รู้จัก guncharlie กับการทดลอง 40 เพลงกว่าจะปล่อยผลงานแรก และบทเรียนจาก LIPTA
เป็นอีกหนึ่งคลื่นลูกใหม่ที่เติบโตต่อหน้าต่อตาแฟนๆ ในปีที่ผ่านมา สำหรับ guncharlie หรือ กัน-เสฐพงษ์ เอวสุข ศิลปินค่าย Kicks Records ที่หลายคนอาจคุ้นหน้าเขาจากการแข่ง The Rapper ก่อนจะค่อยๆ เติบโตมาทำเพลงเอง และล่าสุดก็มีผลงานต่อเนื่องหลังจับเส้นทางตัวเองได้
และในโอกาสที่ Sanook ได้คุยกับ guncharlie เราก็ได้พูดคุยถึงเส้นทางความรักดนตรีของเขา กับการทดลองจนได้เพลงที่ใช้ และการเติบโตทั้งการแต่งเพลง และแนวคิดการแสดงบนเวทีที่ได้จาก 2 หนุ่ม LIPTA (ลิปตา) คัตโตะ-อารมณ์โพธิ์หาญรัตนกุล และ แทน-ธารณ ลิปตพัลลภ ที่ดูแลเขามาตลอด
guncharlie มาอยู่กับค่าย Kicks Records ได้อย่างไร
guncharlie : ผมโตมาในบ้านที่มีเสียงเพลง บ้านมีชั้นลอยที่เต็มไปด้วยซีดีเพลงเป็นหมื่นแผ่น พ่อก็เปิดตอนไปส่งผมที่โรงเรียน ตอนปลุกผม ก็เลยจะอยู่กับดนตรีมาทั้งชีวิต ก็อยากเป็นคนทำบ้าง เลยเริ่มทำเพลงตั้งแต่ ม.ต้น ตอนนั้นหลังรายการ The Rapper พี่แทนก็ทักมาว่ากำลังจะทำค่ายกับพี่คัตโตะ ก็นัดมาคุยกัน แต่ว่าตอนนั้นผมอยู่ ม.5 หาตัวเองว่าอยากทำอะไรกันแน่ ก็บอกพี่แทนว่าอยากรู้จักตัวเองมากกว่านี้ครับ
เราฝึกฝนการทำเพลงได้อย่างไร
guncharlie : เริ่มตอนแรกผมไม่มีอะไรเลย เป็นมือกลองตอน ม.ต้น ก็ชอบฟังเพลงเล่นกลองหนักๆ ก็ไม่มีความรู้แต่งเมโลดี้และเนื้อร้อง และช่วงนั้น Rap is Now ก็เข้ามาในชีวิต ก็เลยเฟดจากจุดนั้น จนเราเริ่มอินกับแร็ปว่ามันต้องการแค่กระดาษกับปากกาให้คนว้าว ก็เป็นจุดเริ่มต้นแรกในการแต่งเพลง พอรู้วิธีเขียนก็มาครับเพลงป็อป เป็นเพลงที่มีการเรียบเรียงครับ
เรานิยามเพลงในปัจจุบันว่าเป็นแนวไหน
guncharlie : ล่าสุดคุยกับพี่คัตโตะ เขานิยามเพลงผมเป็นซาวด์แทร็ก เล่าเป็นฉากๆ เล่าเหมือนหนัง ก็คิดว่าเป็นแนวนั้น อย่าง “สถานะคนขับรถ” ก็รู้สึกเพลงมันโล่งๆ ก็ใส่ซาวด์ซินธ์แล้วพี่แทนก็ชอบ เพลง “สถานะคนขับรถ” ก็ร้อยเรื่องเป็นนิทานเรื่องหนึ่ง เป็นเพลงแนวซาวด์แทร็กครับ
แล้วตอนทำเพลง “ศูนย์คูณอะไรก็ได้ศูนย์” มันมีความยากง่ายอย่างไร
guncharlie : เป็นเพลงป็อปเพลงแรกเลย ตอนม.ต้น เป็นการทำแนว Experimental แบบแนวทดลองฟังยากๆ พอมาทำเพลงป็อปเพลงแรกที่ต้องบาลานซ์ระหว่างตัวเองและความแมส อันนี้ก็ยาก แต่มันก็ง่ายขึ้นในเพลงต่อๆ ไปครับ ก็หาจุดยืนในตัวเองในวงการได้ครับ
เพลง “คนที่คุณอาจรู้จัก” มีจุดเริ่มต้นอย่างไร
guncharlie : ผมเริ่มเจอตัวเองจากเพลงก่อนหน้า ก็เหมือนเป็นการตอกย้ำภาพตัวเองได้ดี ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เวลาเขียนผมก็จะคิดถึงวิธีการเล่าเรื่องแบบหนังสือ ควรปูมาก่อน และท่อนฮุคเป็นฉากแอคชั่น เล่าเรื่องเป็นฉากๆ มีรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสให้คนเห็นตามได้ชัด อันนี้เป็นวิธีการเขียนที่ชอบ พาร์ทดนตรีผมทำเดโม่ส่งให้พี่แทน สองเพลงหลังผมได้พี่ Kijjaz (กิจจ๊าส-กิจจาศักดิ์ ตริยานนท์) โปรดิวเซอร์พี่ สิงโต นำโชค ผมรู้จักพี่เขาตั้งแต่ ม.4 เป็นคนสอนผมทำเพลงมาตั้งแต่ตอนนั้น เราก็จูนดนตรีกันติด สไตล์ที่เราชอบคล้ายๆ กัน ตอนทำเพลงก็ไปสิงอยู่บ้านพี่กิจว่าทำแบบนั้นแบบนี้ ก็ได้ซาวด์ที่เฉพาะและเราชอบครับ
ปกติในค่าย Kicks Records การที่เพลงหนึ่งจะผ่านแล้วออกมาพี่ๆ Lipta จะมีมาตรฐานสูงมาก เรามีเพลงที่ไม่ได้ปล่อยเยอะไหม
guncharlie : ผมอะไม่ได้เพลงเยอะเท่าคนอื่น แต่ก่อนปล่อยเพลงทำไว้ 30-40 เพลง ช่วงนั้นท้อเหมือนกัน คือท้อแต่ไม่ได้อยากไม่แต่งแล้ว เหมือนทุกครั้งที่เราแต่ง ก็จะพบวิธีการแต่ง เหมือนยิ่งแต่งยิ่งเก่ง เป็นสิ่งที่พี่แทนอยากให้เป็น เหมือนนักกีฬาวิ่งทีมชาติต้องวิ่งทุกวัน นักแต่งเพลงถ้าอยากแต่งให้เก่งก็ต้องแต่งทุกวันครับ ตอนแรกเป็นการรับน้องให้ส่งเยอะๆแต่ตอนนี้ค่อยๆ แคบลง เริ่มรู้วิธีแต่งว่าทำอย่างไรให้พี่เขาชอบ และเราชอบ แบบพอเหมาะพอควร คุณภาพมากขึ้น ก็ไม่ได้แต่งเยอะแล้ว แต่ก็โดนตัดทิ้งเยอะอยู่ดีครับ (หัวเราะ) คือผมจะชอบเพลงอินดี้ พี่แทนจะเป็นสายป็อปแมส ความชอบก็อาจต่าง แต่แนวทางคือการแมทช์สองทาง ทั้งอินดี้และต้องขายได้ด้วย คือถ้าพี่แทนชอบ คนฝั่งป็อปก็น่าจะชอบด้วยครับ มันจะเป็นแนวทางตรงนั้นครับ
ในพาร์ทการทำงานเราก็ติดไปกับพี่ๆ หลายงานคอนเสิร์ต ได้เรียนรู้อะไรบ้างครับ
guncharlie : เวทีแรกๆ ผมตื่นเต้นมาก อย่าง Cat Expo หรือ Big Mountain ก็ได้เรียนรู้วิชาการคุมเวที เอาคนดูให้อยู่ แบบท่านี้ดีนะ ท่านี้ดูแล้วไม่เท่ ก็เรียนรู้มา ไปเรียนมาหลายครั้งครับ พี่คัตโตะจะสอนบ่อยว่าการเล่นคอนเสิร์ตครั้งหนึ่งแฟนคลับเขานั่งรถจากต่างจังหวัดมาหลายสิบกิโล มาจากต่างจังหวัด จะเข้ากรุงเทพเพื่อดูวงเรา การจะทำให้โชว์เขาคุ้มค่า เราต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดเขาไปครับ เหมือนกับเขาเหนื่อยและเสียตังค์มาดูเราอีก เราต้องซ้อมให้ดีที่สุด ให้เขาคุ้มค่าความเหนื่อยที่มาดูเรา อันนี้ความคิดพี่คัตโตะครับ
จะได้เห็นอะไรจาก guncharlie อีกบ้าง
guncharlie : ผมทำงานมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ต้องแบ่งเวลากับงานมหาวิทยาลัย และงานข้างนอก ก็ไม่ได้ลำบากอะไรมาก ผมก็ล็อคไว้จันทร์ถึงศุกร์เรียนและวันอื่นทำงาน ก็เน้นปล่อยซิงเกิลไปก่อน หาสไตล์ย้ำสิ่งที่เราเป็นให้คมขึ้น ไม่ได้คิดโหมปล่อยเพลงอยากเสิร์ฟสิ่งที่ดีที่สุดครับ
สุดท้ายนี้อยากให้ guncharlie ถูกจดจำอย่างไร
guncharlie : อยากให้จดจำในฐานะนักแต่งเพลง ผมไม่ได้เสียงดีแบบคนที่มาจาก The Voice ไม่ได้หล่อแบบดารา แต่สิ่งที่ผมมีคือการเขียนเพลง อาจจะแตกต่าง ผมสู้ได้ด้วยการแต่งเพลง อยากให้คนเป็นนักแต่งเพลงคนหนึ่งครับ
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ