คุยกับ "โจอี้-ลุลา" ในวันที่ร่วมงานกัน แม้ชีวิตจะอยู่บนจุดที่ตรงข้ามกันสุดขั้ว!

เป็นผลงานปิดท้ายโปรเจกต์  PLERN ORIGINAL : HEY! สำหรับเพลง "ฮักได้บ่" ของ โจอี้-ภูวศิษฐ์ อนันต์พรสิริ และ ลุลา-กันยารัตน์ ติยะพรไชย ซึ่งทั้งสองได้ทำเพลงสุดกวน และฉีกภาพคุ้นเคยของแฟนๆ 

แต่นอกจากการออกมาจากคอมฟอร์ตโซนในการทำเพลงแล้ว การร่วมงานของโจอี้กับลุลา ก็น่าสนใจมาก ด้วยความที่โจอี้เพิ่งเสร็จอัลบั้มแรก และกำลังทัวร์ต่อเนื่อง ขณะที่ตัวของลุลากำลังกลับมาทำอัลบั้ม หลังจากหยุดไปเมื่อ โตน-จักรธร ขจรไชยกูล สมาชิกวง Sofa โปรดิวเซอร์คู่บุญ ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ พร้อมทั้งกลับมาทัวร์ จนทาง Sanook ต้องขอคุยกับทั้งสองเรื่องเพลงและการทำงานในปัจจุบัน 

เพลง “ฮักได้บ่” มีที่มาอย่างไร

ลุลา : ก็มีโปรเจกต์ชื่อ PLERN ORIGINAL : HEY! ก็มาชวนเราทำ เราก็มีไอเดียเพลงเก็บไว้ ก็สนิทกับโปรดิวเซอร์เขาคุณ แบงค์ (รัฐวิชญ์ อนันต์พรสิริ) เพราะเป็นวงเก่าของคุณ ป๊อบ (ปองกูล สืบซึ้ง) เป็นเพื่อนกันมา 10 ปี ก็อยากทำเพลงกลับด้าน จากดอกฟ้าหมาวัด เป็นสาวชาวกรุงไปหลงรักหนุ่มบ้านนา ก็เลยบอกว่าชวนโจอี้มาร้องและเปลี่ยน เช่นให้โจอี้สอนภาษาอีสาน แล้วเราสอนภาษาอังกฤษ ก็คือ “ฮักได้บ่” เป็นสัญลักษณ์จีบใครก็ได้ ฟังครั้งเดียวจำได้เลย เอาไปเต๊าะใครไหนก็ได้ เพศไหนก็ได้ ด้วยความที่เราคิดเยอะ แต่เพลงไม่อยากให้คิดอะไรเลย ก็อยากทำให้ต้องปรับตัว เพราะเพลงมันป็อปมาก เออ แต่ก็ยังใส่หางความเป็นลูกทุ่ง สำเนียงอีสาน แต่ดนตรีไม่มีความโจอี้เลย ลบหมดค่ะ

โจอี้ : มันยากตอนร้อง เพราะเราต้องร้องให้เท่ากัน แนวเพลงด้วยครับ ต้องให้มันน่ารักอะไรแบบนี้ เพราะปกติผมร้องจริงจัง อารมณ์ดราม่าหน่อย เราต้องเปลี่ยนอารมณ์มาจีบสาวนิดนึง ไม่มีอะไรยากครับ 

ลุลา : ในห้องอัดมีแบงค์ มีโจอี้ มีลุลา เหมือนไม่ได้ทำเพลงค่ะ ยิงมุกกันอย่างเดียว ลองให้มันแว้นขึ้นดิ เป็นสาวลิ้นเปลี้ย ขำๆ สนุกมากค่ะ 

จาก “เดือนชนเดือน” มา  “ฮักได้บ่” มันท้าทายอย่างไร 

โจอี้ : อันนั้นมันจะทะเล้นๆ หน่อย อันนี้เหมือนเอาตัวเองไปอยู่ในเพลงมากกว่า จินตนาการว่าเราชอบสาวคนหนึ่งเหมือนกัน เขาก็เหมือนมาจีบเรา แต่เราก็ชอบเขาอยู่ แล้วก็จะร้องออกมา มันจะมีอ้อนๆ หน่อย 

มีบางคนที่มองว่าเพลงนี้ หวานเหมือนชีวิตจริง ของ โจอี้-ลุลา คิดอย่างไรกับประเด็นนี้ 

โจอี้ : ความรักมันคู่กับการทำงานอยู่แล้ว การทำเพลงมันทำให้มีสีสันขึ้น ก็เอาไปจีบสาวได้ครับ 

ลุลา : ตอบแบบไม่ตอบ (หัวเราะ) คือมันเป็นคนที่เข้าใจความรักอยู่แล้ว เราไม่ได้เอาชีวิตจริงมาใช้ในการทำเพลง แต่เพลงนี้มันออกแนวกวนมากกว่า ไม่ได้ร้องแล้วนึกถึงแฟน ร้องให้กวนที่สุดแบบ “ฉันเป็นคนสวย” อะไรอย่างงี้ ก็เลยว่าถ้าเราเป็นขี้เล่นก็ร้องได้หมดไม่ต้องมีความรักก็ได้ 

โจอี้ : เหมือนเรานึกถึงสาว ในเพลงนี้ผมก็จินตนาการนึกถึงสาวคนหนึ่งครับ 

ลุลา : ความรักอาจเอาไว้ใช้เพลงอื่น เพลงนี้ใช้ความกวนค่ะ (หัวเราะ)

ได้ยินว่าพี่ลุลา จะกลับมาทัวร์ด้วย ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง 

ลุลา : มันจะมีช่วงเดือนที่แล้วที่เราทำเพลงต่อๆ กัน เพราะเราไม่ได้ทำ 1 เพลง 3 เดือนแล้ว บางทีเดือนนี้ปล่อยเพลง เดือนหน้าปล่อยเพลง อยากปล่อยเลย 

ส่วนโจอี้ดูแลตัวเองหลังทัวร์ต่อเนื่องอย่าง หลังจากเหตุการณ์หน้าเวทีที่เป็นข่าวโจอี้มีวิธีป้องกันตัวเองเพิ่มไหม 

โจอี้ : ทุกวันนี้ให้ความปลอดภัย มีไหวพริบมากขึ้น ทางร้านก็ดูแลมากขึ้น ส่วนการทัวร์ก็ปกติ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็เดินทางต่างจังหวัด ไปแจมคอนเสิร์ตประปราย แล้วก็ประมาณนี้ครับ วันพักผ่อนก็เตะบอลและเล่นเกม เป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด ส่วนเสียงผมไม่มีปัญหาเรื่องเสียงพัง ส่วนมากจะมีแค่นอนดึก แต่เราจะไม่แตะแอลกอฮลล์ ตื่นมาก็ไม่มีอาการแสบคออะไรแบบนี้ ผมไม่มีปัญหาเรื่องเสียงเพราะเตะบอลด้วย ออกกำลัง ก็จะมีกรดไหลย้อนเพราะกินดึก กินเก่งด้วยครับ หอบหืดครับ 

ตอนนี้โจอี้ได้ปิดอัลบั้ม Moonไรซิ่ง ไป การทำงานเป็นอย่างไรบ้างหลังจากนี้

โจอี้ : แบบว่าเป็นอัลบั้มแรกที่ติดหูอยู่บ้าง ก็รู้สึกเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการอยู่ในวงการเพลง ก็มันก็มีฟีทเจอริ่งประปราย ก็เป็นสีสันที่คนไม่ได้เห็นในอัลบั้มโจอี้ ก็มาดูว่าเราร้องเพลงน่ารักๆ มันจะเป็นอย่างไรครับ ผมก็เริ่มอยากพูดถึงเพลงน่ารักเหมือนกัน ก็อาจจะเอาฟีลจากเพลง “ฮักได้บ่” ไปร้องเพลงต่อไป เพราะคนอาจจะอยากเห็นโจอี้มีเพลงน่ารักๆ ก็คิดไว้แพลนไว้ครับ 

แล้วของลุลา หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เพราะ 2 ซิงเกิลก่อนหน้าไม่เหมือนกันเลย

ลุลา : พอดีไม่ได้คิดการทำงานเป็นอัลบั้ม ยอมรับว่าไม่อยากทำอัลบั้มมาหลายปี เพราะยังไม่สามารถหาโปรดิวเซอร์ได้ หลังพระไปบวช ก็จากอกหักที่เขาไม่อยู่ ก็เสียศูนย์ไปหลายปี เพราะไม่เจอโปรดิวเซอร์ที่ทำงานด้วยได้ พอปีนี้ก็มีคำถาม “เมื่อไหร่จะทำเพลง” ก็ทำออกมาแบบสุดโต่ง ทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อแฟนเพลง อยากทำอะไรก็ทำ

ได้ยินว่าตอนนี้เราได้เจอโปรดิวเซอร์ที่ร่วมงานแล้วเคมีตรงกัน เล่าถึงการทำงานหน่อย

ลุลา : พอมาทำอัลบั้มใหม่ก็เจอโปรดิวเซอร์คนใหม่ที่แฮปปี้ก็ลงหลักปักฐานกับคุณเจนพัฒน์ (เจน-เจนพัฒน์ มนตรีเลิศรัศมี จาก Mad Puppet Studio) เขาทำมาทั้งชายและหญิง เขาเป็นโปรดิวเซอร์ที่อายุไม่ถึง 30 ที่มีความเป็นผู้ใหญ่ เข้าใจคอนเทนต์ที่โตเพราะเขาแต่งงานมีลูกแล้ว เขาดูชอบสิ่งที่เราเป็น และเปิดกว้าง เพราะลุลามีคนแต่งเพลงให้ แต่มันก็มาจากตัวเรา มันต้องเกิดจากการประชุม ไม่ใช่เอาเพลงมา เดี๋ยวชั้นร้อง ไม่ใช่ ก็เลยเปิดใจที่จะเริ่มทำอัลบั้ม

แล้วตอนนี้เราจะได้เห็นอะไรจากลุลา หลังพร้อมทำอัลบั้มชุดใหม่

ลุลา : ปีนี้มี 2 เพลงแน่ๆ ปีหน้ามีเพลงที่ 3 ปีหน้าจะมีแฟนคลับมีตติ้ง ไม่อยากจัดคอนเสิร์ตใหญ่เพราะอยากเรียกแฟนคลับที่อยู่ด้วยกันกลับมาค่ะ เรารู้สึกว่าอยากทำอะไรที่เป็นตัวเรา เพราะที่ผ่านมาทำให้แฟนคลับ ก็อยากกลับมาทำแฟนคลับมีตติ้ง เพราะมีเพลงที่เขาอยากฟัง แต่ต้องเป็นที่ที่เหมาะสม คอนเสิร์ตทั่วไปอาจจะเยอะ เรามีชอบหลายเพลง แต่ถ้าเป็นยุคที่ฟังซีดีก็จะยาก และเราไม่ได้ไล่ลงเพลงเก่าๆ เคยทำลิสต์เพลงคอนเสิร์ตแล้วเรามี 150 เพลงแล้ว แต่บางเพลงไม่ได้ร้อง ก็อยากจัดมีตติ้งให้เขาขอเพลงมา และเราจะร้องแต่เพลงที่เขาขอ เป็นเพลงของลุลาเท่านั้น เพราะจะได้ร้องเพลงเก่าๆ ที่ไม่ได้ฟัง ก็จะมีพี่ที่ช่วยชุดแรกๆ มาด้วย ก็ว่าอยากได้พี่ กั้ง (อดิศักดิ์ หัตถกุลโกวิท) และพี่ มาตร-มาตรชัย มะกรูดทอง Groove Riders เป็นรุ่นเก่าๆ ที่เขาช่วยยุคแรกๆ มาเล่นเพลงบอสซาโนว่าค่ะ 

Photo : Ditsapong K.