“LONELY BOY Concert” เมื่ออัจฉริยะขี้อาย The White Hair Cut เอาเวทีอยู่ในเวลา 1 ชม.
ท่ามกลางเลือดใหม่ของ genie records ศิลปินวันแมนแบนด์อย่าง The White Hair Cut หรือ ฮิว-พัชรพล วงศาโรจน์ เป็นอีกศิลปินที่น่าจับตาจากฝีมือการทำเพลงที่ทำได้แทบทุกขั้นตอนด้วยวัยที่อายุน้อยสุดๆ กับผลงานที่ทำออกมาก็มีเอกลักษณ์ทั้งพาร์ทร้องและซาวด์รวมถึงเรื่องราว จนเราอยากเห็นเขาโกอินเตอร์แบบวง HYBS หรือศิลปินเดี่ยวอย่าง Phum Viphurit หรือเริ่มแพลนอัลบั้มสากลแบบ Tilly Birds ซึ่งขนาดเดียวกันผลงานก็เป็นที่ยอมรับและมียอดวิวสูงขึ้นถึงหลัก 10 ล้านวิวหลายงาน และนั่นทำให้เขาเริ่มมีงานจ้างเข้ามาของตัวเองเรื่อยๆ ด้วย และล่าสุดเขาก็มีอัลบั้ม LONELY BOY ออกมาแล้ว
ในฐานะคนที่มีเพลงของ The White Hair Cut อยู่ในแอปฟังเพลง ทำให้เราอยากมาชมคอนเสิร์ตปิดอัลบั้ม เพราะอยากรู้ว่าเขาจะทำโชว์ในรูปแบบไหน และจะพาตัวตนความเป็นคนพูดน้อยมาแสดงออกบนเวทีอย่างไร และการร้องสดด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาจะเป็นอย่างไร
ในงานเปิดอัลบั้ม LONELY BOY ได้เริ่มต้นด้วยเพลง “มันจะไม่มีอีกครั้ง”, “โลกเปลี่ยน” และ “นักรอ” เพลงเร็วหนึ่งเดียวของอัลบั้ม โดยในงาน ฮิวได้นำโชว์ด้วยเสียงเอกลักษณ์และมีอิมโพรไวซ์สดๆ ต่างจากใน Audio ก่อนที่จะมีการสลับเพลง “วิ่ง” และ “ทุกช่วงเวลา” ที่ทำก่อนเข้าค่ายมาโชว์ และตามด้วย “แค่ไม่อยากเห็น” และสลับมาเป็น “เติมต่อ” และ “ปลอดภัย” ที่มีอารมณ์ต่อเนื่อง และระหว่างโชว์เราก็ได้เห็นฮิวพูดคุยกับแฟนๆ และขอบคุณคนดูด้วยสไตล์เอกลักษณ์ทุกเพลง จนเราแอบอยากแซวว่าเขาตั้งโปรแกรมไว้หรือเปล่านะ เพราะเอเนอร์จี้ความสดใสไม่ลดเลย
แม้ว่างานครั้งนี้จะค่อนข้างเรียบง่ายด้วยการจัดกลางห้าง และมีแค่สกรีนด้านหลังที่บอกชื่อเพลงและ VTR แนะนำแต่ละเพลง กับการตกแต่งพื้นด้วยข้อความของฮิว แต่ฮิวและวงก็มากับการแสดงที่ต่อเนื่อง การใช้ Interlude เชื่อมเพลงจนอารมณ์ต่อเนื่อง ไม่มีเดดแอร์แต่อย่างใด
และช่วงท้ายโชว์ฮิวก็ได้นำเพลงที่เพิ่งปล่อยอย่าง “ได้เวลาแยกย้าย” ก่อนจะสลับมาเพลง “คนคนนึง” เพลงที่น่าจะทำให้หลายคนรู้จักฮิวเป็นครั้งแรก ที่ทุกคนร้องตามได้ ก่อนจะมาเพลง “รอวันเธอลืมเขา” และ “เผื่อว่าจะพบเธอสักวัน” ที่ฮิตและทุกคนร้องตามได้ และดึงทุกคนให้อินสุดๆ ก่อนที่ฮิวจะปิดงานแบบล้างฟีลเศร้าด้วยเพลง “ประตูอัลลอย” เพลงแรกๆ ที่เขาทำ และพาทุกคนกระโดดไปด้วยกัน ก่อนที่ลาสต์บอสของงานอย่างน้องมือทรัมเปตจะมาโชว์ลีลาเต้นชนิดที่เอาใจไปเลย จนเรามองว่างานนี้เหมือนหนังดราม่าเศร้าๆ ที่จบลงด้วยปาร์ตี้แบบช็อตฟีล แต่เราก็ชอบการหักมุมแบบนี้นะ
ในพาร์ทการร้องและโชว์ของ The White Hair Cut เขามากับเสียงและการร้องที่ตรงปกสุดๆ และเวลาร้องเพลงบนสเตจเขาก็มีการอิมโพรไวซ์ใหม่ๆ ที่ไม่ได้ยินใน Audio Version รวมถึงการเรียบเรียงดนตรีด้วย บอกเลยว่าเป็นศิลปินอีกคนที่เราสามารถแซวว่ากินซีดีได้ และนอกจากการแสดงของฮิวแล้ว วงแบ็คอัพของเขาก็เอเนอร์จี้ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะมือทรัมเปตที่เป็นลาสต์บอสสายแดนซ์บนเวทีเลย
แต่สิ่งที่ทำให้เราเซอร์ไพรส์ก็คือการเอนเตอร์เทนของฮิว เพราะตอนแรกเราไม่ได้คาดหวังสิ่งนี้ แต่บนเวทีเขาขอบคุณแฟนๆ ด้วยเอเนอร์จี้ที่มีความสุขตอนขอบคุณทุกคนหลังแต่ละเพลงจบ และก็พูดนำเข้าเพลง และปล่อยสลับวนไป เพราะถ้าพูดตรงๆ เดิมทีเราเคยคิดว่าบุคลิกของฮิวน่าจะเป็นคนที่พูดน้อย และนั่นทำให้ตลอด 1 ชม. เขาดูจะเอาคนอยู่ตลอดงาน ซึ่งนอกจากการพูดแล้ว เขาก็ค่อนข้างมีจังหวะบนเวทีดี ที่รู้ว่าพาร์ทไหนควรให้แฟนๆ ร้อง จนเรามองว่าอีกไม่นานเขาต้องมีตารางที่แน่นขึ้นแน่นอน
สิ่งที่เรามองว่าเป็นปัญหาเล็กๆ ของงานครั้งนี้ก็คือ การที่บริเวณจัดงานเป็นโซน EVENT ของห้าง ทำให้เราไม่สามารถควบคุมบรรยากาศได้ อย่างเช่นเสียงที่อาจหอนออกมาจากลำโพงเป็นครั้งคราว ที่น่าจะมาจากการที่คนดูและวง รวมถึงลำโพงต่างๆ กระจุกอยู่เป็นก้อน รวมถึงเสียงจากรอบด้าน แต่นั่นก็ไม่ได้ลดทอน แต่การจัดงานครั้งนี้ในห้างก็มีข้อดีเพราะเราแอบสังเกตได้ว่า มีคนดูขาจรที่หยุดดูและฟังด้วย เนื่องจากเสียงอันเป็นเอกลักษณ์และการแสดงของ THE WHITE HAIR CUT เป็นอะไรที่สะดุดหูคนฟัง และน่าจะทำให้หลายคนหยุดฟัง และอยากรู้ว่า "หนุ่มคนนี้ที่กำลังร้องเพลงอยู่เป็นใครนะ?" ซึ่งต้องปรบมือให้กับทีมจัดงานที่คิดทำงานเปิดอัลบั้มรูปแบบนี้
นอกจากฝีมือการทำเพลงแล้ว งานปิดอัลบั้ม LONELY BOY ก็ทำให้เรามองว่า The White Hair Cut ก็มีความน่าสนใจในการเติบโตในฐานะศิลปินและเพอร์ฟอร์มเมอร์ และทำให้เราตื่นเต้นมากว่าเส้นทางหลังจากนี้ของเขาจะไปในทิศทางไหน
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ