปินวงที่ 12 ที่สามารถขายตั๋วคอนเสิร์ตที่ Wembley Stadium ได้หมด 

 

10. ARMY

กล้าพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า BTS ได้สร้าง ARMY ให้เป็นแฟนด้อมในวงการ K-POP ที่รักและติดตามผลงานของ BTS อย่างเหนียวแน่นมาตลอดระยะเวลาหลายปี ไม่ว่าจะเป็น ARMY รุ่นแรกตั้งแต่ยังไม่มีเพลงภาษาอังกฤษ ไปจนถึง ARMY รุ่นน้องที่แม้จะเพิ่งมาใหม่แต่ก็รัก BTS และชื่นชมในผลงานการแสดงสด เนื้อเพลง ท่าเต้น และสนับสนุนผลงานในทุกด้านของเหล่าสมาชิกอยู่ตลอดเวลา แฟนๆ ช่วยกันโหวต ช่วยกันสตรีม ช่วยกันซื้อตั๋วชมคอนเสิร์ต ซื้ออัลบั้ม สนับสนุนศิลปินในทุกช่องทาง เป็นกลุ่มแฟนด้อมที่ทรงอิทธิพลที่สุดกลุ่มหนึ่งในวงการ K-POP ไม่ใช่แค่เรื่องจำนวนแฟนคลับ แต่ยังเป็นการสนับสนุนผลงานของศิลปินอย่างแท้จริงด้วย