คุยกับ SIN เรื่องการทำเพลงแบบ "ซึมลึก" และฝันที่อยากทำงาน "เบื้องหลัง" มากขึ้น

แม้จะเป็นศิลปินอิสระ แต่  SIN (ซิน-ทศพร อาชวานันทกุล) ก็ยังคงเดินหน้าปล่อยผลงานต่อเนื่อง จนในเวลาแค่ 2 ปีกว่าๆ SIN มีโปรเจกต์ Re-Produce เพลงศิลปินอื่นที่ตัวเองรักในสไตล์ตัวเอง อัลบั้มญี่ปุ่น และล่าสุดงานชุด SLOWBURN อัลบั้มไทยชุดใหม่ พร้อมทั้งเริ่มมีงานเบื้องหลังมาก

และจากการเดินหน้าที่ไม่หยุด ทำให้ Sanook ได้มาคุยกับ SIN ถึงการทำงานในช่วงที่ผ่านมา ที่มากับแนวทางที่เน้นการซึมลึก ไปจนถึงเป้าหมายของ SIN ที่อยากมีงานเบื้องหลังมากขึ้น 

SIN

เพลง “กลับมาได้นะ” มีที่มาอย่างไร 

SIN : เพลงนี้จริงๆ SIN เขียนไว้เมื่อปีที่แล้ว สำหรับอัลบั้มล่าสุด ชื่อว่า SLOWBURN เพลงนี้จริงๆ เขียนเร็วมาก เหมือนนั่งทำงานหน้าคอมแล้วอยู่ๆคิดขึ้นมาได้ เลยลองฮัมท่อนเวิร์ส และเขียนเลยจนเสร็จทั้งเพลง มาจากไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน เป็นเพลงที่ลองสมมุติคาแร็คเตอร์ แบบถ้าคนที่ออกจากชีวิตไปแล้ว แต่เราอยากให้เขาให้เค้าคิดใหม่ เผื่อเค้าเปลี่ยนใจ ไม่ใช่การขอร้อง แต่จะเป็น “เออ ถ้าตรงนั้นไม่โอเคก็กลับมาได้นะ” ประมาณนั้น 

การทำงานกับแร็ปเปอร์อย่าง Zentyarb เป็นอย่างไรบ้าง  

SIN :  เราคิดว่า เพลงนี้มีโพเทนเชี่ยลมีจะคนมาช่วยถ่ายทอดได้ และเราไม่เคยร่วมงานกับคนฝั่งฮิปฮอปมาก่อน ก็รู้สึกว่าน่าสนใจ เลยปรึกษาทีมงานว่ามีใครที่คิดว่าน่าจะเข้ากับเราไหม ก็มีคนแนะนำน้อง Zentyarb มา เลยลองคุยกับเขาดู เล่าเรื่องเพลงให้ฟังว่ามายังไง ก็ค่อยๆ Develop ท่อนแร็ป ก็เขียนกลับมาให้ SIN และโยนกันไปมา สุดท้ายก็มาเขียนด้วยกันเลย เป็นครั้งแรกที่เราได้เขียนแร็ป  

SIN

อัลบั้ม SLOWBURN มีอะไรเป็นธีมและชุดความคิดเบื้องหลังผลงานนี้ 

SIN :  จริงๆ SLOWBURN เป็นศัพท์ที่ใช้ทางดนตรี เราจะได้ยินคำนี้อยู่ประปราย เป็นสแลงที่ใช้เรียกเพลงที่ฟังแล้ว จะค่อยๆแทรกซึม เพลงที่ต้องค่อยๆตั้งใจฟัง ฟังครั้งที่ 1 และ 2 ถึงจะได้ยินรายละเอียด SLOWBURN สำหรับเราเลยเหมือนเป็นไฟที่ค่อยๆ ลาม ซึ่งเหมาะกับสิ่งที่เราทำอยู่ เหมือนเพลงที่คนต้องต้องค่อยๆ ทำความรู้จัก อย่างที่รู้กันตอนนี้ SIN เป็นศิลปินอิสระ ไม่มีค่ายแล้ว เวลาปล่อยเพลงไม่ได้มีแพลนโปรโมต หรือกลยุทธ์ที่ทำให้เพลงไปคนฟังแบบแมสเลยทีเดียว  

SIN เป็นศิลปินที่ค่อนข้างมีอัลบั้มต่อเนื่อง อยากรู้ว่าขั้นตอนการทำงานเป็นอย่างไร กว่าจะได้ผลงานชุดหนึ่ง อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรามีพลังในการทำงานต่อเนื่อง  

SIN : ค่อนข้างสม่ำเสมอ ตั้งแต่ตอนเป็นวง ออกอัลบั้มปีเว้นปีตลอด ถ้าถามอะไรคือไดรฟ์ คือเรายังมีอะไรที่อยากบอกคนบางคน บางเพลงก็อยากแชร์ฟิลลิ่งนี้กับทุกคน  

เวลาศิลปินมีผลงานใหม่ มักจะถูกเปรียบเทียบกับงานเก่า SIN รับมือความรู้สึกนี้อย่างไร 

SIN : ถ้าเป็นเรื่องงานเพลง ไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลย ค่อนข้างยึดกับสิ่งที่เราอยากนำเสนอมากกว่า ไม่ค่อยได้ดูเทรนด์ว่าเขาทำอะไรบ้าง อย่างช่วง SUPERNATURAL ที่อยากรู้ว่าอิเล็กทรอนิกส์บีทจะเป็นอย่างไร แต่ไม่ค่อยมายด์ว่าผลงานใหม่ๆ ต้องคนฟังเยอะกว่างานที่ผ่านมามั้ย เพราะเอาจริงๆ เรารักทุกเพลงและตั้งใจทำทุกเพลงที่ออกมาอย่างดีไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้นอยู่ที่คนฟัง อยู่ที่จังหวะเวลา มากกว่า 

ผลงานของ SIN เป็นเหมือนฑูตทางดนตรี อย่างเพลง “เบา เบา” ที่ศิลปินเคป็อปชอบร้อง เรารู้สึกในมุมนี้อย่างไร  

SIN : ดีใจมากๆ อยู่แล้ว ต้องขอบคุณศิลปินต่างๆ ที่พาเพลงนี้ไปในที่ที่ไม่คิดว่าจะไปได้ อย่างน้องเตนล์ WayV หรือน้องลิซ่า ที่เอาไปร้องหลายรอบมาก ก็ต้องขอบคุณที่ยังนึกถึงเพลงเรา และอยากให้คนอื่นได้ยินด้วย  

SIN

การทำงานในญี่ปุ่นกับอัลบั้ม Self - Portrait สอนอะไร SIN บ้าง  

SIN : รู้สึกว่าวงการเพลงของเขาเฉพาะตัวมาก ตอนนั้นไปเหมือนแบบใส่ผ้าปิดตาและเดินไปเลย อย่างการไป Meet & Greet ที่ Tower Records ที่ Thaifest ก็ไม่คิดว่าคนจากที่นั่นหรือจากสถานฑูตจะได้ยินเพลงเรา และรู้สึกว่าเราน่าจะไปเล่นได้ มีแอบไปแอบดูที่ Tower Records คือ คนที่นั่นมีหลากหลาย มีทั้งที่ชอบผลงานของศิลปินที่ชอบแล้วซื้อไปสะสม หรืออีกส่วนหนึ่ง ที่เขาเข้ามาใน Tower เพื่อไปยืนฟังซีดีใหม่ๆ ลองเสพงานใหม่ๆ และถ้าเค้าชอบแผ่นไหน ก็หยิบไปจ่ายเงินเลย 

ก้าวต่อไปของ SIN คืออะไร  

SIN : ถ้า Next Step ก็ยืนยันว่าอยากทำงานเบื้องหลังให้เยอะขึ้น อย่างล่าสุดมีไปทำเพลงประกอบซีรีส์ พระจันทร์มันไก่ (เพิ่งได้เข้าชิง Best Theme Song ในงาน Asian Television Awards 28th) การทำเพลงประกอบซีรีส์และหนัง เป็นสิ่งที่เราชอบและคิดว่าตัวเองทำได้ดีนะ แล้วก็เริ่มมีเขียนเพลงคนอื่นบ้าง ถ้าใครอยากร่วมงานกันเราเราก็ยินดีทั้งนั้น 

ก่อนกลับ SIN ทิ้งท้ายว่า “อยากฝากให้คนติดตามช่อง YouTube ของเรา เพราะตอนนี้เราเป็นศิลปินอิสระ เวลาปล่อยผลงานจะปล่อยในช่องตัวเอง ติดตามได้ทั้งทาง YouTube / IG : SINOFFICIAL ถ้ายังคิดถึงผลงานของเรา ก็จะได้ฟังเพลงของเรา คิดถึงเราเมื่อไหร่ก็เสิร์ชเข้าไป ได้ฟังแน่นอน”  

Photo : Thanapol W.