แบมแบม GOT7 พิสูจน์แล้วว่า ชีวิตกับค่ายใหม่ที่เล็กกว่า อาจจะดีกว่าเดิม
แบมแบม GOT7 เป็นศิลปิน K-POP ในไม่กี่คนที่เป็นตัวอย่างให้พวกเราเห็นว่า การเดินออกมาจากค่ายยักษ์ใหญ่ของเกาหลี เพื่อไปหาค่ายเล็กแต่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน อาจเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วก็ได้
แบมแบม เป็นหนึ่งในสมาชิกวง GOT7 ที่เข้าบริษัท JYP Entertainment เพื่อเป็นเด็กฝึกตั้งแต่อายุ 13 ปี ฝึกอยู่ 3 ปีครึ่งก่อนจะเดบิวต์เป็น GOT7 ในปี 2014 และหมดสัญญากับ JYP ในปี 2021 ด้วยระยะเวลาของสัญญาทั้งหมด 7 ปีพอดี
ในกรณีของ GOT7 สมาชิกทุกคนเลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับ JYP เลย แล้วกระจายตัวกันไปตามทางที่ถนัดและสนใจของตัวเอง บางคนไปค่ายเน้นเพลง บางคนไปค่ายเน้นการแสดง และบางคนก็ก่อตั้งบริษัทของตัวเอง สำหรับแบมแบม เขาเลือกที่จะเซ็นสัญญากับบริษัทเล็กๆ ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากมายมักในวงการ K-POP อย่าง Abyss แต่ก็เป็นบริษัทที่อุดมไปด้วยศิลปินคุณภาพคับแน่นอย่าง ซอนมี อดีตสมาชิก Wonder Girls, ซานดาร่า อดีตสมาชิก 2NE1 (เข้ามาหลังแบมแบม), พัควอน, Melomance วงอินดี้ป็อปตัวพ่อของวงการเพลงเกาหลี, Urban Zakapa วงอินดี้เกาหลีที่โด่งดังมากไม่แพ้กัน และ ชอกแจ อดีตมือกีตาร์ของไอยู ที่เป็นนักร้องนักแต่งเพลงอัจฉริยะอีกคน เป็นต้น
ทำความรู้จัก Abyss Company
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกหากก่อนหน้านี้เมื่อพูดถึงวงการ K-POP จะไม่คุ้นชื่อบริษัทนี้เท่าไร เพราะ Abyss Company จริงๆ แล้วเคยประกอบธุจกิรเกี่ยวกับ eSports มาก่อน หลังจากเข้าซื้อกิจการของ MAKEUS Entertainment ทำให้ขยายไลน์ธุรกิจออกมา และได้ศิลปินจากค่ายนั้นมาด้วย ตอนที่แบมแบมเซ็นสัญญากับบริษัทนี้ ก็เป็นช่วงที่บริษัทเริ่มต้นเดินหน้ากับธุรกิจในวงการบันเทิงพอดี
แบมแบม GOT7 กับชีวิตกับค่ายใหม่ที่เล็กกว่า อาจจะดีกว่าเดิม
เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นกับแบมแบม หลังเป็นศิลปินภายใต้สังกัด Abyss Company คร่าวๆ มีดังนี้
-
พาแบมแบมตีตลาดเกาหลีได้สำเร็จ
แบมแบม ให้สัมภาษณ์ในรายการ ถ้าหนูรับ พี่จะรักป่ะ EP. 114 ถึงเหตุผลที่เลือกเซ็นสัญญากับ Abyss เพราะเป็นบริษัทเดียวที่โทรมาตื้อหลายครั้ง และยื่นขอเสนอว่าจะช่วยแบมแบมตีตลาดเกาหลีที่แบมแบมต้องการ ไม่เหมือนเจ้าอื่นที่อยากพาแบมแบมจีตลาดต่างประเทศ โดยแบมแบมยอมรับว่าการเป็นศิลปินต่างชาติในประเทศเกาหลี เป็นเรื่องที่ยากพอสมควรในการเป็นที่ยอมรับของคนเกาหลี และเป็นเรื่องแบมแบมกังวลมาตลอด เมื่อ Abyss ยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยแบมแบมตีตลาดเกาหลี แบมแบมจึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในใจของแบมแบมมาตลอดพอดี จึงตัดสินใจเซ็นสัญญากับค่ายนี้
และ Abyss ก็ช่วยให้แบมแบมเป็นที่ยอมรับของคนเกาหลีได้มากขึ้นจริงๆ ด้วยการพาแบมแบมออกรายการวาไรตี้ชื่อดังในเกาหลีมากมาย แถมยังช่วยแบมแบมสร้างรายการวาไรตี้ใน YouTube ที่ชื่อว่า 뱀집 (บ้านของแบมแบม) มีดารานักร้องนักแสดงมาสัมภาษณ์ในรายการกับแบมแบมมากมาย และได้กระแสตอบรับค่อนข้างดีจนมีซีซั่น 2 ในเวลาอันรวดเร็ว แบมแบมยังเอ่ยปากขอบคุณ Abyss ด้วยที่ช่วยทำให้ความฝันของแบมแบมเป็นจริงเสียที
รายการของแบมแบม ที่แบคจงวอน เชฟชื่อดังของเกาหลีมาออกรายการ หลังจากที่ทั้งคู่เคยออกรายการวาไรตี้ด้วยกัน
-
งานอินเตอร์แบมแบมก็ไม่เคยขาด
แม้ว่าการตีตลาดเกาหลีจะเป็นเรื่องสำคัญในการตัดสินอยู่กับค่าย Abyss แต่เขาก็ไม่ลืมว่าแฟนคลับของแบมแบมอยู่ในต่างประเทศเยอะมาก นอกจากจะไม่ทอดทิ้งแฟนคลับต่างประเทศแล้ว ยังสามารถขยายฐานแฟนคลับในต่างประเทศให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่องได้อีกด้วย หลังเป็นศิลปินกับ Abyss แบมแบมได้เซ็นสัญญาเป็นโกลบอลแอมบาสเดอร์ของ Golden State Warriors ทีมบาสเก็ตบอลระดับ NBA ของอเมริกา ได้เป็นศิลปิน K-POP คนแรกที่ได้แสดงช่วงพักครึ่งการแข่งขันของทีม มีแฟนไซน์กับแฟนๆ ที่อเมริกา บินไปมาระหว่างต่างประเทศและเกาหลีเพื่อทำงานอยู่ตลอด รวมถึงการได้ทำงานร่วมกับแบรนด์หรูต่างๆ ทั้งแฟชั่นและบิวตี้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
-
งานเพลงของแบมแบมก็ยังทำอย่างต่อเนื่อง
แบมแบมมีสกิลในการเป็นพิธีกร และตัวตนที่ร่าเริง รวมถึงไหวพริบในการตอบคำถาม ดำเนินรายการเรียลลิตี้ต่างๆ ของแบมแบม บอกเลยว่าเป็นที่เอ็นดูของคนเกาหลีและคนทั่วโลกได้ไม่ยาก แต่ถึงกระนั้นงานเพลงในฐานะศิลปินของแบมแบมก็ยังมีออกมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เพียง 3 เดือนหลังจากเซ็นสัญญากับ Abyss แบมแบมก็มี riBBon มินิอัลบั้มแรกของเป็นที่เรียบร้อยแบบไม่ต้องให้รอนาน ช่วงปลายปี 2021 ในปีเดียวกันก็ได้ทำเพลงกับ ซึลกิ Red Velvet ผลงานกับศิลปินนอกจากแถมยังเป็นศิลปินจาก SM และในต้นปี 2022 แบมแบมก็ได้ทำเพลงกับแร็ปเปอร์ Mayzin ต้นปี 2022 ก็มีมินิอัลบั้มใหม่ชุดที่ 2 B และต้นปี 2023 ก็มีอัลบั้มเต็มชุดแรก Sour & Sweet ออกตามมา เรียกได้ว่างานเพลงมีออกมาให้ได้ฟังกันอย่างต่อเนื่องจริงๆ
-
ให้แบมแบมเลือกทำงานได้อย่างอิสระ
Abyss เป็นค่ายที่เปิดโอกาสให้ศิลปินเสนอไอเดียต่างๆ ในการทำงานอย่างมาก แม้ว่าแบมแบมจะเล่าออกมาบ้างนิดหน่อย แต่แฟนๆ เห็นได้ชัดเจนจากการทำงาน และคอนเทนต์ต่างๆ ที่แบมแบมทำ เราจะไม่มีโอกาสได้เห็นสมาชิก GOT7 ไปเล่าเรื่องผีใน The Ghost หรือมาเปิดใจเรื่องความรักใน ถ้าหนูรับ พี่จะรักป่ะ อย่างแน่นอน รวมถึงรายการวาไรตี้ต่างๆ ในเกาหลีที่ก่อนหน้านี้เราแทบจะไม่เห็นแบมแบมในรายการวาไรตี้เกาหลีบ่อยขนาดนี้ นอกจากนี้ไอเดียต่างๆ การเลือกสถานที่จัดงานแฟนมีตติ้ง คอนเสิร์ต เบเนฟิต ฯลฯ แบมแบมมีส่วมร่วมในการตัดสินใจด้วยทั้งหมด เพราะค่ายเองก็เคารพในความคิดของแบมแบมมากพอๆ กับทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังด้วยนั่นเอง
-
Abyss ค่ายเล็ก ดูแลศิลปินได้ทั่วถึง
ข้อดีของการอยู่ค่ายเล็กศิลปินไม่มาก คือการโปรโมตผลงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องรอว่าจะชนกับศิลปินคนอื่นๆ ในค่ายบ่อยนัก รวมถึงการดูแลของทีมงานที่มีต่อศิลปิน แฟนๆ เคยพบประธานค่ายนั่งอยู่ข้างๆ แบมแบมข้างสนามบาสขณะที่แบมแบมทำงานที่อเมริกา และเห็นเขาอยู่ข้างๆ คอยช่วยดูแลแบมแบมอยู่บ่อยๆ และการออกไอเดีย การตัดสินใจก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องผ่านใครให้มากมายหลายฝ่าย ผู้บริการและทีมงานที่มีความเป็นคนรุ่นใหม่ เปิดรับทุกไอเดีย และดูแลศิลปินในค่ายได้อย่างทั่วถึง สิ่งเหล่านี้ทำให้ศิลปินอุ่นใจมากพอที่จะกล่าวขอบคุณค่ายบ่อยๆ และยังแนะนำให้ศิลปินคนอื่นมาเซ็นสัญญาด้วยกันด้วย อย่างที่แบมแบมเคยเปิดเผยว่า เขาตัดสินใจเซ็นสัญญากับ Abyss หลังได้คุยกับซอนมี และซอนมีตอบแบมแบมว่า แบมแบมจะไม่เสียใจถ้าได้อยู่ที่นี่
ทั้ง Abyss ทั้งแบมแบม ต่างฝ่ายต่างโชคดีที่ต่างฝ่ายต่างได้ร่วมงานด้วยกัน และเป็นตัวอย่างที่ดีที่พิสูจน์ให้แฟนๆ และศิลปินคนอื่นๆ เห็นแล้วว่า การที่ศิลปินย้ายจากค่ายยักษ์ใหญ่มาอยู่ในค่ายที่เล็กลงกว่าเดิม ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเสมอไป หากได้ทีมงานที่เป็นมืออาชีพ ขัดเกลาเพชรที่มีอยู่ใมมือให้ส่องประกายกว่าเดิม แสดงศักยภาพและความสามารถของศิลปินออกมาให้ทุกคนได้เห็น และประธานค่ายมีวิสัยทัศน์ที่ตรงกันกับศิลปินจริงๆ
อัลบั้มภาพ 70 ภาพ