"28" อัลบั้มล่าสุดของ Three Man Down ที่ย้อนกลับเข้ามาสำรวจจิตใจในวันที่เติบโตขึ้น

สำหรับใครที่เคยผ่านช่วงวัย 28 ปีมา ตัวเลขนี้มีความหมายอย่างไร?

แต่ละคนคงมีคำตอบแตกต่างกันไป

แต่สำหรับศิลปินวง Three Man Down ตัวเลข 28 มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันคือชื่ออัลบั้มที่สอง ซึ่งพูดถึงการเข้าสู่ช่วงชีวิตในวัย 28 ปีของสมาชิกวง ที่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลง ความเจ็บปวด ความผิดหวัง ความเหงา ความสุข และสิ่งต่างๆ ที่ต้องพบเจอในช่วงวัยดังกล่าว

หลายความรู้สึกเป็นสิ่งที่คุ้นเคย แต่ก็มีบางเฉดที่ไม่เคยพบพาน นั่นจึงทำให้อัลบั้มนี้อัดแน่นไปด้วยพาร์ตของ ‘ดนตรี’ และ ‘เนื้อหา’ ที่เข้มข้น และมีมุมมองกับเรื่องราวที่เริ่มเปลี่ยนไปตามความเติบโต

แน่นอนว่านั่นหมายถึงการที่ Three Man Down ยอม ‘เสี่ยง’ ก้าวข้ามคอมฟอร์ตโซนเดิมๆ ที่ไม่มีใครการันตีได้ว่า จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่เหมือนอัลบั้มแรกอย่าง This City Won’t Be Lonely Anymore ในปี 2564 หรือไม่

แต่หากไม่กล้าเสี่ยง แล้วเราจะเติบโตขึ้นไปพร้อมกับผลลัพธ์ใหม่ๆ ในชีวิตได้อย่างไร

อัลบั้มที่เปลี่ยนชีวิต

นับจากปรากฏการณ์ ‘ฝนตกไหม’ เมื่อ 2 ปีก่อน วง Three Man Down ก็กลายเป็นชื่อที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในแวดวงดนตรีของไทย ซิงเกิลของพวกเขาฮิตติดลมบนแทบทุกชาร์ตเพลง มีวลีเด็ดที่ตามมาจากการปล่อยเอ็มวี เดินสายแสดงดนตรีหลายแห่ง จนกระทั่งกำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ THE CONCERT APPLICATION PRESENTS THREE MAN DOWN LIVE AT IMPACT ARENA 2023 ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ เป็นการตอกย้ำความสำเร็จที่ต่อเนื่องมาจากความร้อนแรงของอัลบั้ม This City Won’t Be Lonely Anymore 

แน่นอนว่าความสำเร็จไม่ได้เพิ่งสร้าง เพราะหากย้อนดูเส้นทางของ Three Man Down จะเห็นว่า พวกเขาต่อสู้มาอย่างยาวนาน เริ่มตั้งแต่เป็นวงประกวดในงานดนตรี เข้าแข่งขันในงานค้นหาศิลปินหน้าใหม่ของค่าย GeneLab จนมีผลงานเพลงออกมา แต่ก็ไม่สำเร็จเท่าที่ควร

กระทั่งการมาถึงของ ‘ฝนตกไหม’ อย่างที่กล่าวไป หลังจากนั้นจึงไม่มีอะไรมาฉุดพวกเขาได้อีก และช่วงระยะเวลา 2 ปีหลังจากอัลบั้มแรก ในปีนี้ Three Man Down ก็พร้อมก้าวไปอีกขั้น โดยนำประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวตลอดเส้นทางการเติบโตมาพัฒนา จนกลายเป็นอัลบั้มที่สองของวงที่ชื่อ ’28’

อัลบั้มที่พลิกความคาดหวังเดิม

หากมอง Three Man Down เป็นคนคนหนึ่ง พวกเขาก็เหมือนวัยรุ่นที่เคยหลงทางและพยายามค้นหาตัวตน สนุกสนานไปกับความเป็นตัวเองและเรื่องราวภายนอก จนกระทั่งวันหนึ่งที่เริ่มเติบโตจึงกลับมามองหาสิ่งสำคัญจากภายในมากขึ้น

ในอัลบั้มแรก สิ่งที่ Three Man Down เลือกพูดถึงจึงเป็นสิ่งต่างๆ รอบตัว ไม่ต่างจากความเป็นวัยหนุ่มสาวที่เลือกมองหา ‘ความจริง’ จากภายนอก ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในแง่ของบทเพลงและคนฟัง ดูได้จากยอดวิวของแต่ละเพลงที่ถล่มทลาย 

แต่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มักมาพร้อมกับความคาดหวังที่มากกว่าเดิม นั่นจึงกลายเป็นความกดดันที่ถาโถม เมื่อพวกเขาต้องลงมือปั้นอัลบั้มที่สอง

เมื่อถึงวัยที่เติบโตขึ้น เรามักมีอารมณ์ที่อยากมองบางสิ่งลึกซึ้งขึ้น พอๆ กับการกลับมาใส่ใจความรู้สึกของตัวเอง เช่นเดียวกับ Three Man Down การทำอัลบั้มใหม่ครั้งนี้ พวกเขาเลือกพูดถึงส่วนลึก ความรู้สึกของจิตใจ ความเจ็บปวด ความทรมานของการเติบโตกับสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำๆ แต่ไม่สามารถแก้ไขมันได้ จึงไม่แปลกที่อัลบั้มแรกกับอัลบั้มที่สองของ Three Man Down จะคล้ายกับลูกที่เกิดมาจากพ่อแม่เดียวกัน แต่นิสัยต่างกันโดยสิ้นเชิง

แต่ใช่ว่าความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นกับ ‘เนื้อเพลง’ อย่างเดียว เพราะแม้ในเชิงของเนื้อเพลง พวกเขาเลือกที่จะมองกลับเข้ามาในความรู้สึกมากขึ้น แต่ในแง่ของ ‘ดนตรี’ พวกเขาเลือกพลิกโฉมตัวเองใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายกับวง

เต มือกลองของวง เคยบอกไว้ในคลิป Documentary ของวงว่า 

“ถ้ามองในยอดวิวมัน (อัลบั้มที่สอง) อาจไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าอัลบั้มแรก แต่จุดประสงค์ของการทำอัลบั้มนี้ พวกเราไม่ได้สนใจยอดวิวเท่าอัลบั้มแรก เพราะจุดประสงค์ของการทำอัลบั้มที่สองคืออีกฟังก์ชันหนึ่ง เพื่อทำให้วงพวกเราเป็นวงที่แข็งแรงขึ้น แบรนด์ Three Man Down ต้องแข็งแรงขึ้น โตขึ้น เล่นสดสนุกขึ้น” 

อัลบั้ม 28 จึงเป็นการพลิกแนวเพลงที่มาพร้อมความเสี่ยงทั้งในแง่ของผลงานเชิงศิลปะและในแง่ธุรกิจ แต่การเสี่ยงครั้งนี้ก็คุ้มทุน เพราะทำให้ Three Man Down สามารถสร้างแฟนเพลงได้หลากหลายกลุ่มมากขึ้น และสลัดคราบความเป็น ‘บอยแบนด์’ ที่หลายคนจดจำ 

“ถ้าไม่เสี่ยงก็ไม่มีทางได้ผลลัพธ์ที่ใหญ่ขึ้น หรืออาจได้เท่าเดิม” คือสิ่งที่สมาชิกวงเห็นตรงกัน 

อัลบั้ม 28 ที่ตอกย้ำความแข็งแกร่งของ ‘แบรนด์’ Three Man Down

“อัลบั้ม 28 คือการ Wrap Up ความรู้สึก ความโหยหา ความต้องการ ความโกรธ กิเลส ทุกอย่างในวัย 28 ปี มันมัด ขึง ตึง พรีเซนต์ออกมา” กิต นักร้องนำ เคยพูดไว้ใน Documentary ของวง

พูดในแง่ของการทำอัลบั้ม จึงเป็นการก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนและความสำเร็จเดิมที่เคยมี ทั้งการเขียนเนื้อเพลงและการทำดนตรี ซึ่งสะท้อนออกมาในหลายบทเพลง เช่น เพลง ‘ไหนบอกเลิกแล้ว’ เพลงที่มีการแรปยากที่สุด ซึ่งพวกเขาทำงานร่วมกับแรปเปอร์อย่าง AUTTA

ไม่ใช่แค่ AUTTA เท่านั้น อัลบั้ม 28 ยังเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง Three Man Down กับ co-producer ศิลปิน และนักดนตรีหลายคน ที่มาร่วมสร้างความแปลกใหม่ เช่น SpatChies, Richard Craker, Machina และภีร์ Hard Boy

สิ่งที่เราได้ฟังในอัลบั้ม 28 จึงน่าตื่นเต้นและน่าติดตาม เพราะแทนที่จะเลือกเดินตามรอยความสำเร็จเดิมในการทำเพลง พวกเขากลับตัดสินใจเดินในทางที่ต่างออกไป แต่นั่นก็ให้ผลลัพธ์ใหม่ๆ ที่สุดท้ายแล้วก็กลับมาทำให้ผู้คนจดจำความเป็น Three Man Down ได้ดียิ่งขึ้น 

ที่สำคัญ เพลงในอัลบั้ม 28 ยังส่งผลให้การแสดงโชว์ของ Three Man Down มีไดนามิกมากขึ้น เหมาะกับการแสดงของวงที่มักได้รับคำชื่นชมในการ ‘ใส่สุด’ อยู่แล้ว ยิ่งรวมจำนวนเพลงในอัลบั้มแรกและอัลบั้มที่สอง จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำไมพวกเขาจึงกำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่

จากความสับสนในการหาตัวตนของวง กระทั่งพบสไตล์ที่เป็นของตัวเอง สู่การพัฒนาอย่างมีทิศทางที่ชัดเจน จนทั้งเนื้อเพลงและซาวนด์ดนตรีกลายเป็นจุดแข็งของวง ที่เห็นชัดมากขึ้นในอัลบั้มใหม่นี้

อัลบั้มที่ไม่ใช่แค่ดนตรีแต่คือชีวิต

อัลบั้ม 28 ประกอบไปด้วยทั้งหมด 11 เพลง ซึ่งสิ่งที่แม้จะเติบโตขึ้นแต่ไม่เคยเปลี่ยนไป คือ ‘ความจริงใจของวง’ ที่ส่งผ่านเนื้อหาของเพลง ที่แม้จะเจ็บปวดสะบักสะบอมจากสิ่งต่างๆ แค่ไหน ก็พร้อมจะลุกขึ้นยอมรับและเดินต่อไป ยิ่ง Three Man Down มีวิธีการทำเพลงจากการคิดภาพก่อนแล้วใส่ดนตรีเข้าไป หรือพูดง่ายๆ คือการคิดแบบ Storytelling ทำให้เนื้อเพลงมีความโดดเด่น เหมือนได้ฟังเพลงไปพร้อมกับเห็นภาพของเรื่องราวบางอย่างในเพลงไปพร้อมกัน

ทั้ง 11 เพลงจึงเหมือนเป็นการร้อยเรียงเป็นเรื่องราวหนึ่งจาก Three Man Down ที่เติบโตจาก ‘เด็กหนุ่ม’ เป็น ‘ชายหนุ่ม’ ที่มองโลกด้วยมุมมองที่ต่างออกไป

 

อัลบั้ม 28 

1. 28 

“เธอเป็นเหมือนกับแสงดวงดาวที่บนฟ้าไกล”

เพลง Interlude ที่เสมือนเป็นการเตรียม ‘ความรู้สึก’ ของคนฟังก่อนจะก้าวเข้าสู่โลกของอัลบั้ม 28 ตัวเพลงมีโทนความสว่าง บวกกับการร้องเสียงประสานและพาร์ตดนตรี ที่ช่วยเสริมให้เพลงสั้นๆ นี้เข้มข้น รวมถึงเนื้อหาที่เหมือนจะดี แต่สุดท้ายกลับกลายเป็น ‘เรื่องไม่จริง’ เหมือนเป็นการบอกเป็นนัยว่า อัลบั้มนี้ผู้ฟังจะได้พบกับอะไรบ้าง

2. ปล่อยให้เวลา (Broken Clock)

“ต่อให้คิดถึงเธอแค่ไหน ฉันคงต้องปล่อยเธอไป กอดเธอไม่ได้อีกแล้ว”

เริ่มต้นด้วยเพลงร็อกถึงอารมณ์ในจังหวะสนุกๆ ของคนที่ต้องการให้เวลาช่วยลบเลือนเรื่องราวความเจ็บปวด และเข้าใจว่าแม้รักแค่ไหนก็ต้องยอมปล่อยไป เป็นเนื้อหาของความผิดหวัง ปลดปล่อย และการจากลา รวมถึงเอ็มวีที่มีความเป็น Cinematic ถ่ายทอดอารมณ์ได้สุดยอด จึงทำให้มีความเข้มข้นอย่างยิ่ง

3. เมา (Drunk in Love)

“ฉันแม่งโคตรจะซวย ที่เผลอไปคิดว่าเธอนั้นจะจริงใจ”

เพิ่มดีกรีความผิดหวัง เพื่อมุ่งสู่พาร์ตหลักของอัลบั้ม 28 อย่างเป็นทางการกับ ‘เมา’ เพลงที่มีเนื้อหาจริงใจของคนเมารัก ที่ดันไปหลงรักใครบางคนจนเพิ่งรู้ตัวเมื่อสายว่าถูกหลอกจากคนไม่จริงจัง เปรียบเหมือนความเมาคือความรัก เมื่อเมาเราจะไม่มีวิจารณญาณในการแยกความจริงกับความฝัน จนกระทั่งเมื่อสร่างนั่นแหละ ถึงรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป และมาเสียดายเสียใจทีหลัง 

4. ไหนบอกเลิกแล้ว (In My Bed)

“ฉันน่าจะรู้นี่ไม่ใช่รัก เธอต้องการ fuck มันก็เท่านั้น”

เพลงป็อปร็อกหนักแน่นที่เนื้อหาเป็นการถามตรงๆ ของคนที่ต้องเจ็บปวดเพราะต้องถูกคนรักหลอกว่าเลิกกับอีกฝ่ายแล้ว สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นคนซวยที่กลายเป็นแค่คนแก้เหงา แถมยังมีท่อนแรปที่ได้ AUTTA มาช่วยเขียน และใช้คำตรงๆ อย่างเช่น ‘เสือก’ ‘แม่ง’ หรือประโยคเน้นๆ อย่าง “ฉันน่าจะรู้นี่ไม่ใช่รัก เธอต้องการ fuck มันก็เท่านั้น” เสริมความรู้สึกให้กับเพลงเป็นอย่างดี

5. ไม่อยากให้เธอไม่สบาย (You)

“ไม่อยากให้เธอไม่สบาย ถ้ามีใครหนึ่งคนต้องตาย ก็ขอให้เป็นฉันเถอะ”

หลังจากเข้มข้นมาตลอด 4 เพลง แทร็กที่ 5 เปลี่ยนมู้ดมาเป็นเพลงที่มีเนื้อหาอบอุ่น ดนตรีฟังสบาย พูดถึงชีวิตที่มีใครบางคนเข้ามาเปลี่ยนแปลงหัวใจจนทำให้ได้พบกับความรักที่แท้จริง ที่ทำให้คนคนหนึ่งสามารถยอมเสียสละบางสิ่งได้ สะท้อนมุมมองความรักของ Three Man Down ที่เติบโตขึ้น มองเห็นความสำคัญของคนข้างกาย แต่ยังมีเนื้อหาจริงใจตามฉบับของ Three Man Down 

6. เด็กเกินไป (Too Young)

“บอกว่าเราไปกันไม่ไหว โตขึ้นมาฉันคงเข้าใจ”

ค่อยๆ เพิ่มอารมณ์ขึ้นมาอีกนิดกับ ‘เด็กเกินไป’ เพลงช้าของคนผิดหวังจากความรักเพราะความต่างของวัย และย้อนมองถึงความรักครั้งแรกที่ทำเอาเสียใจจนแทบตาย แต่ก็ได้เรียนรู้ว่าในวัยเด็ก เราอาจไม่ได้เข้าใจมากนักว่าความรักคืออะไร มันคือความเดียงสาที่ทุกคนต้องเคยผ่านมา และผ่านการฟูมฟายจากความรักครั้งแรก จึงคิดว่าเพลงนี้น่าจะโดนใจคนจำนวนมากอย่างแน่นอน

7. เปิดตัวเขา (Rebound)

“เกลียดที่เธอดูภูมิใจกับแฟนใหม่มากๆ เลย”

กลับเข้าสู่โหมดร็อกหนักแน่น กับเพลงที่เล่าถึงการระเบิดความรู้สึกของคนที่แอบเจ็บใจที่แฟนเก่าดูภูมิใจกับแฟนใหม่มาก ทั้งที่ตอนคบกันไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย ถูกใจคนฟังที่เคยมีความรู้สึกร่วมกับการที่ต้องอึดอัดใจจากการคบใครบางคน ที่เหมือนต้องปิดบังไว้ จนสงสัยว่าคนรักรักเราจริงไหม

8. คนใหม่ (Someone New)

“เธอมากับคนใหม่ รักครั้งใหม่ ฉันก็ควรต้องดีใจ”

หลังจากปวดร้าวมา เพลง ‘คนใหม่’ ก็พาเปลี่ยนสู่จังหวะดนตรีคึกคักชวนโยกกับซาวนด์ที่ทำให้นึกถึงเพลงร็อกไทยในยุค 2000s ซึ่งเป็นสิ่งที่ Three Man Down ไม่เคยทำมาก่อน เนื้อเพลงว่าด้วยความรู้สึกของ ‘คนเก่า’ ที่เห็นคนรักไปกับ ‘คนใหม่’ ได้อย่างดี แม้จะยังรักและคิดถึงก็ตาม ถึงเนื้อหาจะฟังดูเศร้า แต่ด้วยทำนองและการเรียบเรียงเพลงที่ไม่ได้ดำดิ่ง ก็ทำให้เพลงออกแนวเสียใจแบบ ‘ช่างมันเถอะ’ ยิ่งมีคำปลอบใจในบทสนทนาของเพื่อนก็ทำให้เพลงนี้ดูน่ารักและสนุกตามสไตล์ Three Man Down 

9. น้อง (Nong)

“ตัดพี่ตัดน้องเลย ไม่เอาแล้วน้องสาว”

เพลงจังหวะสนุกสนานชวนโยกหัวสไตล์ป็อปพังก์ กับเนื้อเพลงสุดน่ารักแฝงความขี้เล่นแบบพี่ชายในฉบับของ Three Man Down ที่ว่าด้วยเรื่องของความรู้สึกที่เปลี่ยนไปจากการได้พบ ‘หญิงสาว’ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพียง ‘น้องสาว’ กับเนื้อเพลงติดหูอย่าง “เพราะว่าเด็กคนนั้นโตมากลายเป็นเธอ น้องคนนั้นที่ฉันเคยได้เจอ” ที่สะท้อนฝีมือการแต่งเนื้อเพลงให้ฮิตติดหูของตูน มือกีตาร์ประจำวงได้เป็นอย่างดี ยิ่งได้ UrboyTJ มาฟีตเจอริงก็ทำให้เพลงสมบูรณ์และมีสัดส่วนเท่ๆ มากขึ้น

10. ไม่อยากชิน (Don’t Wanna Get Used to It) 

“แต่ในวันนี้ไม่เป็นไร ฉันไม่รู้สึกกับความรักอีกต่อไป”

ยังคงอยู่ในมู้ดเมโลดี้สนุกสนานดัง 2 เพลงก่อนหน้า แต่เพิ่มดีกรีร็อกหนักแน่นด้วยซาวนด์อิเล็กทรอนิกส์ที่ฟังแล้วอิ่ม และเป็นเพลงที่เหมือนบทสรุปของอัลบั้ม 28 ที่ถึงแม้จะไม่อยากชินกับความผิดหวังหรือการร้องไห้ จากคนที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่สุดท้ายชีวิตก็ต้องเดินต่อไป ในด้านหนึ่งมันคือความชินชา แต่เมื่อประสบการณ์ในชีวิตมากขึ้น เราก็จะเข้าใจว่า แม้จะเคยทุ่มเทบางอย่างในชีวิตอย่างสุดใจในช่วงเวลาหนึ่ง แต่วันหนึ่งสิ่งที่ฝันอาจไม่สมหวังอย่างที่คิด

11. วิธีไม่เสียใจ (How to Not Be Sad)

“ช่วยบอกฉันได้ไหม วิธีที่ไม่เสียใจ”

เพลงปิดท้ายอัลบั้มที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษ มีการใช้เสียงคอรัสประสานเพิ่มความน่าสนใจในเพลง กับท่อนโซโลเท่ๆ เนื้อหาพูดถึงคนที่ทิ้งไปและอยากให้เราลืม แต่เราไม่เหลือใคร จึงอยากขอให้บอกวิธีที่ทำให้ไม่เสียใจ ไม่ต้องร้องไห้ เพราะคนที่ถูกทิ้งคงไม่ใช่คนที่จะลืมได้ง่ายๆ ซึ่งการที่เพลงมีเนื้อหาเข้มข้นแต่ดนตรีมีจังหวะสนุก ก็ทำให้คนฟังได้อีกมู้ดหนึ่งในการ ‘โยก’ ไปกับความเสียใจนั้นได้

หากมองในภาพรวม อัลบั้ม 28 จึงเป็นการประกาศการเติบโตและก้าวไปสู่การเป็นวงดนตรีอีกขั้นของ Three Man Down ที่กล้าก้าวข้ามความสำเร็จอันยิ่งใหญ่แบบเดิม เพื่อมุ่งไปสู่สิ่งใหม่ที่ท้าทายกว่า ทั้งในแง่ของเนื้อหาเพลงและซาวนด์ดนตรี

ไม่ต่างอะไรกับคนคนหนึ่ง ที่หากจะก้าวข้ามไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวได้ สิ่งสำคัญคงหนีไม่พ้นหัวใจที่กล้าแกร่ง โดยเฉพาะความกล้าที่จะมองกลับมายังบาดแผลในวัยหนุ่มสาว ทำความเข้าใจ และยอมรับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของชีวิต 

เช่นเดียวกับ Three Man Down ที่ไม่ใช่แค่ ‘วงดนตรี’ แต่คือ ‘ชีวิต’