10 ศิลปิน K-POP ฟ้องค่าย เพราะโดนเอาเปรียบ-ทารุณกรรม

ศิลปิน K-POP คนไหนบ้างยื่นฟ้องค่ายเพราะมีปัญหากับการจัดการ รายได้ รวมไปถึงการถูกทำทารุณกรรมทั้งวาจาและร่างกาย

โลกของวงการ K-POP ไม่ได้สวยหรูอย่างที่หลายคนคิด ยังมีมุมมืดอีกหลายมุมที่หลายคนอาจจะไม่ทราบ หนึ่งในนั้นคือหลังเดบิวต์ไปแล้ว ศิลปินก็อาจมีปัญหากับค่ายจนต้องให้กฎหมายเข้ามาช่วยแก้ปัญหา จะมีศิลปินและค่ายไหนกันบ้าง Sanook รวบรวมมาให้อ่านกัน

1. JYJ (TVXQ!) ฟ้องร้อง SM Entertainment ปี 2009

 

เชื่อว่าคนที่ติดตามวงการ K-POP จะต้องนึกถึงวงนี้เมื่อพูดถึงข่าวศิลปินฟ้องค่าย เพราะนอกจากจะเป็นศิลปิน K-POP วงแรกๆ ที่ชาวไทยรู้จักแล้ว ยังเป็นวงแรกๆ ที่มีข่วฟ้องค่าย และทั้งวงและค่ายก็เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ (และทั่วโลก) คิมแจจุง พัคยูชอน และคิมจุนซู สามสมาชิกจากวง TVXQ! ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขอให้ตรวจสอบว่าสัญญาของพวกเขาที่เซ็นกับค่ายสามารถทำได้อย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะพวกเขารู้สึกว่าการติดสัญญาเป็นศิลปินค่าย 13 ปีมันยาวนานเกินไป (เป็นศิลปินวงแรกๆ ที่ทำให้ชาวไทยรู้จักกับคำว่า “สัญญาทาส”) และพวกเขารู้สึกว่ามีการกระจายรายได้ให้กับสมาชิกในวงแต่ละคนเป็นไปอย่างไม่ยุติธรรม นอกจากนี้ ในกรณีที่มีการทำลายสัญญา พวกเขาจะต้องเป็นหนี้นายจ้างสามเท่าของเงินลงทุนทั้งหมด และสองเท่าของกำไรปกติในช่วงระยะเวลาที่เหลือของสัญญาอีกด้วย

ถือว่าเป็นคดีที่ค่อยข้างใหญ่โตและเป็นที่สนใจของคนเกาหลีทั้งในและนอกวงการ K-POP กันเป็นอย่างมาก แม้ว่าศาลจะตัดสินเข้าข้าง JYJ แต่ SM โต้ตอบกับด้วยการจัดงานแถลงข่าวและแจ้งว่าคดีนี้เป็นคดีฉ้อโกง SM ยังได้ยื่นคำสั่งห้ามแต่ถูกศาลแขวงกลางกรุงโซลยกฟ้อง จนสุดท้ายทั้งสองฝ่ายยอมความกันได้ด้วยการให้ JYJ ออกจากค่ายและห้ามยุ่งเกี่ยวในหน้านที่การงานกันอีกในอนาคต

• คดี ทงบังชินกิ ( TVXQ! ) ศาลยกเลิก "สัญญาผูกมัด"

---

2. ฮันเกิง Super Junior ฟ้องร้อง SM Entertainment ปี 2009

ต่อจาก JYJ ก็เป็นกรณีของ ฮันเกิง สมาชิกชาวจีนของวง Super Junior ที่ยื่นฟ้อง SM หลัง JYJ แค่ 5 เดือน เหตุผลที่ยื่นฟ้องค่ายคล้ายๆ กัน เป็นเรื่องของรายได้ที่ได้รับเป็นไปอย่างไม่ยุติธรรม และสัญญาทาส 13 ปีที่ยาวนานเกินไป และเขาไม่ได้รับอนุญาตให้แก้สัญญาหรือยุติสัญญาก่อนเวลา นอกจากนี้เพื่อนของฮันเกิง (ที่ต่อมาเป็นผู้จัดการส่วนตัว) ให้การในชั้นศาลว่าฮันเกิงได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมทั้งเรื่องเงินและการจัดการต่างๆ ทั้งเรื่องของวีซ่าเพื่อให้ศิลปินต่างชาติทำงานในเกาหลีใต้ก็ยังดำเนินการได้ไม่ถูกต้องจนทำให้เขามีปัญหา และการถูกมองข้ามในหลายๆ เรื่องจนเกิดเป็นเรื่องที่แฟนๆ เข้าใจกันว่าเป็นการกีดกันศิลปินต่างชาติในค่าย

หลังจากต่อสู้กันมาอย่างยาวนาน 2 ปี ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ด้วยยุติสัญญาการเป็นศิลปินของฮันเกิง และฮันเกิงก็ออกจากวง Super Junior ในที่สุด

---

3. B.A.P ฟ้องร้อง TS Entertainment ปี 2014

B.A.P เป็นอีกวงหนึ่งที่แฟนๆ K-POP รู้สึกเสียดายอนาคตของวงมาก เพราะถ้าไม่มีเรื่องการบริหารจัดการของต้นสังกัดที่มีปัญหา B.A.P อาจจะมีชื่อเสียงโด่งดังและไปได้ไกลกว่านี้มาก เพราะอัลบั้มของพวกเขาติดชาร์ต Billboard World Albums Chart ในปี 2014 และยังได้รางวัลประจำปีเป็นกอบเป็นกำ เอาชนะวง BTS ในสมัยนั้นได้ด้วยซ้ำ แต่ทั้งหมดก็ต้องหยุดชะงักและพังทลายเพราะมีปัญหากับต้นสังกัด

B.A.P ทั้งวงยื่อฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอยุติสัญญาการเป็นศิลปินกับต้นสังกัด TS Entertainment ด้วยเหตุผลว่า สัญญาของพวกเขาเอื้อประโยชน์ต่อค่ายอย่างมีนัยยะสำคัญ และไม่เป็นธรรมต่อศิลปิน บริษัทได้เงิน ได้กำไรจากพวกเขา แต่พวกเขาแทบไม่มีรายได้จากการทำงานนับตั้งแต่วันเซ็นสัญญาจนถึงวันที่อัลบั้มออกในปี 2011-2014 ปีที่ B.A.P ประสบความสำเร็จมาก นอกจากนี้ในสัญญายังบังคับให้เป็นศิลปินมากกว่า 7 ปี ซึ่งยาวนานกว่าที่ตกลงกันไว้ เพราะบริษัทเริ่มนับวันแรกของการเป็นศิลปินจากวันแรกที่ออกอัลบั้มแรก ไม่ใช่วันแรกที่เซ็นสัญญา และเหตุผลอื่นๆ อีกมากมาย เช่น โดนบังคับให้ทำงานทั้งๆ ที่ป่วย เป็นต้น

TS Entertainment โดนศิลปินอื่นๆ ทยอยฟ้องร้องมากมาย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเงิน ทั้ง จีอึน และฮโยซอง SECRET filed (2018), Sleepy แร็ปเปอร์ (2019), ซูมิน นาฮยอน SONAMOO และ อูยอบ แทซอน TRCNG ที่พ่วงข้อหาทำร้ายร่างกายเยาวชนอีกด้วย สุดท้าย TS Entertainment จึงปิดตัวลงถาวรโดยที่ศิลปินต้องยอมความอย่างเลี่ยงไม่ได้ และยังไม่ทันได้รับรายได้ในส่วนที่ควรจะได้

• สองสมาชิก TRCNG ฟ้องค่ายหลังโดนครูสอนเต้นทำร้าย+ค่ายเพิกเฉย
• B.A.P 2018 LIVE [LIMITED] IN BANGKOK สาดความมันสุดพลังกว่า 2 ชม. เต็ม
• “ฮิมชาน” อดีตสมาชิก B.A.P พยายามฆ่าตัวตายหลังขอโทษที่โดนคดีล่วงละเมิดทางเพศ

---

4. คริส ลู่หาน เทา EXO ฟ้องร้อง SM Entertainment ปี 2014

คริส ลู่หาน และเทา เป็นสมาชิกชาวจีนในวง EXO แต่ละคนทยอยยื่นฟ้อง SM เพื่อขอยุติสัญญาการเป็นศิลปิน ทุกคนยื่นฟ้องด้วยเหตุผลคล้ายๆ กัน คือ สัญญาทาสที่นานเกินไป การได้รับการดูแลจัดการที่เป็นไปอย่างไม่เป็นธรรมจากบริษัท การแบ่งรายได้สู่สมาชิกอย่างไม่เป็นธรรม และสาเหตุอื่นๆ เช่น การปฏิบัติต่อศิลปินเหมือนเป็นหุ่นยนต์มากกว่าจะเห็นเป็นศิลปิน

ในรายละเอียดการฟ้องร้องของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ที่เหมือนกันคือทั้งสามคนไม่สามารถยุติสัญญากับ SM ได้ในทันที สัญญาของทั้งสามคนเพิ่มหมดในปี 2022 แต่หลังจากที่ยื่นฟ้องค่าย แต่ละคนก็ออกจากวงและไปทำงานที่จีนและญี่ปุ่นแทนจนถึงปัจจุบัน

---

5. คังแดเนียล ฟ้องร้อง LM Entertainment ปี 2019

หากคุณเข้าวงการมาไม่ทันยุคศิลปินเจน 2 อาจจะทันเรื่องคดีความของคังแดเนียล อดีตสมาชิก Wanna One กับต้นสังกัดที่ฟ้องร้องกันอย่างดุเดือดและมีเรื่องราวให้ติดตามอย่างเข้มข้น คังแดเนียลยื่นฟ้องค่ายด้วยสาเหตุที่ LM ละเมิดสัญญาโดยเซ็นสัญญาร่วมธุรกิจให้คังแดเนียลโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง โดยทาง LM โอนสิทธิ์ในส่วนต่างๆ ของสัญญาพิเศษของเขาให้กับบุคคลที่สามเพื่อเป็นค่าชดเชย

สุดท้าย ทั้งสองฝ่ายยอมความกันด้วยความช่วยเหลือของสมาคมการจัดการความบันเทิงแห่งเกาหลี และคังแดเนียลออกมาตั้งบริษัทเองทั้ง Konnect Entertainment และ KD Corporation Ltd กลายเป็น CEO ตั้งแต่อายุ 23 ปี

---

6. ไลควานลิน ฟ้องร้อง Cube Entertainment ปี 2019

ไลควานลิน อีกหนึ่งสมาชิก Wanna One ก็มีเรื่องกับต้นสังกัดอย่าง Cube เช่นเดียวกัน เขาให้เหตุผลว่า Cube ละเมิดสัญญาโดยเซ็นสัญญาร่วมธุรกิจให้ไลควานลินร่วมงานกับบริษัทจีนโดยที่เจ้าตัวและครอบครัวไม่รู้เรื่อง และไปทับซ้อนกับงานอื่นๆ ของเขาที่มีอยู่แล้วด้วย

แม้วาครั้งแรกที่ยื่นฟ้องเขาจะแพ้ แต่ควานลินกลับยื่นฟ้องอีกครั้งในปี 2021 และศาลตัดสวินเข้าข้างเขา จนควานลินสามารถยุติสัญญาได้ในที่สุด

---

7. OMEGA X ฟ้องร้อง SPIRE Entertainment ปี 2022

สมาชิกวง OMEGA X ยื่นฟ้องค่าย SPIRE Entertainment หลังจากที่พวกเขาต้องอดทนกับการใช้ความรุนแรงทั้งกายและวาจาจาก CEO ของบริษัท รวมถึงโดนคุกคามทางเพศ และมีพฤติกรรมล้างสมองกับพวกเขาอีกด้วย โดยพวกเขาเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดต่อสาธารณชนหลังจากที่แฟนเพลงเผยแพร่คลิปวิดีโอที่พบ CEO ตะโกนด่าและทำร้ายร่างกายสมาชิกในวงในที่สาธารณะหลังจบคอนเสิร์ตที่ LA

ในที่สุด OMEGA ก็ชนะคดีและสามารถยุติสัญญากับค่ายได้ในต้นปี 2023

• ฉาววงการ K-POP! OMEGA X ถูก CEO สาวด่าทอ-ทุบตีต่อต่อหน้าแฟนคลับ
• OMEGA X ยืนยัน อดีต CEO หญิง เคยคุกคามทางเพศ-ทำร้ายร่างกายสมาชิกจริง

---

8. อีซึงกิ (เกือบ) ฟ้องร้อง Hook Entertainment ปี 2022

อีซึงกิ นักร้อง นักแสดง และพิธีกรชื่อดัง ยื่นฟ้องต้นสังกัดเก่า Hook Entertainment ด้วยเหตุผลว่าทางบริษัทปิดบังข้อมูลกำไรจากงานเพลงของเขามาตลอดระยะเวลา 18 ปีที่เขาเป็นศิลปิน โดยที่เขาไม่ได้รายได้จากการเป็นศิลปินเลยตั้งแต่เขาเดบิวต์ นอกจากนี้งานอื่นๆ เช่น งานถ่ายแบบ อีซึงกิก็ได้รายได้ในส่วนนั้นไม่ครบอีกด้วย

สุดท้าย CEO ของ Hook Entertainment ยอมยุติข้อพิพาทก่อนเกิดการฟ้องร้อง และประกาศขอโทษอีซึงกิอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งจ่ายเงินชดเชยทั้งเงินต้นเงินดอกให้กับอีซึงกิทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อย โดยมีค่าตอบแทนหลัก (base payment) อยู่ที่ 1.3 พันล้านวอน (เกือบ 35 ล้านบาท) รายได้ที่ไม่เคยจ่ายให้อีก 2.9 พันล้านวอน (ราว 77.5 ล้านบาท) บวกดอกเบี้ยที่จ่ายช้าอีก 1.2 พันล้านบาท (ราว 32 ล้านบาท) อีซึงกิประกาศว่าจะบริจาคเงินที่ได้คืนจาก Hook ให้กับการกุศลต่อไป

• “อีซึงกิ” เตรียมฟ้องค่าย หลังไม่เคยได้เงินจากค่าทำเพลงตลอด 18 ปี
• “อีซึงกิ” เตรียมบริจาคเงินทั้งหมดที่ได้จากต้นสังกัด หลังทวงเงินที่ควรได้ตลอด 18 ปีคืนได้สำเร็จ

---

9. LOONA ฟ้องร้อง BlockBerryCreative ปี 2023

หลังจากที่ BlockBerryCreative ต้นสังกัดของวง LOONA ไล่ “ชยู” สมาชิกคนหนึ่งออกจากวงอย่างกะทันหันด้วยเหตุผลว่า ชยูมีพฤติกรรมใช้คำพูดรุนแรงและใช้อำนาจในทางที่ผิดต่อทีมงาน แม้เพื่อนร่วมวงและคนที่ร่วมงานกับชยูจะไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายชยูก็ต้องออกจากวงไป โดยที่เพื่อนร่วมวงทยอยยื่นฟ้องขอยุติสัญญากับค่ายทีละคนจนครบทั้งวง ด้วยเหตุผลว่า ค่ายทำลายความเชื่อใจ และถึงจุดที่รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะยังคงทำงานร่วมกับค่ายนี้ต่อไป

นอกจากนี้ สมาชิกในวงพบปัญหาในการโอนถ่ายสัญญาของสมาชิกไปยังค่าย Universal Japan ที่ก่อนหน้านี้ต้นสังกัดดำเนินการโดยไม่มีการรับรู้เป็นลายลักษณ์อักษรจากสมาชิกในวง จึงทำให้สมาชิกทุกคนขอยุติสัญยากับค่ายได้สำเร็จทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

• อนาคต LOONA สั่นคลอน “ชยู” ออกจากวง-สมาชิก 9 คนยื่นขอยุติสัญญา
• สมาชิก LOONA ทั้ง 12 คน ชนะคดีฟ้องร้องยกเลิกสัญญากับค่ายเรียบร้อยแล้ว

---

10. EXO-CBX (เกือบ) ฟ้องร้อง SM Entertainment ปี 2023

สามหนุ่ม แบคฮยอน เฉิน และซิ่วหมิน วง EXO ยื่นคำร้องขอต่อ SM Entertainment ในการแสดงหลักฐานการรับและการคำนวณรายได้ของบริษัทอย่างโปร่งใส ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของศิลปินในสังกัด แต่ทาง SM Entertainment อ้างว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลในส่วนนี้ให้กับทางศิลปินได้ รวมถึงสัญญาทาส 12-13 ปีที่ยาวนานเกินไป

ในขณะเดียวกัน SM ชี้แจงว่า มีกลุ่มคนภายนอกเข้ามาล่อลวง ให้ข้อมูลเท็จ หมิ่นประมาท และใส่ร้ายบริษัท รวมถึงบีบบังคับให้ศิลปินละเมิดสัญญากับทางบริษัท ศิลปินในค่ายสามารถดูข้อมูลรายรับรายได้ของตนเองได้ทุกเมื่อ แต่การเรียกร้องของหลักฐานเป็นกระดาษอาจเป็นการถูกพูดล่อลวงให้ขอจากกลุ่มคนภายนอก และระหว่างที่พูดคุยเพื่อต่อสัญญาเป็นศิลปินกันก่อนหน้านี้ แบคฮยอน ซิ่วหมิน และเฉินไม่ได้พูดถึงการเรียกขอดูเอกสารรายรับรายจ่ายของตัวเองเลย นอกจากนี้ทั้งสามคนยังต่อสัญญากับทางบริษัทด้วยความเต็มใจอีกด้วย

สุดท้าย SM และ แบคฮยอน เฉิน และซิ่วหมิน ตกลงกันได้ด้วยดีเป็นที่เรียบร้อย โดนทั้งสองฝ่ายปรับความเข้าใจกันใหม่ ไม่มีมือที่สามเข้ามาแทรกแซงแต่อย่างใด และ SM จะวางแผนการบริการที่ชื่อว่า SM 3.0 ในรูปแบบที่มีการพัฒนาและเติบโตมากยิ่งขึ้น เพื่อมอบความเคารพต่อศิลปินให้มากยิ่งขึ้น

• สรุปไทม์ไลน์ แบคฮยอน ซิ่วหมิน เฉิน EXO ยื่นขอยุติสัญญา SM อ้างว่ามีคนภายนอกปั่วหัว
• แบคฮยอน ซิ่วหมิน เฉิน EXO ยื่นขอยุติสัญญากับ SM หลังสงสัยรายได้-สัญญาทาส
• ทนายของ "แบคฮยอน ซิ่วหมิน เฉิน EXO" เปิดเผยความหมายของ “สัญญาทาส” ใน SM
• แบคฮยอน ซิ่วหมิน เฉิน EXO ตกลงกับ SM ได้เรียบร้อยแล้ว กลับเป็นศิลปินในค่ายเหมือนเดิม