lauv the between albums tour คืนของศิลปินนักรักยอดฝีมือที่คาดเดายากแต่เอาคนดูอยู่!
ท่ามกลางศิลปินอินเตอร์รุ่นใหม่ Lauv เป็นศิลปินที่นักฟังเพลงชาวไทยและทั่วโลกให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ทั้งจากผลงานอย่าง “Drugs & The Internet”, “Paris in the Rain”, “Mean It”, “I Like Me Better” และนอกจากเพลงป็อปที่มีการเรียบเรียงไม่เหมือนใครและเต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์แล้ว ตัวของ Lauv ก็มีการร่วมงานกับศิลปินแถวหน้าเยอะมาก ซึ่งการันตีชื่อเสียงได้เป็นอย่างดี
หลังจากการโขว์เปิดของ Ed Sheeran และงาน Lauv Asia Tour 2019 กับการมาเป็น Headline งาน Very Festival 2022 แฟนๆ ก็ได้พบกับ Lauv ในงาน lauv the between albums tour ที่ขายบัตรหมดอย่างรวดเร็ว ซึ่งงานนี้แฟนๆ ก็ได้ชมงานนี้ในช่วงที่ถูกไทม์มิ่งสุดๆ เพราะ Lauv เพิ่งปล่อยเพลงใหม่ “Love U Like That” ออกมาซึ่งเป็นเพลงที่ดีงามสุดๆ เลยและทำให้เราตื่นเต้นกับยุคต่อไปของ Lauv
ซึ่งงานครั้งนี้ได้เริ่มด้วยการแสดงของ Alexander 23 อีกหนึ่งดาวรุ่งที่คนไทยรู้จักกัน ซึ่งมากับเพลงอย่าง “Somebody's Nobody”, “Girl”, “Everything's Fine” พร้อมปล่อยของกับเพลง “I Don't Love You Anymore” ผลงานใหม่ที่มีลูกเล่นไม่ธรรมดา ก่อนตามด้วยเพลงปิดท้าย “IDK You Yet” ที่ส่งให้คนดูพักเพื่อรอ Lauv โดย Alexander 23 ได้พูดคุยกับแฟนๆ และร้องพร้อมเล่นกีตาร์กับเพลงตัวเองได้เอาอยู่สุดๆ จนเรามองว่าอีกไหมนานเขาจะก้าวจากการโชวื์เปิดสู่การเป็นศิลปินหลักในงานตัวเองในวันที่เหมาะสม
โดยหลังจาก VTR ชวนตั้งคำถามและบอกว่าตัวของ Lauv จะมอบความสุขให้แฟนๆ ก็ถึงคิวเพลงใหม่ล่าสุดอย่าง “Love U Like That” ที่เขามากับเสียงสูงที่เพราะจนเราว้าวสุดๆ ถึงความแข็งแรงในพาร์ทร้อง ก่อนที่จะพาทุกคนกรี๊ดด้วยเพลง “Paris in the Rain” และมากับเพลงอย่าง “Paranoid”, “Chasing Fire” และมีการสลับอารมณ์ของเพลงและการพูดคุย ก่อนตามด้วย “Kids Are Born Stars” และการแชร์ประสบการณ์เรื่องการติดโซเชียลเพื่อนำเข้าสู่ “Drugs & The Internet” อีกเพลงที่หลายคนคุ้นเคย และจากนั้นก็เป็นเพลง “Lonely Eyes” ก่อนตามด้วยเพลง “Mean It” ที่เขาทำกับ LANY และมากับเพลง “fuck, i'm lonely”
จากนั้นก็เป็นเพลงสนุกๆ อย่าง “Tattoos Together”, “Summer Nights” “Molly in Mexico” ซึ่งช่วงนี้แฟนๆ ก็ได้เห็นตัวของ Lauv มาสนุกด้านหลังเวที และมีช่วงที่ขอให้แฟนๆ สนุกแบบไม่ต้องถ่ายคลิปและเต้นกับเพลงด้วย และจากนั้นก็เป็นเพลง “All 4 Nothing (I’m So In Love)”
และในช่วงท้ายก็มีการสลับมากับเพลง “Breathe” ในรูปแบบอะคูสติกเบาๆ ที่ Lauv เล่นเปียโนเอง และ “Steal the Show” จากภาพยนตร์ Elemental ก่อนจะตามมาด้วยความฟีลกู้ดในเพลง “Modern Loneliness” ที่ตัว Lauv ได้เล่นกล้องและถ่ายแฟนๆ อย่างสนุกสนาน ก่อนตามด้วยเพลง “I'm So Tired…” ที่มีการเล่นกับเครื่องทำบีท ที่ทำกับ Troye Sivan ก่อนจะมากับเพลงที่จังหวะเร้าขึ้นมาอย่าง “Who” และ “Feelings” ก่อนที่เขาจะลาจากเวที และกลับขึ้นมาอีกครั้งพร้อมเสื้อใหม่กับเพลง “Never Not” และ “I Like Me Better” ที่ร้องตามกันได้ทั้งฮอลล์ และงานได้ปิดท้ายด้วยสัญลักษณ์ Lauv = Love
งานครั้งนี้ Lauv ได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่า นอกจากตัวเพลงจะเต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์แล้ว การแสดงเขายังเต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ด้วย เพราะเราคาดเดาอะไรไม่ได้เลย ทั้งการร้อง มูฟเมนต์ การเล่นมุก การเล่นเสียงหรือการพูดคุย จนแม้คนที่รู้เซ็ทลิสต์ว่าเพลงไหนเล่นตรงไหน ก็ยังรู้สึกเซอร์ไพรส์กับสิ่งที่เกิดขึ้น และเหนือสิ่งอื่นใด ตัวของ Lauv ก็ให้พลังบวกกับแฟนๆ เยอะมาก ทั้งชมเรื่องเอเนอร์จี้และความเป็นกันเอง และนี่ยังไม่นับเรื่องฝีมือการร้องอีกที่เรามองว่าดีกว่าใน Audio อีก แถมแทบทุกเพลงมีการอิมโพรไวซ์เรียบเรียงใหม่ด้วย โดยทุกสิ่งที่ Lauv ทำ ทำให้เรามองว่าเขาเอาเวทีอยู่จริงๆ ด้วยความสามารถ ความเป็นตัวเอง
และในพาร์ทสคริปต์งานครั้งนี้ก็มีการเรียงแบบหนังและมีการพูดคุยสลับไป โดยมีการกระจายเพลงฮิตไปตลอดงาน มีพาร์ทให้แฟนๆ ได้เห็น Lauv งัดความสามารถที่คาดไม่ถึงมาให้ทุกคนได้เห็นแบบเรื่อยๆ ไม่พักจนถึงนาทีสุดท้าย และตัวของ Lauv ก็แสดงแบบต่อเนื่องจนแทบไม่มีเวลาเดดแอร์หรือเบื่อเลย แถมสคริปต์ของงานก็เปิดโอกาสให้ตัว Lauv ได้แสดงความรักส่งต่อถึงแฟนๆ ด้วย
สำหรับโปรดักชั่นงานนี้ก็มีการใช้เครื่องดนตรีและกราฟฟิคประกอบโชว์พร้อมกับแสงสีจากสปอตไลท์ที่ไม่ได้สาดแรงนัก แต่ก็ออกมาดูดีและเข้ากับโชว์ อย่างเช่นตอนที่โชว์ “Paris in the Rain” ก็มากับกราฟฟิคฝน และงานครั้งนี้พาร์ทซาวด์ก็ดี ทั้งเพลงที่สนุกสนาน กับเพลงอะคูสติก ถ้าจะมีสิ่งที่เรามองว่าเป็นปัญหาก็อาจจะเป็นเรื่องของฮอลล์ที่เป็นงานยืนแบบไม่มีสโลปที่อาจจะมีข้อจำกัดสำหรับผู้ชมที่ตัวไม่สูง
ด้วยการเติบโตในช่วงที่ผ่านมาและกระแสตอบรับของงานครั้งนี้ ทำให้เรามองว่าคอนเสิร์ตต่อไปของ Lauv นั้นต้องจัดในที่ที่ใหญ่กว่านี้ได้แล้ว เพราะตัวเขานั้นพร้อมทั้งความสามารถและเสน่ห์จริงๆ และเราเชื่อว่าคนดูก็รอไม่ไหวที่จะไปชมเขาบนเวทีอย่าง Impact Arena หรือ ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันหนึ่ง
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ