รีวิวคอนเสิร์ตเดี่ยว แทยอน Girls’Generation พลังโวคอลที่ทะลุความคาดหมาย

รีวิวคอนเสิร์ตเดี่ยวของแทยอน Girls’Generation มากกว่าคำว่าเกินความคาดหวังแบบทะลุหลังคาอิมแพ็กอารีน่าไปเลย

ปรากฏการณ์ศิลปิน K-POP หญิงเดี่ยวที่ขายบัตรคอนเสิร์ตเต็มความจุทุกที่นั่งใน Impact Arena ได้หมดทั้ง 2 วัน บัตรจำหน่ายไปกว่า 18,000 ใบ ไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วย เพราะการันตีได้จากคุณภาพศิลปินที่มาพร้อมแท็กไลน์ “โวคอลควีนที่ไว้ใจได้” เพราะยิ่งกว่าไว้ใจได้ แต่เกินความคาดหมายไปมากๆ ชนิดที่ทะลุหลังคาฮอลล์อิมแพ็กฯ ได้เลย

คอนเสิร์ต TAEYEON CONCERT - The ODD Of LOVE in BANGKOK จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 (เวลา 18.00 น.) และวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม 2566 (เวลา 16.00 น.) ณ อิมแพ็ก อารีน่า เมืองทองธานี แทยอนปรากฏตัวด้วยชุดเดรสสีดำยาวสวยงามพร้อมกับเพลง “INVU” ที่ครั้งนี้เธอเพียงยืนร้องนิ่งๆ ไม่ได้เต้นเหมือนตอนแสดงบนเวทีในรายการเพลง แต่แค่ยืนร้องนิ่งๆ ก็ทรงพลังราวกับควีนแทยอนประทับร่างของจริง เสียงร้องของแทยอนใสแต่ทรงพลังและมั่นคงหนักแน่น สมฉายาจริงๆ

หลังจบเพลงที่เต็มไปด้วยอารมณ์อีกเพลงอย่าง “Can't Control Myself” ภายใต้ชุดเดรสดำมีชุดสีขาวซ่อนอยู่ แทยอนพาเหล่าแดนเซอร์เคลื่อนตัวมายังเวทีกลางที่ยื่นเข้าไปหาคนดู พร้อมกับวาดลวดลายเต้น “그런 밤 (Some Nights)”, “Set Myself On Fire” และยังกลับมาโชว์พลังเสียงได้สะกดใจคนดูได้ทั้งฮอลล์กันต่อใน “Siren”, “Cold As Hell”, “품 (Heart)” และ “어른아이 (Toddler)”

ใครว่าคอนเสิร์ตของโวคอลควีนจะมีแต่เพลงช้า แทยอน จัดหนักช่วงที่ 2 ด้วยเพลงสนุกชวนเต้นกันตลอดทั้งช่วงด้วยเพลงน่ารักๆ “Weekend”, “No Love Again”, “You Better Not” และ “스트레스 (Stress)” แฟนๆ ปลดปล่อยความเครียดไปกับโชว์ของแทยอนอย่างสนุกสนาน

โดยรวมแล้ว ที่เกินคาดไปมาก นอกจากพลังเสียงร้องสดของแทยอนที่ใสกิ๊งแต่ทรงพลังและมั่นคงในแบบที่ฟังแล้วยิ่งกว่าถอดซีดีออกมาแล้ว เพลงในโชว์ก็ไม่ได้เต็มไปด้วยเพลงช้าที่เอาแต่แผดเสียงให้ฟังรัวๆ ขนาดนั้น เพลงของแทยอนยังคงความเป็นไอดอลที่มีทั้งเพลงช้าแบบดีว่าตัวแม่ เพลงจังหวะกลาง เพลงจังหวะสนุกๆ และเพลงจังหวะเร็วที่ฟังสนุกเหมือนเพลงไอดอลทั่วไป เซ็ตลิสต์กลมกล่อมพอดิบพอดีไม่ทำให้บางช่วงของโชว์น่าเบื่ออย่างที่แอบคิดไว้ในตอนแรก 

เพลงที่ไม่ได้โชว์ไฮโน้ตอะไรมากนักอย่าง “What Do I Call You”, “Playlist”, “To the moon” ก็ถือว่าได้พักหูไปกับเพลงอารมณ์เย็นๆ นุ่มๆ ก่อนจะกลับมาร้อนแรงแผดเผาอีกครั้งด้วย “들불 (Wildfire)” และพาดิ่งไปกับท่วงทำนองกันนุ่มนวลแต่บาดลึกด้วย “월식 (My Tragedy)”, “Better Babe” และ “사계 (Four Seasons)” เพลงฮิตที่ใครๆ ก็รอคอยมี่จะได้ฟังกันสดๆ ก่อนจะจบโชว์ด้วยเพลงฮิตที่สะกดคนดูได้อยู่หมัด เงียบสงัดเงี่ยหูฟังแทยอนร้องทุกคำอย่างตั้งใจใน “Timeless”, “Fine”, “I” และ “Time Lapse” และจบคอนเสิร์ตอันน่าประทับใจในช่วงอังกอร์ด้วย “불티 (Spark)” และ “Ending Credits” พร้อมเอนดิ้งเครดิตของเหล่าทีมงานบนหน้าจอ เพื่อเป็นสัญญาณการปิดฉากคอนเสิร์ตสุดเพอร์เฟ็กต์ของโวคอลควีนแทยอนที่สมการรอคอย

นอกจากการแสดงที่เตรียมมาอย่างดีของฝั่งศิลปินและทีมงานแล้ว แฟนโปรเจกต์ของแฟนๆ ชาว SONE ในไทยก็น่ารักน่าชังและน่าประทับใจสุดๆ ทั้งกระดาษคาดหัวรูป Zero สุนัขสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของแทยอน และรูปดอกเดซี่ ดอกไม้สุดโปรดของแทยอน รวมถึงป้ายกระดาษเรียงอักษร “TY4EVA (แทยอนตลอดไป)” และ “태연국 (ประเทศของแทยอน)” และการร้องเพลงไปพร้อมกันทั้งฮอลล์ช่วงก่อนอังกอร์ในเพลง “Into The New World” และ “You Are” เรียกได้ว่าแฟนๆ ประเทศอื่นที่เล่นต่อจากประเทศไทยต้องกุมขมับแล้ว

นอกจากเซ็ตลิสต์ของเพลงแล้ว โปรดักชั่นในคอนเสิร์ตเป็นสิ่งที่ต้องพูดถึงอย่างมาก ไม่บ่อยนักที่ค่าย SM Entertainment จะจัดวงแบ็กอัพนักดนตรีสดมาเล่นให้บนเวที พร้อมเวที LED บนพื้นที่กราฟิกสวยงามตามอารมณ์และจังหวะของเพลง ไฟเลเซอร์สวยจดจ้าน เสริมให้โชว์ในแต่ละเพลงทรงพลังน่ามองไปพร้อมๆ กับดนตรีและเสียงร้องอันน่าฟังจากทีมนักดนตรีและศิลปิน เป็นคอนเสิร์ตที่เพลินทั้งหูทั้งตาอย่างแท้จริง

จากกระแสตอบรับอันดีเยี่ยมจนทำให้บัตรหมดเกลี้ยง และยังมีแฟนเพลงอีกหลายคนที่พลาดโอกาสที่จะได้ชมคอนเสิร์ตของแทยอนในครั้งนี้ หวังว่าในครั้งต่อไปแทยอนจะได้เล่นในสถานที่ที่ใหญ่กว่านี้ หรือได้เล่น 3 วัน เพราะเชื่อได้ว่าไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนคลับของ แทยอน หรือ Girls’ Generation หรือไม่ คุณจะหลงไหลในเสน่ห์ทางดนตรีและเสียงร้องของแทยอนได้ไม่ยากแน่นอน