คุยกับ AYLA's กับเพลงฮิตที่เริ่มจากการถูก "ไล่ออก" และการไม่อยากถูกมองเป็น "ศิลปิน"
ท่ามกลางวงดนตรีที่แจ้งเกิดช่วงนี้ AYLA’s ที่เริ่มด้วยกลุ่มเพื่อนอย่างที่ เปอร์ (ร้องนำ), ออฟ (กีตาร์), เน (กีตาร์), ออย (เบส) และ ไนท์ (กลอง) เริ่มกลายเป็นที่จับตาจากผลงานเพลง “วิ่งออกไปด้วยความไวสองมัค” ก่อนตามด้วย “จากตรงนี้ที่(เคย)สวยงาม” ที่ฮิตสุดๆ และทำให้ ณ เวลาหนึ่งพวกเขามีงานโชว์แน่นสุดๆ
จากความฮอตที่ผ่านมาทำให้พวกเราอยากรู้จักพวกเขามากขึ้น ถึงการทำงานและบุคลิกในวันที่อยู่ภายใต้ Wayfer Records และ Warner Music รวมถึงมุมมองในวันที่หลายคนรู้จักเพลงพวกเขา แต่อาจจะยังไม่รู้จักตัวตนของเมมเบอร์ในเวลานี้ และเป้าหมายในการเป็น "เพื่อน" คนฟัง มากกว่าศิลปิน
AYLA's มีจุดเริ่มต้นอย่างไร
เน : พวกเราเป็นเพื่อนในมหาวิทยาลัยเดียวกันครับ อยู่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รู้จักผ่านการอยู่วงดนตรีมหาวิทยาลัย ก็รู้จักผ่านการที่รุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยอยากได้วงดนตรีเพิ่มครับ ก็เลยรู้จักรุ่นน้องพวกนี้ก็รวมตัวไปเล่นร้าน ตอนแรกมี 4 คนไม่มีเปอร์ร้องนำ
ออฟ : เราเป็นวงที่เล่นงานกลางคืนมาก่อน ตอนนั้นก็ใช้ชื่อสเปะสปะมากครับ พอถึงวันปล่อยเพลง ก็มีชื่อเพลงแล้ว แต่ไม่มีชื่อวง แต่ละคนก็เสนอชื่อวงมา ผมไปเลื่อน Facebook พวกชื่อมงคลแล้วเจอ AYLA ก็เคาะออกมาเลย
ทำไมเราถึงมาทำเพลงของตัวเองได้
เปอร์ : พวกเราก็เล่นร้านกลางคืนครับ ก็เล่นดีจนเจ้าของร้านไล่ออก (หัวเราะ) ตอนนั้นก็เคว้งคว้าง ก็ประจวบเหมาะกับที่รุ่นพี่ที่เมาแล้วพูดว่า “เคยเจอคนที่วิ่งเร็วด้วยความไวสองมัค หรือเปล่า” แล้วก็วิ่งไปเลย ก็เป็นจุดเริ่มต้นเพลงแรก “วิ่งออกไปด้วยความไวสองมัค” ตอนนั้นเราไม่ได้เล่นกลางคืนแล้ว ก็หยิบมาเล่นกับวง ผมก็นำมาเขียนและเป็นซิงเกิลแรกของวง
เรานิยามแนวดนตรีอย่างไร
เน : เป็นอัลเทอร์เนทีฟป็อปร็อคครับ อาจจะเป็นผสมเพลงแรกๆ เป็นซิตี้ป็อป แต่เอกลักษณ์อาจเป็นเสียงร้อง
เปอร์ : อาจจะเป็นเนื้อหาด้วยเพราะวงเรามากับเนื้อหาใกล้ตัว ชีวิตของเราอยู่แล้ว และเป็นเพลงเศร้าส่วนใหญ่ คนก็ติดภาพตรงนั้นครับ
หลายคนชอบบอกว่า AYLA's เป็นวงชื่อเพลงยาว อันนี้เป็นความตั้งใจหรือเปล่า
ออฟ : เราไม่ได้คิดว่าจะเป็นกิมมิกครับว่ามาเพลงแรกแล้วจะยาว เพลงสองมาก็ยาว เพลงสามพอเข้าค่าย Wayfer records ค่ายก็อยากให้เก็บไว้ พอมาเพลงสามมันก็จริงจังขึ้น ก็เริ่มตันเรื่องชื่อ แต่ไปๆ มาๆ ก็ยาวเหมือนเดิมครับ
การอยู่กับ Warner Music ทางค่ายดูแลซัพพอร์ตเรามุมไหนบ้าง
เน : เขาถามว่าสนใจลองงานกับ Warner ไหม ช่วงแรกเป็นการคุยไดเร็คชั่นค่ายเป็นงี้ วงเป็นงี้ พอลองคุยกันก็มาอยู่ในค่าย ก็ดีเพราะเราไม่เคยมองอะไรในภาพรวมเลย ก็ได้ค่ายมาจัดการ ไดเร็คชั่นปีนี้ทำอย่างไร ภาพลักษณ์อยากให้คนมองเราเป็นอย่างไร แต่การทำงานเขาให้อิสระเต็มที่เลย อะไรไม่โอเคก็พูดได้ เขาก็ฟัง ก็ช่วยได้มากครับ
เพลง “เปลี่ยนไปแต่เหมือนเดิม (Changed)” มีที่มาอย่างไร
เน : มันมีเดโม่มาแล้ว แต่ละเพลงเราไม่เคยมีคอนเซ็ปต์มาก่อนเลย ส่วนมากจะเป็นเปอร์แต่งแล้วมาขมวดปมเอา ผมก็ไปเจอซีนหนัง 500 Days of Summer ที่พระเอกชอบรอยยิ้มของนางเอก แต่พอเวลาเลิกราไป ทุกสิ่งที่ชอบก็กลายเป็นเกลียด ก็เป็นคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจก็ให้เปอร์แต่งเนื้อและเพื่อนๆ ทำพาร์ทดนตรีต่ออะไรอย่างงี้
การทำงานต่างจากซิงเกิลที่ผ่านมาอย่างไร
เปอร์ : การทำงานเราไม่เคยมีหัวคอนเซ็ปต์ใหญ่ ผมว่ามันก็ชัดเจนขึ้น ตอนเราอาจจะไม่มีจุดหมายให้มัน อาจจะออกจากเป้าหมายได้มาก พอมีคอนเซ็ปต์ก็อยู่ในเรื่องได้มากขึ้น จะเสริมอะไรก็ง่าย ให้เรื่องเหมือนตอนเขาเกลียดกันมาก แต่จริงๆ เขาทำเหมือนเกลียดให้มีมิติมากขึ้น
ความสำเร็จของเพลง “จากตรงนี้ที่(เคย)สวยงาม” ทำให้เรากดดันไหม
ออย : ตอนทำเพลงนั้นเราไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรมากครับ เราแค่ชอบอย่างเดียว พอเพลงประสบความสำเร็จ เราไม่ได้คาดหวังว่าจะดังเหมือนเพลงที่แล้ว เราแค่ต้องการกลิ่นใหม่มากกว่าครับ
ไนท์ : เราอยากมีเพลงที่จังหวะโยกๆ ตอนเล่นสด เป็นเหตุผลที่เพลงนี้เกิดขึ้นมา พอเป็นซาวด์ใหม่เราก็กังวล แต่พอปล่อยออกไปก็เกินคาดเลยครับ จริงๆ เรามีกฎว่าอย่ากระโตกกระตาก
เน : เราจะไม่โพสต์ในกลุ่มเรื่องยอดวิวกันครับ ถ้าทำเดโม่มาห้ามบอกว่าเพลงนี้มาแน่ มันจะเป็นเคล็ด
ออฟ : วงเราจะไม่กดดันจากยอดวิว แต่จะเป็นสิ่งที่เราชอบ และสิ่งที่คนฟังชอบ เราไม่ได้กดดันจากยอดวิวที่เยอะครับ
ตอนนี้หลายศิลปินที่มีเพลงดัง มักเจอมุมที่คนรู้จักเพลงมากกว่าตัวศิลปิน เราคิดอย่างไรกับมุมนี้
เปอร์ : ผมว่ามันโอเคนะครับ เหมือนเขาอาจจะทำงานแล้วเพลงมันรันเข้ามา เขาอาจจะไม่ได้ฟังเพลงหรือตามวงอยู่แล้ว เหมือนแฟนเพลงอาจรู้จักเราแต่แรก ก็อาจเป็นข้อดีที่ไปไหนมีเวลาส่วนตัวครับ
การที่เรามีเพลงฮิต ทำให้เราน่าจะได้ออกไปทัวร์มากขึ้น เรามีแนวคิดในการโชว์อย่างไร
ออย : การเตรียมงานเราจะคุยเพลงกันก่อน และเตรียมโชว์ว่าจะเล่นมู้ดอย่างไร พาร์ทโชว์อย่างไร มีการซ้อมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
เน : ตอนแรกเราไม่ได้ซีเรียสเรื่องอุปกรณ์ แต่พอทำโชว์ก็ต้องอัปเกรดอุปกรณ์ไปเรื่อยๆ เตรียมตัวมากขึ้น เรื่องการเตรียมตัวแต่ละคนต้องทำการบ้าน ก่อนเล่นต้องสมาธิมากขึ้น
เปอร์ : ตอนนี้รับเรื่อยๆ ไม่มีลิมิต เคยรับกัน 18 งานก็ป่วยกันครับ ก็ยังยินดีรับงานเรื่อยๆ ครับ จ้างได้ครับ (หัวเราะ)
มีเหตุการณ์ไหนบนเวทีที่เราจดจำ หรือเคยเจอเหตุการณ์แปลกๆ แบบพี่ๆ ในวงการไหม
เน : เคยเจอแปลกๆ แบบเขียนใส่กระดาษมาว่า แฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้หน่อย ถ้าเป็นวงเฮ้าส์แบนด์เขาจะเล่นได้ แต่เราไม่เคยเล่น ก็ได้แค่แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะครับ ถ้าแปลกมากๆ จะไม่ค่อยมี จะเป็นเหตุการณ์หลังจากขึ้นเวทีคึอเขาเมาครับ ก็เคยเจอร้านเล็กๆ และเขานั่งข้างๆ ชวนคุยตลอดพี่เป็นยังไงบ้าง เมื่อวานขอนแก่นเป็นอย่างไร ก็คุยกับเขาสนุกดี
ออฟ : เคยเจอเขายกพัดลมมาให้ครับ คือเล่นอยู่แล้วมีเงาตะคุ่มๆ ข้างหลังแล้วก็เย็นหลังเลย หันไปข้างๆ ก็เจอเขา “เปิดให้แล้วนะครับ”
ออย : เคยเจอเขายืมปลั๊กบนเวทีครับ
เปอร์ : ช่วงนี้โชว์หลักๆ จะภาคเหนือ ภาคอีสานจะเยอะมากครับ ภาคใต้ไม่ค่อยมีครับ
ก้าวต่อไปของวงหลังจากนี้คืออะไร
เน : ก็ทำไปเรื่อยๆ ครับ เพราะเราเป็นเพื่อนกันที่ไม่ได้มีเป้าว่าอยากเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่ รู้สึกว่าเราคือกลุ่มคนที่ชอบการทำเพลง และทำเพลงไปเรื่อยๆ อยากให้พวกเราได้ออกไปเจอทุกคนผ่านเสียงดนตรี เราชอบอะไรก็ปล่อยครับ
ออฟ : เหมือนเราเรียนจบก็ทำงาน เราก็ทำงาน งานหลักคือการทำเพลงครับ
แล้ว AYLA's อยากถูกจดจำอย่างไรในฐานะศิลปิน
เปอร์ : อย่ามองว่าเราคือศิลปิน อยากให้มองเราเป็นเพื่อนที่ทำเพลงให้เพื่อนฟัง เรามีวงที่เราชอบเหมือนกัน ไม่อยากให้มองว่า “เฮ้ย คนนั้นเป็นศิลปิน” อยากให้มองเราเป็นเพื่อน เจอที่ไหนก็ทักได้ครับ เราเฟรนด์ลี่มากๆ ครับ
Photo : Thanapol W.
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ