คุยกับ PUN ถึงปฐมบทใหม่ของการเป็นศิลปิน และ "จิตใจ" ที่ผ่านการฮีลจนพร้อมก้าวต่อ
ที่ผ่านมา PUN (ปัน) - สรณวรรธ พิชัยรณรงค์สงคราม เป็นศิลปินที่หลายคนจับตาตั้งแต่วินาทีที่เขาเป็นสมาชิกกลุ่มฮิปฮอป YARB CREW และมาปล่อยเพลง “Kryptonite” โดยล่าสุดเขาได้เข้าสังกัด Universal Music Thailand และได้ปล่อยเพลง “Therapist” ที่เป็นปฐมบท
และในโอกาสที่ได้พูดคุยกับปัน ทาง Sanook Music ได้สอบถามเรื่องปฐมบทใหม่ของเขา และมุมของการเยียวยาของศิลปินผู้เป็นเจ้าของเพลง “Therapist” ที่แปลว่าผู้บำบัด รวมถึงการรับมือกับความแมสที่เกิดช่วงโควิด-19 จนชีวิตเปลี่ยนแบบรวดเร็ว
ปัน มาร่วมงานกับ Universal Music ได้อย่างไร
ปัน : ตอนนั้นที่ออกมาจากค่ายเดิม ก็มีค่ายเข้ามาคุยเยอะมาก และก็ได้เข้าไปคุยกับ Universal Music แล้วแนวทางเข้ากับเรา เป็นค่ายที่เป็นสากล มีความนานาชาติและคอนเน็คชั่นต่างประเทศเยอะ เราก็อยากให้เพลงเราติดตลาดต่างประเทศ เลยมาอยู่กับ Universal ครับ
การทำงานกับ Universal Music เป็นในรูปแบบไหน
ปัน : มันเป็นการย้ายบ้านใหม่ เราก็ต้องศึกษาคนมากขึ้น อยากเรียนรู้และเจอคนมากขึ้น การทำงานก็เหมือนเดิม ทำเอง เขียนเพลงเอง ก็ปรึกษาทีมเรื่องการวางแผน เส้นทางการโปรโมตเพลงมากขึ้นครับ
บอกนิยามแนวเพลงของปันในตอนนี้หน่อย
ปัน : เป็นความอินดี้ในแบบของผมครับ เป็นความอินดี้และสิ่งที่ผมชอบตอนนั้น เป็นอินดี้ป็อปแร็ป อาร์แอนด์บีครับ
เพลง “Therapist” มีที่มาอย่างไร
ปัน : มันมีจุดเริ่มต้นมาจากที่ก่อนผมอยู่ Universal ผมค่อนข้างฟุ้งซ่าน คิดมาก เครียดกับการตัดสินใจเพราะคิดว่าต้องทำให้ดีมากๆ แล้วเราก็ไม่รู้จะระบายให้ใคร สุดท้ายเราได้คนรอบตัวมารับฟังเรา เราก็เลยเขียนเพลงนี้ “Therapist” ขึ้นมาครับ เหมือนเราปล่อยและเล่าว่าเจอความเครียดและเราเจอคนเหล่านี้ที่เป็น “Therapist” และอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ ผลงานต่อๆ ไปก็จะมีเล่าว่าหลังจากเจอ “Therapist” เหล่านี้แล้วเราจะเป็นยังไงต่อ วิธีการทำเพลงก็ยังเหมือนเดิมคือผมเขียนเองที่ห้อง แต่ตอนนี้ผมมีเพลงช้า และ กลาง แต่ “Therapist” เป็นเพลงเร็วขึ้น อัพมาจากเพลงก่อนๆ ครับ
ความสำเร็จของเพลง “Kryptonite” ทำให้เรากดดันหรือตื่นเต้นบ้างไหม
ปัน : คำถามนี้มันเกิดขึ้นกับหลายๆ เพลงที่ปล่อยตั้งแต่ “Kryptonite” ดัง เอาจริงๆ ไม่ได้อยากให้เพลงแมส แต่อยากให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้นทั้งเรื่องซาวด์ งบทำเอ็มวีสวยๆ ก็มีบ้างที่กดดันกับเพลงที่ทำต่อมา พอปรับแนวคิดมันก็ดีขึ้นครับ
แล้วการทำงานในพาร์ทอาร์ตเวิร์ต และ Exhibition เราได้ไอเดียมาจากไหน
ปัน : มันเป็นจุดประสงค์ของผมที่ควรมีงานที่คนมาเสพผลงานจริงๆ เราเลยสร้าง Exhibition เพราะผมชอบไปเดินงานอื่นๆ แล้วอยากมีงานที่เป็นของเราบ้าง เกี่ยวกับตัวเพลง คนเยียวยา แล้วคนถูกเยียวยาครับ
แล้วคนที่เป็น “Therapist” ของปันต้องเป็นคนแบบไหน
ปัน : คนที่เยียวยาได้ดีสุดคือครอบครัว เป็นความสำคัญแรกๆ ของผมครับ ถ้าไม่มีใครครอบครัวก็อยู่กับเรา 2 ก็เป็นเพื่อน 3 ก็คนคุยหรือแฟนครับ นิสัยรับฟังก็พอ ไม่ต้องหาคำตอบ เพราะบางทีเรารู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว แต่แบบมันจะมีอารมณ์ “เฮ้ยมีเรื่องแบบนี้วะ” ครับ ของผมแค่โทรก็ดีแล้วครับ
ถ้ายังหา “Therapist” ไม่เจอ เราควรจะฮีลตัวเองอย่างไร
ปัน : ก็ต้องหาเซฟโซนของเราครับ บางทีอาจเป็นสัตว์เลี้ยงที่บ้าน แบบเราเลี้ยงแมวตัวหนึ่งแล้วเรากลับมาเจอแมวแล้วเราอุ่นใจอะได้กอดแมวของเรา หรือแบบหนังสือเล่มโปรดได้กลับมาอยู่ด้วยกัน มันก็เป็น Therapist เราได้ครับ
ที่ผ่านมาปันเริ่มมีงานโชว์แล้ว เราเตรียมตัวการขึ้นแสดงงานต่างๆ อย่างไร
ปัน : เราได้ปรับโชว์ใหม่ครับ เพราะก่อนหน้านี้เป็นฟูลแบนด์ และตอนนี้จะเป็นเซ็ทดีเจเพราะผมอยากลองอะไรใหม่ๆ ลองเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว ก็รู้สึกดีที่แสดงต่อหน้าคนมากขึ้น เพราะเพลงปล่อยตอนโควิด-19 แต่คนไม่รู้ว่านักร้องเป็นใครเพราะเราไม่ได้ออกไปเจอครับ ก็เลยรู้ว่าออกมาเจอ คนก็รู้จักเรามากขึ้นครับ ตอนนั้นมันเป็นข้อดี ข้อเสีย ข้อดีคือช่วงแรกผมขี้อาย และอยากเจอคนแค่ไม่กี่คน แต่พอโตขึ้นพอหาความมั่นคงให้เกิดขึ้นจริง และทุกคนต้องทำสิ่งนี้ ก็เลยรู้สึกว่าผมต้องออกจากโซนสบายและกล้ามากขึ้น ส่วนงานอย่างเฟสติวัลจะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ ต้องทำให้ใหญ่และเต็ม แต่งานอื่นๆ ก็จะย่อยๆ ลงไปครับ หรืออย่าง T-POP Stage ก็ต้องเตรียมตัวทุกงาน
เป้าหมายหลังจากนี้ของปันมีอะไรบ้าง
ปัน : ผมรู้สึกว่าอยากทำให้เพลงเรามีศิลปินต่างชาติมาร่วมจอย แต่เราต้องสร้างเรื่องราวของตัวเอง ต้องเป็นที่รู้จักในวงกว้างในประเทศไทย จริงๆ แผนมันวางไว้แล้ว แต่ปีนี้อยากให้คนรู้จักมากกว่าเดิมก่อนครับ
สุดท้ายนี้ปันอยากถูกจดจำอย่างไรในฐานะศิลปิน
ปัน : อยากเป็นศิลปินเดี่ยวที่ทำเพลงเองครับ มีคนถามว่าเราอยากเป็นนักแสดงไหม หน้าเรา ทรงเราแบบนี้เป็นดาราได้นะ แต่ก็บอกคนกลุ่มนั้นว่าอยากทำเพลงก่อน อยากให้คนโฟกัสในฐานะคนที่ทำเพลงจริงๆ แต่ไม่ปิดกั้นครับ แต่ถ้ามันอิ่มตัวและผ่านสิ่งที่เราอยากทำไปแล้ว ก็อาจจะหาความท้าทายใหม่ให้กับชีวิตครับ
อัลบั้มภาพ 24 ภาพ