The Beatles ปล่อยเพลงสุดท้าย "Now And Then" พร้อมหนังสารคดีดูพร้อมกันทั่วโลก | Sanook Music

The Beatles ปล่อยเพลงสุดท้าย "Now And Then" พร้อมหนังสารคดีดูพร้อมกันทั่วโลก

The Beatles ปล่อยเพลงสุดท้าย "Now And Then" พร้อมหนังสารคดีดูพร้อมกันทั่วโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

The Beatles วงดนตรีร็อกแอนด์โรลระดับตำนานที่บทเพลงของพวกเขายังคงอยู่ในใจแฟนเพลงนานนับทศวรรษ และล่าสุดในปี 2023 พวกเขากลับมาสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งกับซิงเกิล "Now And Then" เพลงสุดท้ายจาก The Beatles ที่ร้องโดย John Lennon และนำมาปรับปรุงใหม่โดย Paul McCartney, George Harrison และ Ringo Starr ในที่สุดซิงเกิลนี้ก็เสร็จสมบูรณ์ด้วยความร่วมมือของ Paul McCartney และ Ringo Starr ซึ่งใช้เวลายาวนานกว่า 40 ปี "Now And Then" ปล่อยให้แฟนเพลงทั่วโลกได้ฟังในวันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายนนี้ เวลา 21.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ภายใต้ค่าย Apple Corps Ltd./Capitol/Ume

โดย "Now And Then" ซิงเกิลสุดท้ายของ The Beatles จะถูกปล่อยออกมาในรูปแบบ The double A-side single คู่กับ "Love Me Do" ซึ่งเป็นซิงเกิลแรกของ The Beatles ที่ปล่อยออกมาในปี 1962 ทั้ง 2 เพลงยังถูกมิกซ์เสียงให้เป็นระบบ Stereo และ Dolby Atmos® ในส่วนของ Cover Art เป็นภาพ Original ที่ออกแบบโดยศิลปินชื่อดังอย่าง Ed Ruscha นอกจากนี้ Music Video จะปล่อยออกมาพร้อมกันทั่วโลกในวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายนนี้ เวลา 21.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

 

Now And Then - The Last Beatles Song

Now And Then - The Last Beatles Song ภาพยนตร์สารคดีความยาว 12 นาที ถูกเขียน และกำกับโดย Oliver Murray และพรีเมียร์ให้แฟนเพลงรับชมพร้อมกันในวันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายนนี้ เวลา 02.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ผ่านช่องทางยูทูป The Beatles เพื่อเจาะลึกเบื้องหลังการทำงานเพลงสุดท้ายของ The Beatles พร้อมคลิปฟุตเทจของ Paul McCartney, Ringo Starr, George Harrison, Sean Ono Lennon และ Peter Jackson

เรื่องราวของซิงเกิล "Now And Then" เริ่มต้นในช่วงปลายปี 1970 เมื่อ John Lennon ได้อัดเดโมเสียงร้องพร้อมเสียงเปียโนที่บ้านของเขาในอาคารดาโกต้า นิวยอร์ก ในปี 1994 Yoko Ono Lennon ภรรยาของเขาได้ส่งเดโมนี้ให้กับ Paul McCartney, George Harrison และ Ringo Starr พร้อมเดโมของซิงเกิล Free As A Bird ที่ทำเสร็จสมบูรณ์และถูกปล่อยออกมาในปี 1995 และ Real Love ในปี 1996 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ The Beatles Anthology ขณะเดียวกัน สมาชิกทั้ง 3 คนได้ร่วมกันบันทึก และมิกซ์เสียง Now And Then ขึ้นมาคร่าว ๆ ร่วมกับโปรดิวเซอร์ Jeff Lynne ในเวลานั้น ด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยีจึงไม่สามารถแยกเสียงร้อง และเสียงเปียโนของ John Lennon ให้ออกมาได้ชัดเจน โปรเจกต์ "Now And Then" จึงถูกพักไว้พร้อมความหวังเล็ก ๆ ว่าวันหนึ่งจะสามารถนำเพลงนี้กลับมาทำให้สำเร็จได้อีกครั้ง

ปี 2021 ได้มีการเปิดตัวซีรีส์สารคดี The Beatles: Get Back กำกับโดย Peter Jackson ที่ได้รับรางวัลการตัดต่อภาพและมิกซ์เสียงยอดเยี่ยม ด้วยการใช้เทคโนโลยี MAL Audio ของบริษัทโปรดักชั่น WingNut Films ทีมของ Peter Jackson ได้ทำการแยกเสียง Mono Soundtrack และสามารถแยกเสียงดนตรี เสียงร้อง และบทสนทนาอื่น ๆ ของ The Beatles ออกจากกันได้ ความสำเร็จในครั้งนี้นับเป็นใบเบิกทางให้อัลบั้ม Revolver ที่ถูกนำมา Mix ใหม่ในปี 2022 ที่ดึงออกมาจากเทปมาสเตอร์ทั้ง 4 เพลง ได้นำไปสู่คำถามที่ว่า เราจะสามารถทำอะไรได้บ้างกับเดโม Now And Then ทีมของ Peter Jackson นำโดย Emile de la Rey ได้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อแยกเสียงร้อง และเสียงเปียโนจากเดโมของ John Lennon ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

The Beatles

ในปี 2022 Paul McCartney และ Ringo Starr ตัดสินใจนำซิงเกิล Now And Then มาทำใหม่อีกครั้งด้วยการดึงเสียงร้องจาก John Lennon และเสียงกีตาร์จาก George Harrison ที่ถูกบันทึกไว้ในปี 1995 พร้อมด้วยเสียงกลอง, เบส, กีตาร์, เปียโน, และเสียงคอรัสของ Paul และ Ringo นอกจากนี้ Paul McCartney ยังเพิ่มท่อนกีตาร์โซโลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการเทคนิคการเล่นของ George ลงในบทเพลงอีกด้วย

Paul McCartney รับหน้าที่ดูแลทุกขั้นตอนของการอัดเพลง และเรียบเรียงเสียงดนตรีเครื่องสาย ที่เขียนร่วมกับ Giles Martin, Paul และ Ben Foster ด้าน Paul และ Giles ได้เพิ่มเติมเสียงร้องจาก Original Recording จากเพลง Here, There And Everywhere, Eleanor Rigby และ Because ลงไปในเพลง ร้อยเรียงจนกลายเป็นเพลงใหม่ ซึ่งทำออกมาได้เสร็จสมบูรณ์แบบด้วยเทคโนโลยีที่ใช้ระหว่างทำโชว์ The Beatles LOVE และอัลบั้ม ในที่สุดซิงเกิล ดังกล่าวก็ออกมาสำเร็จด้วยการโปรดิวซ์โดย Paul และ Giles พร้อมด้วยการมิกซ์เสียงโดย Spike Stent

 

Paul McCartney กล่าวว่า นี่คือเสียงของ John จริงๆ มันชัดมาก จนมันค่อนข้างสะเทือนใจ และพวกเราทุกคนเล่นด้วยกัน มันเป็นการทำเพลงกับ Beatles จริงๆ 

ในปี 2023 ที่ยังคงทำเพลง Beatles และกำลังจะปล่อยเพลงใหม่ที่แฟนเพลงยังไม่เคยได้ฟังมาก่อน มันน่าตื่นเต้นมากๆ

 

Ringo Starr กล่าวว่า มันใกล้เคียงที่สุด ราวกับว่าเขากลับมาอยู่ในห้องอัดกับพวกเราจริง ๆ ซึ่งมันสะเทือนอารมณ์พวกเราทุกคน มันเหมือนกับว่า John อยู่กับพวกเรา

 

Olivia Harrison กล่าวว่า ย้อนกลับไปปี 1995 หลังจากที่อยู่ในสตูดิโอเพื่อทำเพลงนี้หลายวัน George พบปัญหาทางด้านเทคนิคที่ไม่สามารถทำให้เพลงออกมาได้มาตรฐานเท่าที่ควร

ถ้าเขายังอยู่ที่นี่ Dhani และฉันเชื่อว่าเขาจะกลับมาทำเพลง Now And Then ร่วมกับ Paul และ Ringo ด้วยความเต็มใจ

 

Sean Ono Lennon กล่าวว่า ผมประทับใจมากที่ได้ยินว่าพวกเขาจะกลับมาทำเพลงร่วมกัน หลังจากที่พ่อของผมจากไปหลายปีมาแล้ว มันเป็นเพลงสุดท้ายที่พ่อผม Paul, George และ Ringo จะได้ทำร่วมกัน

มันเหมือนได้ย้อนเวลากลับไป และรู้สึกว่าเหมือนโชคชะตาได้กำหนดทุกอย่างไว้หมดแล้ว

 

Peter Jackson ผู้กำกับ MV “Now And Then” กล่าวว่า “ตอนที่ Apple เชิญผมมากำกับมิวสิกวิดีโอ ผมลังเลใจมาก ผมคิดว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าคงจะสนุกกว่านี้มาก ถ้างานนี้เป็นของคนอื่น และผมก็จะเป็นเหมือนกับแฟนเพลง Beatles คนอื่น ๆ ดื่มด่ำกับค่ำคืนก่อนวันคริสต์มาสกับเพลง และมิวสิกวิดีโอใหม่ของ Beatles ในปี 1995 ผมชอบความตื่นเต้นเหมือนเด็ก ผมรู้สึกแบบเดียวกับตอนที่เฝ้ารอการปล่อยเพลง ‘Free As A Bird’  ผมจะสามารถกลับไปมีความรู้สึกแบบนั้นได้อีกครั้ง สิ่งที่ผมต้องทำคือบอกปฏิเสธ The Beatles

 พูดตามตรง แค่ผมคิดถึงความรับผิดชอบที่ต้องทำมิวสิกวิดีโอให้สมเกียรติกับเพลงสุดท้ายของ The Beatles มันสร้างความกังวลมากเกินผมจะรับไหว ความรักของผมที่มีให้ The Beatles นั้น ทำให้ผมเผชิญกับความหวาดกลัวเมื่อคิดว่าอาจจะทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง มันทำให้ผมรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเลย เพราะผมไม่เคยทำมิวสิกวิดีโอมาก่อน และผมจินตนาการไม่ออกว่าจะเริ่มทำมิวสิกวิดีโอให้กับวงดนตรีที่แยกวงมามากกว่า 50 ปี และพวกเขาก็ไม่เคยแสดงเพลงนี้มาก่อน อีกทั้งสมาชิกครึ่งหนึ่งของวงยังไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว

ผมว่าทางที่ง่ายที่สุดคือการวิ่งหนีงานนี้ไป ผมแค่ต้องการเวลาเล็กน้อย เพื่อหาเหตุผลที่ดีในการปฏิเสธงานของ The Beatles ดังนั้นผมจึงไม่ได้ตกลงที่จะทำมิวสิกวิดีโอเพลง Now And Then เลย ผมบอกกับ Apple ว่าการขาดฟุตเทจที่เหมาะสมนั้นสร้างความกังวลใจให้กับผม เราจำเป็นต้องใช้ฟุตเทจที่ไม่เคยมีใครเห็นที่ไหนมาก่อน แต่มันมีจำนวนน้อยมาก... ดูเหมือนว่าจะไม่มีภาพให้เห็นเลยว่า Paul, George และ Ringo กำลังทำเพลง Now And Then ด้วยกันในปี 1995 และไม่ค่อยมีฟุตเทจของ John ช่วงกลางของยุค 70s ในตอนที่เขาเขียนเดโม และผมก็กังวลใจเช่นกันที่ไม่มีฟุตเทจของ Beatles ในยุค 60s ... และพวกเขาก็ไม่ได้ถ่ายฟุตเทจใด ๆ ในตอนที่ Paul และ Ringo กำลังทำเพลงนี้ในปี 2022 ที่ผ่านมาเลยด้วย

หัวใจหลักในมิวสิกวิดีโอของ Beatles ก็คือฟุตเทจของพวกเขา และไม่มีทางที่ผมจะใช้นักแสดง หรือ CGI มาแทน Beatles ทุก ๆ ช็อตที่ฉาย The Beatles จะต้องเป็นภาพของพวกเขาจริง ๆ และผมคิดไม่ออกเลยว่าจะทำมิวสิกวิดีโอเพลง Now And Then ออกมาได้ยังไงถ้าไม่มีฟุตเทจที่เหมาะสมมาให้ นี่ไม่ใช่ข้อแก้ตัวเลย ความกลัว และความรู้สึกไม่มั่นคงของผม ตอนนี้กลายเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักพอที่จะทำให้พวกเขาปล่อยให้ผมบอกปฏิเสธโดยไม่ดูเหมือนคนขี้ขลาดจนเกินไป

ผมรู้ว่า The Beatles จะไม่มีวันรับคำปฏิเสธถ้าพวกเขาคิดจะทำอะไรสักอย่าง แต่พวกเขาไม่รอให้ผมปฏิเสธด้วยซ้ำ ผมค้นพบว่าตัวเองถูกโน้มน้าวอย่างรวดเร็ว เมื่อ Paul และ Ringo ส่งคลิปการแสดงของพวกเขามาให้ผม

Apple ขุดเจอฟุตเทจ 14 ชั่วโมงที่ถูกเก็บไว้ระหว่างการบันทึกเสียงในปี 1995 รวมถึงการทำงานหลายต่อหลายชั่วโมงของ Paul, George และ Ringo เพื่อทำเพลง Now And Then และมอบฟุตเทจเหล่านี้ให้กับผม Sean และ Olivia พบโฮมฟุตเทจที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนและส่งมาให้ผม เพื่อจบเรื่องนี้ผมได้ใส่วินาทีที่แสนล้ำค่าของ The Beatles ที่กำลังเล่นดนตรีในชุดหนังของพวกเขา ภาพยนตร์ดังของ The Beatles และที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก Pete Best พอได้ดูฟุตเทจก็เปลี่ยนสถานการณ์ไปอย่างสิ้นเชิง 

ผมเริ่มเห็นแนวทางในการสร้างมิวสิกวิดีโอขึ้นมาจริง ๆ ผมค้นพบว่ามันจะง่ายกว่ามากถ้าทำมันออกมาเป็นหนังสั้น และนั่นก็คือสิ่งที่ผมทำ การที่ผมขาดความมั่นใจในการทำมิวสิกวิดีโอไม่ได้สำคัญอีกต่อไปถ้าผมไม่ได้ทำมัน ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนว่าหนังสั้นเรื่องนี้ควรจะเป็นอย่างไร ดังนั้นผมจึงหาแนวทางจากการทำความเข้าใจกับเพลงนี้ หลังจากที่พวกเราทำการแยกเสียงของ John ในเทปเดโมเมื่อปีที่ผ่านมา Giles ได้โปรดิวซ์ และมิกซ์เสียง Now And Then ขึ้นมา และส่งมาให้ผมในปี 2022 ผมรักมัน ตั้งแต่ตอนนั้นผมฟังเพลง Now And Then มากกว่า 50 ครั้ง มันทำให้ผมมีความสุขมาก ๆ

ตอนนี้ผมเริ่มฟังเพลงนี้อย่างตั้งใจด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง ผมหวังว่าจะมีไอเดีย หรือแรงบันดาลใจสำหรับการทำหนังสั้นจะลอยมาพร้อมกับเสียงดนตรี และมันก็เริ่มเป็นแบบนั้นเมื่อผมฟังมันไปเรื่อย ๆ จนรู้สึกเหมือนเพลงนี้สร้างไอเดีย และภาพที่เริ่มก่อตัวขึ้นในหัวของผมโดยที่ไม่ต้องพยายาม

ผมร่วมมือกับ Jabez Olssen เอดิเตอร์จาก The Beatles: Get Back เพื่อพยายามหาวิธีที่จะใช้ฟุตเทจในภาพยนตร์เรื่องใหม่เพื่อสนับสนุนไอเดียเหล่านี้ มันเป็นกระบวนการที่เรียบง่ายมาก และเราค่อย ๆ เพิ่มเติมส่วนเล็กน้อย ทั้งการเลื่อนรูปภาพและดนตรีไปรอบๆ ด้วยวิธีต่างๆ จนเริ่มลงตัว

พวกเราอยากให้หนังสั้นเรื่องนี้เรียกน้ำตาแก่ผู้ชม แต่การสร้างอารมณ์ความรู้สึกโดยการใส่เพียงฟุตเทจที่นั้นค่อนข้างยาก โชคดีที่ความเรียบง่ายของบทเพลงอันไพเราะนี้ช่วยเราได้มาก และเราก็จบซีน 30 หรือ 40 วินาทีแรกของภาพยนตร์ได้เร็วพอสมควร เมื่อทำแบบนั้นแล้ว เราได้ข้ามไปถึงตอนจบ และพยายามสร้างบางสิ่งที่สามารถสะท้อนความเป็นตำนานของ The Beatles ในวินาทีของการบันทึกเสียงครั้งสุดท้าย แต่มันพิสูจน์แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ ผลงานพวกเขาที่ทำให้โลกใบนี้มันยิ่งใหญ่ล้ำค่า และความมหัศจรรย์ทางด้านดนตรีกลายมาเป็นส่วนหนึ่งใน DNA ของพวกเรา และตอนนี้ท้าทายคำอธิบาย

ผมคิดได้ว่าพวกเราต้องจินตนาการถึงผู้ชมทุกคน และให้ผู้ชมได้สร้างช่วงเวลาของตัวเองในการอำลา The Beatles แต่เราต้องค่อย ๆ พาทุกคนไปยังจุด ๆ นั้น ผมมีไอเดียที่คลุมเครืออยู่ แต่ไม่รู้จริงๆ ว่าจะร้อยเรียงมันออกมายังไง โชคดีที่ Dhani Harrison บังเอิญมาที่นิวซีแลนด์พอดี ผมได้คุยเกี่ยวกับฉากจบกับเขา และบรรยายถึงไอเดียที่คลุมเครือในหัวของผม ทันใดนั้นดวงตาของเขาเต็มไปด้วยน้ำตาในทันที นั่นจึงเป็นทิศทางที่เราไปต่อ

Jabez และผมเริ่มคิดถึงไอเดียในช่วงกลางของเพลง พวกสามารถดูฉากเริ่มและฉากจบด้วยกัน และรู้สึกทันที่ว่าแผนแรกของพวกเราที่พยายามถ่ายทอดพลังของอารมณ์ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงกลางเป็นสิ่งที่ผิดพลาดโดยสิ้นเชิง นั่นไม่ใช่ตัวตนของ The Beatles พวกเขาต่างเป็นคนกันเอง และตลก ซึ่งตรงช่วงกลางควรจับภาพจิตวิญญาณความเป็นตัวตนของพวกเขาเอาไว้ พวกเราต้องหัวเราะ The Beatles และขำไปกับพวกเขา  พวกเขามักเป็นตัวของตัวเอง และถ้าคนรอบข้างยิ่งซีเรียสกับพวกเขามากเท่าไร พวกเขาก็จะยิ่งเล่นตลกมากขึ้นเรื่อย ๆ

โชคดีที่พวกเราพบภาพเบื้องหลังที่ไม่มีใครเห็น ซึ่ง The Beatles ดูผ่อนคลาย สนุก และค่อนข้างเป็นกันเอง สิ่งเหล่านี้กลายเป็นหัวใจหลักในช่วงกลางของมิวสิกวิดีโอและเรายังร้อยเรียงความตลกลงในฟุตเทจที่ถ่ายในปี 2023 ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาค่อนข้างดี และทำให้วิดีโอมีความบาลานซ์ระหว่างความเศร้าและความตลก

พูดตามตรง แม้เราหวังว่าจะอำลา The Beatles เป็นครั้งสุดท้ายอย่างสมเกียรติ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่คุณจะต้องตัดสินใจด้วยตัวเองเมื่อมิวสิกวิดีโอถูกปล่อยออกมา สุดท้ายแล้ว ผมมีความสุขมากที่ไม่ต้องรอดูมิวสิกวิดีโอเพลง Now And Then ที่กำกับโดยคนอื่น ผมภูมิใจในผลงานที่พวกเราทำออกมา ผมต้องขอขอบคุณ Apple Corps และ The Beatles เป็นอย่างยิ่งที่ให้การสนับสนุนผมเป็นอย่างดี”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook