LAZYLOXY เปิดมุมที่น้อยคนสัมผัส ในวันที่ทำฝัน "แม่-ยาย" กลายเป็นจริง

สำหรับหลายคน LAZYLOXY (ท็อป-ปฐมภพ พูลกลั่น) ถือเป็นศิลปินและแร็ปเปอร์ที่โดดเด่นทั้งการทำผลงานที่ฮิตตลอดหลายปีที่ผ่านมา และขณะเดียวกันก็เป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่หลายคนจับตาเรื่องความรักและชีวิตส่วนตัว 

แต่อีกมุมหนึ่งตัวของ LAZYLOXY คือศิลปินที่มีครอบครัวเป็นแรงผลักดันในการใช้ชีวิต และในวันที่เขาประสบความสำเร็จ เขาก็ได้เผื่อแผ่สิ่งที่เขาได้รับในทุกทางที่เขาทำได้ ทำให้วันนี้ Sanook ขอนำเรื่องราวมุมนี้ของเขามาให้ทุกคนได้สัมผัสกันในวันแม่ปี 2023 ซึ่งเชื่อว่าหลายคนที่ได้ฟังและอ่านเรื่องราวเขา อาจจะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาไปเลย 

เล่าถึงคุณแม่กับคุณยายของท็อปหน่อยว่าท่านเป็นคนอย่างไร 

คุณยายผมก็เป็นคนใจดีมากครับ เจอหน้ากันให้พรตลอด ส่วนคุณแม่ผมเป็นเหมือนผู้ชายหน่อยครับ เป็นคนแมนๆ ครับทำงานมาหลายอย่าง  เวลาอยากได้อะไร แม่ก็จะไม่ได้หาให้ครับ แต่แม่จะบอกว่า “บอกว่าเนี่ยอะ ให้ไปหาวิธีเอาแล้วกัน” อะไรอย่างงี้ใช่ แต่แม่ผมแสดงความรักกับยายดีมากเลยครับ เขาจะดูแลท่านตลอดเลยครับ ไม่ว่าเจ็บป่วยอะไรนิดๆ โทรมาก็จะรับสาย ต้องส่งเงินให้ตลอดครับ มันก็ทำให้ผมรู้สึกว่าในเมื่อเขาแม่รักยายแบบนี้ เราต้องรักแม่ ให้เหมือนที่แม่รักยายเหมือนกันครับ 

วีรกรรมกับคุณแม่กับคุณยายที่ท็อปไม่มีวันลืม 

ผมไม่ค่อยมีครับ ผมหนักสุดผมคือแคะกระปุกแม่ครับ อะไรประมาณนี้ ไปซื้อของประมาณนี้ครับ จริงๆ กับแม่ กับยายไม่ค่อยมีเลยครับ วีรกรรมร้ายๆ ก็ไม่ค่อยมีกับแม่นะครับ มากสุดก็หนีออกจากบ้านไปเล่นดนตรีอะไรประมาณนี้ครับ 

เวลาทำอะไรผิดท่านทั้ง 2 มีวิธีเตือนเราอย่างไร 

แม่ผมนี่จะตีเลยครับ แต่ยายผมจะโอ๋อีกทีหนึ่ง (หัวเราะ) แม่ผมก็จะค่อยๆ บอกcแหละครับ ตีแล้วค่อยๆ บอกผมว่ารู้สึกยังไง จริงๆ แล้วเขาเป็นคนเหมือนผมมากเลยครับ โตขึ้นมาก็เลยรู้เลยว่าผมโตมาเหมือนเขามากเลย เวลาเจออะไร ผมก็น่าจะเป็นคล้ายๆ แม่ครับ กับน้องๆ หรือว่าน้องชายผม เขาก็จะตีและบอกจุดอ่อนว่าพลาดตรงไหนไปบ้างครับ 

คุณแม่และคุณยายว่าอย่างไรกับความชอบดนตรีของ LAZYLOXY 

ยายผมนี่ก็สนับสนุนทุกทางอยู่แล้วครับ แต่แม่ผมตอนแรกก็จะค้านนิดนึง เพราะว่าเราผมเป็นลูกชายคนโตด้วยครับ พอแม่แยกทางกับพ่อเสร็จแล้วนี่ เราก็ต้องทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ให้แม่รู้สึกว่าเราพอที่จะส่งน้องได้อะไรอย่างงี้ ช่วงที่แรกๆ ที่ผมจะเรียนดนตรีแม่ผมค้านมาก ถึงขนาดที่ว่าผมต้องหา ผมต้องไปทำงานโรงงานเพื่อเอาเงินก้อนแรกไปกู้ กยศ. แล้วเอาเงินกยศ. มาใช้อีกทีหนึ่ง เพื่อซื้อไมค์ ซาวด์การ์ดทำเพลงครับ  ผมว่าเขาเริ่มเห็นความตั้งใจตอนผมเริ่มส่งตังค์ให้เขานี่แหละครับ เขาก็ได้รับรู้ครับว่าสิ่งที่เราเชื่อมั่น มันก็ทำให้เขาบอกว่าส่งน้องได้ แบ่งเบาภาระเขาได้ ช่วงแรกเป็นการแบ่งเบาภาระเขาอยู่ครับ หลังๆ ผมรู้สึกว่าแม่ก็เริ่มไม่สบายอะไรอย่างงี้ครับ ถ้าไม่ติดขัดอะไรผมก็จะส่งให้ท่านตลอดครับ อะไรอย่างงี้ครับ

วันที่เรามีชื่อเสียง คุณแม่กับคุณยายรู้สึกอย่างไร 

จริงๆ แม่ผมเป็นคนไม่ได้มีรีแอคตื่นเต้นมาก เวลาเขาแบบ ‘ไป Workpoint เหรอ ไปรายการไหน’ เขาจะรู้จักอยู่แค่รายการเดียวตอนนั้น ผมก็แบบ The Rapper ‘The Rapper ไหนไม่รู้จักเลย’ นั่นแหละสถานีเดียวกับไมค์ทองคำนั่นแหละ (หัวเราะ) เขาก็คงจำว่าเราไปร้องเพลงอะไรอย่างงี้ครับ เขาก็คงไม่คิดว่าเราจะมาทำในพาร์ทเพลงแนวนี้ อะไรอย่างงี้ครับ

เพลงไหนของ LAZYLOXY ที่คุณแม่กับคุณยายชอบ 

แม่ผมก็จะชอบตอนผมไปแสดงหนัง ฮาร์ทบีท (เสี่ยงนัก...รักมั้ยลุง) ครับ และก็ชอบเพลง “ขาวดำ” ที่มีพาร์ทเพื่อชีวิต แต่ผมจะมีเพลงนึงที่เขียนให้แม่เหมือนกัน เป็นเพลงที่ฟีทเจอริ่งกับพี่ Ben Bizzy ครับ ชื่อเพลง “ให้แม่” ครับ เขาก็รู้สึกปลื้มปริ่มครับ มันก็เป็นการบอกรักแบบเด็กผู้ชายแหละมั้งครับ แล้วก็พูดในเพลงว่าให้สบาย ซื้อบ้านให้ท่านอะไรอย่างงี้ครับ 

คุณยายท่านก็แก่มากแล้วครับ เรื่องความสมองหรือเรื่องอะไรอาจจะหลงๆ ลืมๆ บ้าง แต่เขาก็แสดงความรักให้เราตลอด ไม่ว่าเราจะทำอะไร เขาก็เป็นกำลังใจให้เราทุกวัน เขาสวดมนตร์ทุกวันด้วยครับ เขาสวดมนตร์ทุกวันและอวยพรให้หลานๆ ทุกคน เวลาผมที่กลับต่างจังหวัด เขามีห้องพระก็จะเข้าไปพูดขอพร เราก็ได้ยินทุกวันนะครับ เราก็รู้ว่าท่านคิดกับเราอย่างไร ประมาณนี้เลยครับ 

ในวันที่มีกระแสทางลบ แม่กับคุณยายให้กำลังใจหรือซัพพอร์ตเราแบบไหน 

จริงๆ แม่ผมก็ผมเตือนหลายๆ เรื่อง แบบเออเราประสบการณ์น้อย เราไม่ค่อยกล้าพูดกล้าแสดงออก ไอที่เรากล้าพูด มันก็จะไม่ใช่เรื่องที่เราควรจะพูด เขาก็เตือน เแต่เวลาที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น เขาจะไม่เคยมานั่งเสียใจกับเราเลยครับ เขาแค่ปลอบ เวลาที่ผมมีข่าว อย่างมีข่าวลงเนี่ย เขาก็ถ่ายมาให้ดูแบบ “เห็นไหมกูเตือนมึงแล้ว” เขาจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น ถ่ายมาให้ดูเฉยๆ ใช่แม่ก็จะเป็นทรงๆ นั้นมากกว่าครับ 

วันที่เราซื้อบ้าน คุณยายกับคุณแม่ ท่านทั้ง 2 พูดอะไรกับเรา 

วันนั้นก็แบบได้ถ่ายรูปกับยายด้วย ผมดีใจมากเพราะยายผมไม่อยากลงมากรุงเทพฯ เลยครับ เขาไม่ชินบรรยากาศที่นี่ครับ ผมก็ซื้อบ้านไว้หวังให้เขาอยู่ แต่ยายเขาไม่อยู่ เขาก็ให้แม่อยู่ไป แม่ก็อยู่กับแฟนกับน้องชาย เมื่อไม่นานมานี้แฟนแม่ก็เพิ่งเสียไปครับ ก็ให้แม่อยู่กับน้องชายไปละกันครับ ประมาณนี้ครับ 

ในวันที่ท่านสูญเสียเราทำอย่างไร 

ผมก็รักเขามากครับ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นผมก็ยังดูแลเขา แค่อยากบอกว่าแบบผมไม่อยากให้แม่รู้สึกแย่หรือว่า อยากให้แม่เข้าใจในพาร์ทที่เรามาทำงานและไม่มีเวลาให้เขาด้วยอะไรอย่างนี้ครับ 

ยังมีอะไรที่เราอยากให้ท่านทั้งสองอีกบ้าง 

จริงๆ แล้วผมก็ Success (ประสบความสำเร็จ) ในการมีบ้านให้เขาแล้ว แต่ก็ยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้ทำอย่างเช่นเรียนจบครับ ผมก็ไม่รู้ว่าเขายังหวังไหมอะไรอย่างงี้ แต่ผมคิดว่าไปทำในพาร์ทอื่นให้ดีแล้วกันให้มันดีสำหรับเขา ผมก็กลัวเหมือนกันว่าวันหนึ่งมันจะสายเกินไป ถ้าเราไม่ได้ทำสิ่งที่เราตั้งใจไว้ให้เขาอะไรอย่างงี้ครับ 

สำหรับท็อป คุณแม่กับคุณยายเราเหมือนกับอะไร 

คุณยายเนี่ยเหมือนน้ำมนต์เลยครับ ผมเห็นยายเหมือนน้ำมนต์กลิ่นมะลิอะไรอย่างงี้ครับ เพราะว่าเจอท่านทีไรได้กลิ่นนี้ตลอด กลิ่นธูปกลิ่นมะลิ กลิ่นอะไรพวกนี้ เขาเป็นคนที่เย็น สมัยก่อนแม่ก็บอกว่ายายก็พูดบ่นกับแม่เหมือนที่บ่นกับเราเหมือนกัน แต่พออายุเขาเท่านั้นก็จะเย็นลงมาก เราได้รับพร ได้รับพลังจากเขาตลอดเลยครับ ส่วนแม่ผม แม่ผมน่าจะเหมือนที่ชาร์จ ถ่านที่ชาร์จอะไรประมาณนี้ เขามอบพลังให้เราอย่างเดียวครับ 

ฝากถึงแม่ในวันแม่

ผมอยากบอกกับแม่ว่าผมรักแม่มากครับ จริงๆ โทรคุยก็บอกแม่บ้างอยู่แล้วนะครับ แต่อยากบอกให้แม่รู้ไว้ว่ารักแม่แล้วก็รู้สึกว่า หลายๆ อย่างในชีวิตก็ยอมเสียสละให้ได้เพื่อแม่ครับผม 

ฝากถึงคนรุ่นเราที่กำลังดูแลคุณแม่

รักแม่ให้มากๆ นะครับ แม่ก็เป็นไม่กี่คนในชีวิตที่จะแบบว่ามีความผูกพันและความรู้สึกแบบนี้กับเรา จริงๆ แล้วมันก็จะมีบางเวลาที่เรามองข้ามไปบ้าง แต่ว่าสุดท้ายแบบวันที่เราพลาดไปจริงๆ หลายคนที่มีแม่ที่เรามองข้าม ได้เห็นว่าเขาจะอยู่กับเรายังไง ในวันที่แย่แม่ก็จะเป็นคนที่ฮีลเราจริงๆ ครับ