เอ็ม อรรถพล คัมแบ็กในรอบหลายปี ปล่อยเพลง "พิสูจน์แล้วว่ามีจริง" ฉีกภาพหนุ่มร็อค
หลังจากห่างหายไปนานกว่า 4 ปี กับการทำงานร่วมกับค่าย Khaosan Entertainment ในโปรเจกต์ "ขอบคุณที่กลับมา" สำหรับนักร้องหนุ่มเสียงดี เอ็ม อรรถพล เจ้าของเพลงซิงเกิล “โคตรเพราะ” ยอดวิวทะลุหลัก 17 ล้านวิว ล่าสุดเอ็มกลับมาทำงานเพลงกับบ้านหลังเดิมอีกครั้ง ภายใต้ค่าย Khaosan Play ปล่อยซิงเกิล 2 เอาใจแฟนเพลงให้หายคิดถึง เพลง "พิสูจน์แล้วว่ามีจริง" แนวป็อปวาไรตี้ เพลงที่จะเปลี่ยนมุมมองความรักของคนที่ไม่ใช่เชื่อว่ารักแท้มีอยู่จริง
เอ็ม อรรถพล เล่าถึงเพลง "พิสูจน์แล้วว่ามีจริง" ว่า "พิสูจน์แล้วว่ามีจริง เป็นป็อปวาไรตี้ ด้วยอายุของผมด้วยแนวเพลงที่ฟังในปัจจุบันก็เปลี่ยนไป แต่ก่อนเพลงผมจะเป็นเพลงป็อปร็อคพอถึงเวลานี้ก็อยากทำเพลงที่เป็นเพลงแนวสมหวังบ้าง มีความสุขบ้าง เล่น ร้องแล้วรู้สึกแฮปปี้ เพราะที่ผ่านมาเวลาคนนึกถึงผม จะคิดถึงแต่เพลงที่อกหัก เสียใจ และเป็นเพลงเศร้าๆ ซะส่วนมาก ซึ่งก็เลยอยากเปลี่ยนแนว แต่จริงๆ ผมก็มีเพลงแนวที่แฮปปี้นะครับ แต่ไม่ได้ถูกหยิบมาโปรโมท เพราะเพลงแนวช้าเสียใจมันทำงานได้ดีกว่า ในเพลงนี้ผมมีมุมมองความรักที่เปลี่ยนไป ในช่วงอายุต่างๆกันก็จะมีมุมมองความรักที่ต่างกัน ช่วงวัยรุ่น เราอกหักเสียใจก็จะผิดหวังกับมันเยอะ พอเราโตขึ้นมาเราเสียใจไป สุดท้ายเราก็ต้องเดินต่อไปให้ได้ ในวันนึงเราอาจจะผิดหวังเสียใจกับความรักมาเยอะจนไม่เชื่อและเสียใจกับความรัก พอได้เจอคนที่เค้าทำให้เรารักและรู้สึกว่าความรักที่แท้จริงมันยังมีอยู่ เราก็เริ่มเปลี่ยนมุมมองไป กับคนที่ใช่ในเวลานั้น เวลาผมทำเพลงผมจะหา Reference และจะเลือกว่าจะทำดนตรีแบบไหน แนวไหน ซึ่งมันอยู่ ณ ช่วงเวลานั้นว่า เวลานั้นเรารู้สึกอย่างไร ว่าผมรู้สึกอย่างไร และอยากถ่ายทอดอะไร ในความเป็นตัวของตัวเรา และในช่วงเวลานั้น เราก็คิดว่าต้องมีคนที่คิดแบบเรา
และเอ็มได้เผยเกี่ยวกับพาร์ทเอ็มวีว่า "ซึ่งเนื้อหาใน MV เราก็เน้นความรักในมุมมองแต่ละช่วงอายุ สื่อไปถึงว่า ในมุมของอายุเด็กๆก็จะเป็น Poppy Love โตมาอีกนิดก็จะเป็นความรักในมุมคนทำงาน หรือความรักแบบ LGBT ไม่กำหนดว่าจะเป็นความรักแบบผู้ชาย ผู้หญิง ในมุมมองของผมเองเชื่อว่านะครับว่ารักแท้มีอยู่จริง ตัวผมเองอาจจะก้ำกึ่ง รู้สึกว่าไม่ได้มีรักแท้จริงๆ 100% ความรู้สึกรักเมื่อก่อนกับตอนนี้มันต่างกัน เมื่อก่อน มันจะเอนเอียงไปทางตัวเอง แต่ปัจจุบันความรักมันแบ่งกันคนละครึ่ง คือแชร์กัน รักตัวเอง และรักคนที่อยู่ที่ข้างเรา แค่ปรับเปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิต บางคนอาจจะไม่เคยเจอและอาจจะไม่เคยเชื่อเลยแต่พอมาเจอแล้วได้สัมผัสจริง มันเหมือน "พิสูจน์แล้วว่ามีจริง" พูดถึงคนที่ไม่เคยเชื่ออะไรมาก่อนในชีวิต เหมือนคนไม่เคยเชื่อมันเลย วันนึงมาเจอจริงก็เป็นเรื่องที่ทำให้เราได้สัมผัสได้มองเห็นและมีความสุขกับมัน"
ในท้ายที่สุดเอ็มได้ทิ้งท้ายว่า "การทำงานกับค่ายข้าวสารเพลย์ เป็นการทำงานที่เราสบายใจมาก เพราะเราได้ทำงานแบบที่เราต้องการ เปิดให้เราออกไอเดียตามที่เราต้องการ ผมได้เลือกโปรดิวเซอร์เอง ได้เลือกว่าใครจะเป็นคนทำดนตรี ตั้งต้น Concept เกี่ยวกับเรื่องอะไร ดนตรีจะไปในแนวไหน เพลง "พิสูจน์แล้วว่ามีจริง" เราก็มีความคาดหวัง แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องประสบความสำเร็จแบบ 100 ล้านวิว แค่เราอยากให้คนฟังหรือแฟนเพลงเรา ได้มีโอกาสได้ฟังเพลงนี้แล้วชอบ ก็ขอฝากผลงานเพลงของผมด้วยนะครับ และติดตามทุกๆ ช่องทางโซเชียลของ KhaosanPlay ด้วยครับ”