“ฝน ธนสุนทร” รับมีหนี้เป็นปกติ แต่ไม่เคยคิดขอเงินใครใช้
นักร้องลูกทุ่งสาวคนดัง บอกว่า ปัจจุบันนี้ แม้งานคอนเสิร์ตไม่หวือหวาเหมือนในช่วงที่โด่งดังสุดขีด แต่ก็มีงานแสดงภาพยนตร์ และละคร งานพิธีกร เข้ามาต่อเนื่อง โดยตอนนี้ มีละคร 3 เรื่อง ได้แก่ ไลลาธิดายักษ์ ภาค 2, ลิเกหมอลำ และ ผู้บ่าวสุดซ่าส์กับอีหล่าขาซิ่ง ส่วนงานภาพยนตร์ เรื่อง ขอนแก่นลำเพลิน เป็นภาพยนตร์ถ่ายทอดวิถีชีวิตของคนอีสาน รับบท เป็น “ดวงใจ” แม่นางเอก รักลูกอยากให้ลูกได้กับผู้ชายดีๆ รวยๆ
จึงไม่เคยมีความคิดที่ต้องไปขอเงินใคร ดั่งที่มีกระแสข่าวพาดพิงว่า เป็นนักร้องขอเงินแฟนคลับ ซึ่งเจ้ายืนยันหนักแน่นว่า ไม่ใช่เธอแน่นอน
“ฝน ยังทำงานหาเงินได้ตามปกติ ที่ผ่านมาช่วงโควิด ก็มีการนำเอาเงินเก็บออกมาใช้ จนเกือบหมด แต่ก็ไม่ได้ขอใคร ชีวิตนี้ฝนไม่เคยคิดขอใครเนื่องจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้มีงานทำต่อเนื่อง ส่วนเรื่องนี้ก็เป็นหนี้ตามปกติ เหมือนคนทั่วไป คือ หนี้บ้านหนี้รถ เป็นหนี้ที่ทุกคนเขาเป็นกัน ไม่ใช่หนี้ที่เกิดจากเราหลงปิดไปเล่นการพนัน หรือทำอะไรที่ไม่ควรทำ ก็ยังทำงานใช้หนี้เหมือนคนปกติทั่วไป”
“ที่มีกระแสข่าวยืนยันว่า ไม่ใช่ฝน เพราะฝนยังทำงานปกติ ที่บอกว่าไลฟ์ขายของ ฝนก็ไม่เคยไลฟ์ขายของ หลังจากโควิดงานร้องเพลงก็เข้ามา งานหนัง งานละครก็เข้ามา ทำงานผ่อนบ้านผ่อนรถตามปกติ ยังไม่เคยถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัว ยืนยัน นั่งยัน ว่าไม่ใช่ฝน แต่ถ้าไปร้องเพลงหน้าเวที แล้วแฟนเพลงเอาพวงมาลัยมามอบให้อันนี้ก็รับกันเป็นเรื่องปกติ สวดมนต์ขอพรขอให้มีงานเยอะๆ ใช้หนี้ใช้สินหมดภายในปีนี้”
ฝน เป็นอีกหนึ่งคนในวงการบันเทิง ที่ไม่เคยตกเป็นข่าวฉาวมาก่อน จนกระทั่งถูกพาดพิง กรณีที่มีนักร้องสาวตกเป็นข่าวตกอับขอเงินแฟนคลับ
ฝน บอกวิธีก้าวข้ามผ่าน การถูกเชื่อมโยงข่าวฉาวครั้งแรกว่าใช้คติประจำใจที่ยึดเหนี่ยวเข้ามาช่วย
“คติประจำใจของฝน คือ ถ้ามันจริง ก็อย่าไปโกรธถ้ามันจริง ถ้ามันไม่จริงก็อย่าไปโกรธถ้ามันไม่จริง มันก็เลยไม่มีอะไรต้องโกรธ ต้องมานั่งแก้ ก็มันไม่ใช่เรา เราก็ไม่ต้องสนใจ ไม่รู้สึกว่าเป็นผลกระทบ ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง แต่ถ้าสิ่งที่เขาว่ามันจริง เราก็ต้องปรับปรุงตัวเอง อย่าไปโกรธเขา เพราะสิ่งที่เขาว่าเรามันจริง เวลาที่มันเกิดอะไรขึ้นก็จะมามองย้อนตัวเองก่อนว่า เราทำผิดจริงหรือเปล่า”
“ฝนจะเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่ออาชีพ ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง เวลามาทำงาน ตรงต่อเวลา มีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ ฝนก็วางตัวอย่างนี้แหละ ง่ายๆ ไม่ได้มีเทคนิคอะไรมากมาย แค่แบบทำงานด้วยความจริงใจ ถ้าเราทำดี ผู้ใหญ่ ผู้จัด มองเห็นเราก็ยังคงอยู่ 25-30 ปีที่อยู่ในวงการก็วางตัวง่ายๆ แบบนี้มาโดยตลอด การที่เรายังมีงานเพลง คอนเสิร์ต มีงานหนังงานละครให้ทำต่อเนื่อง ฝนมองว่า ฝนเดินบนเส้นทางนี้ แบบที่ควรเดิน ยิ่งในยุคนี้เขาให้ทำอะไรก็ทำหมดค่ะ สนุกกับการทำงาน”
ในการเปิดใจครั้งนี้ ฝน บอกความเคลื่อนไหวงานเพลงด้วยว่า เพิ่งปล่อยเพลง “ใจสั่น” ออกมาเป็นซิงเกิลใหม่ล่าสุด มีกำหนดปล่อยมิวสิควิดีโอวันที่ 17 ก.ค.
“เป็นเพลงที่มีจังหวะขึ้นมาโยกได้ เนื้อหาเพลงประมาณว่าเห็นคนหล่อแล้วเริ่มใจสั่น กระแสตอบรับเป็นที่น่าพอใจนะคะ หลังจากปล่อยไปได้ไม่นาน ยังมีความเป็นลูกทุ่งแท้ๆ ตามสไตล์ของฝน”
ฝน บอกต่อว่า ปัจจุบันนี้ แม้พฤติกรรมการฟังเพลง มีความเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่เชื่อว่า คนที่ชอบฟังเพลงลูกทุ่งแท้ๆ
“เราอาจจะปรับลุคการแต่งตัว ทำดนตรีให้เด็กๆ ฟังได้โยกได้ ฝนไม่อยากทิ้งความเป็นลูกทุ่งไปเลย อยากอนุรักษ์ไว้อยู่ ด้วยการเพิ่มความร่วมสมัยเข้ามา”
ฝน แสดงความคิดเห็นที่มีต่อการที่เห็นเด็กรุ่นใหม่ นิยมเพลงลูกทุ่งจำนวนไม่น้อย ดั่งที่เห็นได้จากการที่มีนักร้องคลื่นลูกใหม่ผุดขึ้นมาสร้างสีสันทำให้วงการเพลงลูกทุ่งคึกคักค่อเนื่อง ว่ารู้สึกดีใจ รวมทั้งชื่นชมเด็กรุ่นใหม่มีความสามารถมาก แม้ผลงานที่สร้างสรรค์ออกมาส่วนใหญ่ ไม่ใช่เพลงลูกทุ่งแท้ แต่ก็มีการผสมผสานความทันสมัยได้อย่างลงตัวหลายผลงาน เป็นการเดินทางของเพลง เปรียบเหมือนจดหมายเหตุบอกยุคสมัย
“เขาเก่งนะ อาจจะไม่ใช่ลูกทุ่งจ๋าๆ แต่เขาเอาจ๋าๆ แท้ๆ มาผสมผสานกับแร็ปบ้าง กับดนตรีสากล บางทีเอาหมอลำมาแร็ป เป็นการครีเอทที่ทำให้เพลงลูกทุ่งดำเนินต่อไป เหมือนในอดีต ก่อนมีเพลงลูกทุ่งก็มีเพลงฉ่อย เพลงอีแซว เป็นการพัฒนามาตามยุคตามสมัย พัฒนามาเป็นลูกกรุง ลูกทุ่ง สตริง อินดี้ ฝนว่ามันเป็นการเดินทางของเพลงที่สวยงาม บ่งบอกยุคสมัย อยากเพลงใจอ่อนของฝนก็จะเป็นยุคนั้น มันก็ยังอยู่สามารถยัอนกลับไปฟังเพลง เพลงของคลื่นลูกใหม่ก็เป็นของยุคนี้ เหมือนเป็นจดหมายเหตุ ช่วงนี้เทรนด์ไหน ช่วงนั้นอะไรดัง มีอะไรเกิดขึ้น”
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ