YOU BETTER LOVE ME CONCERT เมื่อ "วี วิโอเลต" ทำให้เราตกหลุมรักไม่หยุด!

ตั้งแต่เข้ามาในวงการปี 2013 วี-วิโอเลต วอเทียร์ ถือเป็นสีสันของวงการบันเทิงไทย ทั้งในฐานะนักแสดง ศิลปิน ไปจนถึงคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ซึ่งในปี 2023 เมื่อทุกอย่างสุกงอม ก็ถึงเวลาเธอตามรอยหลายๆ ศิลปินที่มีอายุ 20 ปลายๆ ด้วยการมีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก  The Concert presents The Concert presents วิโอเลต วอเทียร์ “YOU BETTER LOVE ME CONCERT” ซึ่งบัตรขายหมดอย่างรวดเร็ว

 

การที่วีมีเพลงออกมาต่อเนื่อง และยังมีความสามารถหลากหลาย ทำให้เราอยากรู้ว่างานครั้งนี้จะออกมาในรูปแบบไหน และขณะเดียวกันวีก็เป็นคนที่มี “พันธมิตร” ในวงการเพลงเยอะมาก และทำให้เราอยากรู้ว่า“อะไร” และ “ใคร” จะมาอยู่บนเวทีกับเธอบ้าง และเพลงจากอัลบั้มรวมถึงเพลงพิเศษไหนจะเข้ามาในเซ็ทลิสต์ 

ในวันที่ 24 มิถุนายน เราที่เข้าชมคอนเสิร์ต งานครั้งนี้ได้เริ่มต้นด้วย VTR ที่สะท้อนเรื่องราวความเป็นวี ก่อนที่เราจะได้พบว่ากล่องใหญ่บนเวที ก็คือบ้านหลังยักษ์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนบ้านของวี และในโชว์ก็มีเพลง “Heartbeat”, “กักตัว” และการแนะนำตัวที่เฉลยว่า “YOU BETTER LOVE ME CONCERT” มาจากการที่เธออยากให้จบงานแล้วทุกคนพร้อมใจกันรักเธอ รวมถึงการที่ใช้บ้านเป็นพร็อพหลักเพื่อให้การแสดงครั้งนี้เหมือนวีต้อนรับแขก หลังดูโชว์ทั้งหมด และแฟนๆ ก็ได้ฟังเพลง “Brassac” และ “All That I Need” ที่เป็นตัวแทนเพลงสนุกของงานนี้และตามด้วยการย้อนเวลาสู่อดีตด้วย VTR ก่อนเข้าวงการ และการแสดงเพลง “Leaving on the Jetplane” ที่เธอโชว์ในรายการ The Voice Thailand ซีซั่น 2 และ “Habits” เพลงที่เธอคัฟเวอร์จนทะลุร้อยล้านวิว ก่อนจะเข้าสู่ช่วงการแสดงที่มีตัวละครชายที่ปรากฎตัวตรงเวทีเล็กพร้อมแสดงบทบาทคนที่รอคอยใครสักคนเพื่อนำเข้าเพลง “Smoke”, “We own this World” และเพลง “Drive” ที่มากับซีนสวยที่บ้านทั้งหลังดูค่อยๆ พัง ก่อนตามด้วย “I’d do it Again” 

หลังจากช่วงเพลงสากล แฟนๆ ก็ได้ฟังเพลงไทยอย่าง “อยากฟัง” ที่วีมาโชว์กลางเวที และเพลง “ก็แค่ไม่มีฉัน” รวมถึง “ดวงจันทร์กลางวัน” ที่เธอทำกับ getsunova และเพลง “อยากรู้หัวใจ” อีกหนึ่งผลงานพิเศษ หลังจากนั้นก็ช่วงเพลงไทยดราม่าอย่าง “ยื้อเพื่อ” ก่อนสลับมาเพลง “ไม่อยากคุย” ที่วีขึ้นรถ Taxi จำลอง และ “ถ้าเธอ” ที่เป็นการเปิดตัวแขกรับเชิญคนแรกอย่าง แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ที่ปรากฎตัวบนบ้านจำลองบนเวที ซึ่งหลังจากที่พูดคุยกัน ก็เป็นการโชว์เพลง “Unstoppably” ที่มีการซ้อนเซอร์ไพรส์จาก ภูมิ วิภูริศ อีกหนึ่งศิลปินไทยที่มีผลงานระดับอินเตอร์ และหลังจากที่พูดคุยกัน แสตมป์และภูมิก็โชว์เพลง “Lover Boy” ที่มีการเพิ่มท่อนภาษาไทยเข้าไป 

เมื่อผ่านช่วงของความสุข แฟนๆ ก็ได้เจอ VTR ที่วีเล่าถึงความเจ็บปวด ที่นำเข้าเพลง “โลกร้าย” และตามด้วยเพลง “อย่าใจร้ายกับตัวเอง” ที่มากับ VTR จดหมายที่วีเขียนถึงตัวเองประกอบเพลง และหลังจากนั้นก็เกิดการเปลี่ยนฟีลเซอร์ไพรส์อีกครั้ง เมื่อวีร้องเพลง “จินตนาการ” ที่ถูกรวมกับเพลง “กลัว” ของ ปาล์มมี่-อีฟ ปานเจริญ ที่เป็นแขกรับเชิญคนสุดท้ายของงาน ที่วีขอฝากตัวเป็นน้องสาวกลางเวทีพร้อมน้ำตา ก่อนที่ทั้งสองจะสนุกกับเพลง “Tick Tock” และหลังจากนั้นงานก็เต็มไปด้วยฟีลสนุกจากเพลง “Toxic” และการพูดคุยเพื่อเข้าเพลง “ระวังจะเสียใจ” ที่เป็นต้นกำเนิดธีม YOU BETTER LOVE ME CONCERT และการลาแฟนๆ และขอบคุณทุกคน ก่อนปิดท้ายงานด้วยเพลง “ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข” ก่อนที่วีจะเปิดประตูเข้าบ้านจำลองขณะที่แฟนๆ เตรียมเดินทางกลับบ้าน 

โดยงานครั้งนี้นอกจากการร้องเพลงของวีที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง และสามารถถ่ายทอดเพลงได้ทุกฟีลจากสนุกไปถึงเศร้าแล้ว อีกสิ่งที่เราชอบมากๆ คือเธอเป็นคนที่มีเสน่ห์มากในภาพเคลื่อนไหว และนั่นเมื่อมาเจอกับอินเนอร์ที่ออกมาจากแต่ละเพลง ก็ทำให้เรานั่งดูเธอแสดงได้ไม่เบื่อเลย แต่ที่เซอร์ไพรส์ยิ่งกว่าก็คือ แม้วีจะขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่จริงจัง และตั้งใจทำงาน แต่บนเวทีคอนเสิร์ตนั้นเธอตลกมาก ปล่อยมุกโบ๊ะบ๊ะ เล่นกับคนดูตลอด และมีรันนิ่งโจ๊กเรื่องการไม่อยากร้องไห้ (แต่ก็ไม่รอด) จนเราอยากตั้งแฮชแท็ก #วิโอเลตวอเทียร์เป็นคนตลก ให้กับเธอเลย เอาตรงๆ เรารู้สึกว่าต่อให้ไม่ได้มีสเตจอลังการหรือแขกรับเชิญ มีแค่วีกับนักดนตรีแบ็คอัพบวกกับป้ายงาน เราว่าทุกคนก็พร้อมดูเธอจนจบ

ส่วนสคริปต์งานก็มีการผสมผสานเพลงสากลและไทย และตัวสคริปต์ VTR ก็มีฟีลแบบคอนเสิร์ตต่างประเทศ ทั้งพาร์ทจดหมาย ไปจนถึงโปรดักชั่นเวทีที่ดูมีความป็อปคัลเจอร์ตะวันตกสูง แม้บางพาร์ทอย่างตอนจดหมาย อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่ได้อ่านภาษาอังกฤษ แต่ส่วนตัวเรามองว่าคนที่ฟังเพลงวีก็น่าจะเป็นคนที่ฟังเพลงสากลระดับหนึ่งจนสิ่งนี้ไม่น่าเป็นปัญหาอะไร ส่วนแขกรับเชิญทั้ง 3 ก็มาเติมสีสันได้อย่างดีเคมีเข้ากับวีทั้งพี่ชายอย่างแสตมป์ เพื่อนรุ่นใกล้กันอย่างภูมิ และ ปาล์มมี่ที่เป็นไอดอลตลอดกาล และการเปิดตัวแขกรับเชิญก็มีความน่าสนใจในพาร์ทของภูมิที่ใช้วิธีการซ้อนเซอร์ไพรส์อย่างการเปิดตัวเขาต่อจากแสตมป์แบบติดๆ เช่นเดียวการเอาปาล์มมี่มาโชว์เพลงตัวเองที่แมชอัพเข้ากับเพลง “จินตนาการ” ก่อนที่จะใช้การพูดคุยแบบฉบับปาล์มมี่ที่ตลกธรรมชาติเพื่อสลายฟีลเศร้าและพาทุกคนเข้าช่วงสุดท้ายที่เน้นความสนุกอีกครั้ง  

สำหรับโปรดักชั่นทีม HUI และ Saturated ก็จัดหนักมาก ทั้งการสร้างบ้านจำลอง ที่ปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบเข้ากับโชว์ ที่เราไม่คิดว่าจะเกิดบนเวทีธันเดอร์โดม การทำรถแท็กซี่จำลอง ซีนนักแสดงชายและเปียโนกลางฮอลล์ จนหลายคนแซวว่าโปรดักชั่นงานนี้น่าจะมีแรงบันดาลใจจากละครเวทีของคณะนิเทศศาสตร์ของ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และส่วนของพลุและกระดาษโปรย เราก็แอบอยากแซวว่างานครั้งนี้ใช้กระดาษโปรยได้จัดเต็มมากๆ ระหว่างโชว์และตอนจบ ไม่เหมือนหลายงานที่มาแค่ตอนท้าย ขณะที่ทีมแดนเซอร์งานครั้งนี้ก็พลังงานเต็มที่ในพาร์ทการเต้นร่วมสมัย จนหลายๆ โชว์ให้ฟีลแบบละครเวที ซึ่งพาร์ทโปรดักชั่นเรามีจุดหนึ่งที่แอบห่วงแทนคนดูฝั่งซ้ายของฮอลล์ ก็คือเครนกล้องที่เรามองว่าอาจจะบังคนดูบางจุดเวลาหมุนไปมา  

สิ่งหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้รีวิวในงานอื่น แต่เราอยากชมในงาน YOU BETTER LOVE ME CONCERT คือคอสตูม เพราะอย่างที่เราทราบกันว่าการแต่งตัวให้กับศิลปินที่มีรูปร่างเล็กไม่ใช่เรื่องง่าย แต่งานนี้ชุดของวีคือ “สวยทุกชุด” ไม่ว่าจะชุดสั้น ชุดกระโปรงยาว หรือแม้แต่ชุดกางเกงยาว และที่เราชื่นชมอีกอย่างคือทุกชุดมีการเก็บตัวไวร์เลสแบบแนบเนียนไปกับชุดมาก ซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะผู้หญิงตัวเล็กอย่างวี ถ้าปล่อยตัวรับไวร์เลสไว้เฉยๆ มันจะเด่นและรกสายตา 

ส่วนพาร์ทดนตรี ตัวของ โหน่ง-วิชญ วัฒนศัพท์ ที่หลายคนรู้จักในนาม The Photo Sticker Machine และทีมก็ออกแบบงานออกมาได้ดีและหลายเพลงก็มีการเรียบเรียงใหม่ได้แตกต่างจากเวอร์ชั่นต้นฉบับ ซึ่งส่วนตัวเราแอบมองว่าเพลง “All That I Can Do” ที่ซาวด์ดนตรีแอบดังกลบเสียงร้องไปนิด แต่เพลงที่เหลือคือดีและเข้ากับวีสุดๆ 

ตลอด 2 ชั่วโมงครึ่งของงาน วี วิโอเลต ได้ปล่อยของและเผยเสน่ห์กับความสามารถและตัวตนหลากมุมเพื่อให้เรารักเธอเหมือนธีมงาน แต่คนดูอยากเราก็อยากบอกว่า เราก็รักเธอตั้งแต่โชว์แรกๆ ของงานแล้ว เพราะเธอทำทุกอย่างเต็มที่และมันส่งมาถึงเราตั้งแต่โชว์แรกๆ และเรามองว่านี่จะไม่ใช่คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งสุดท้ายแน่นอน เพราะทุกคนที่ตกหลุมรักเธอจากงานวันนี้ น่าจะส่งต่อความรู้สึกของตัวเองออกไปจนงานครั้งหน้าจะมีผู้ชมกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่มาร่วมจับจองบัตรด้วย