"ใหม่ พัชรี" ความรักชุบชีวิตจากตายทั้งเป็น ขึ้นแท่นหมอลำซิ่งสุดฮอต

"ใหม่ พัชรี" เปิดชีวิตตายทั้งเป็น พี่ชายฆ่าเผาพ่อต่อหน้าต่อหน้า ก่อนได้ความรักหญิงรักหญิง ช่วยชุบชีวิต ขึ้นแท่นหมอลำซิ่งสุดฮอต เจ้าภาพแห่จองงานแน่ตัวข้ามปี

ขึ้นแท่นเป็นหมอลำซิ่ง "ใหม่ พัชรี ไชยเลิศ" มีเจ้าภาพแห่จองคิว ไปทำการแสดงงานแน่นข้ามปี ทว่าบนเส้นทางกว่าจะก้าวมาตั้งวง "หมอลำซิ่งร่วมสมัย ใหม่ พัชรี ไชยเลิศ" ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทุกวันนี้ โหดหินเอาการ

ใหม่ เล่าให้ทีมข่าว Sanook.com ฟังระหว่างรอขึ้นเวทีแสดงคอนเสิร์ตหมอลำซิ่ง ที่ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ บ่ายวันหนึ่งในเดือนธันวาคม 2566 ว่า เธอเป็นคนบ้านคึมชาด ต.คึมชาด อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น หลังจากเรียนจบชั้น ม.3 ออกจากโรงเรียนมาเอาดีทางด้านการร้องการลำ (หมอลำ) โดยมี "ไหมไทย หัวใจศิลป์" ศิลปินชื่อดังเป็นครูคนแรก สอนเรื่องการร้องหมอลำ และลีลาการเอ็นเตอร์เทนหน้าเวที ก่อนไปสะสมประสบการณ์ สร้างชื่อเสียงกับวงดนตรีหมอลำคำผุนร่วมมิตร และประถมบันเทิงศิลป์ ตามลำดับ

"ประมาณ ม.3 แม่ก็บอกว่า ไม่มีเงินส่งเรียนแล้วนะลูก พ่อเราก็ตายไปแล้วไม่มีเงินส่งเรียน ไปอยู่กับวงหมอลำไหม ตัวเองชอบร้องชอบลำอยู่แล้ว ก็ไปร้องไปลำ ไปหัดร้องหัดลำ พอที่แบบว่าหาเงินหาทองช่วยแม่ ดูแลครอบครัวตัวเองได้ จบ ม.3 แล้วก็เลยไม่เรียนต่อ มาร้องมาลำกับคุณพ่อไหมไทย หัวใจศิลป์ค่ะ ถือว่าเป็นครูคนแรก สอนการเป็นหมอลำ สอนการเอ็นเตอร์เทนด้านหน้าเวที อยู่กับคุณพ่อไหมไทยประมาณ 9 ปี ก็ออกมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ"

ปัจจุบันเธอกำลังไปได้สวย ด้วยลีลาการเอ็นเตอร์เทนหน้าเวที แบบกล้าได้กล้าเสีย แสดงแบบสดๆ ไม่มีสคริปต์ พร้อมลื่นไหลไปได้ทุกสถานการณ์

"ถามว่าสไตล์การแสดงของใหม่เป็นแบบไหน ไม่สุภาพ ไม่เรียบร้อยก็ว่าได้เลยค่ะ ไม่เรียบร้อยดื้อ ไม่สนโลก กล้าพูดกล้าแสดงออก กล้าเด้งกล้าเด้า กล้าเล่น เวลาที่ใหม่แสดง ไม่มีสคริปต์ค่ะ ไม่มีสคริปต์ ทุกอย่างจะเรียลหมด เพราะว่าเราจะเจอคนหน้าเวที เจอคนดึง เจอคนตีกัน บางครั้งเราเจอคนที่หยาบมากใส่เรา แล้วก็เล่นโน่นนี่นั่น ใหม่ก็เข้าใจนะ เพราะว่าใหม่ก็เป็นสายดืม สายเฮฮาปาร์ตี้"

"มันจะมีทุกรูปแบบอยู่แล้ว กินแล้วก็หาเรื่อง กินแล้วก็ร้องไห้ กินแล้วก็สนุกสนาน ซึ่งเราเข้าใจอยู่แล้ว คำว่าสปิริตของศิลปิน หรือว่านักร้องหมอลำ เราจะต้องทำให้มันเต็มที่ เราจะต้องเอาตรงนั้นให้มันอยู่ แต่พอจบจากการแสดง ก็ใช้ชีวิตปกค่ะ สำหรับใหม่เนี่ย ใหม่ยังไม่รู้เลยค่ะว่า ยืนหนึ่งหรือไม่ยืนหนึ่ง ใหม่ยึดคำว่า ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ทุกๆ การแสดงที่ใหม่ได้รับการจ้างไป กว่าเขาจะเก็บเงินมาจ้างเราได้ เราต้องทำให้มันดีที่สุด"

ใหม่ เล่าต่อว่า ในห้วงเวลาที่เธอเริ่มหัดบินใหม่ๆ ไม่เคยคิดว่าอนาคตจะต้องก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินยิ่งใหญ่ เพราะในพบกับเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตมาแล้ว เห็นพี่ชายฆ่าแล้วเผาพ่อเสียชีวิตต่อหน้าต่อหน้า ต้องตกอยู่ในสภาพตายทั้งเป็น ภาพเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญวนเวียนอยู่ในหัว อกสั่นขวัญผวามานานนับสิบๆ ปี

"ถือว่าเป็นเรื่องที่ว่าตายทั้งเป็นก็ว่าได้" ใหม่บอกทั้งน้ำตา

จนกระทั่งเธอได้มาพบรักแบบผู้หญิงรักผู้หญิงกับ "ตุ๊กติ๊กน้อย ลักษิกา เคนหาราช" อดีตนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ผู้ชักชวนมาก่อตั้งวงหมอลำซิ่งร่วมสมัย ใหม่ พัชรี ไชยเลิศ และเป็นผู้จัดการวง ผู้จัดการส่วนตัว ในปัจจุบัน ความรักความหวังดีที่ตุ๊กติ๊กน้อยมอบให้เธอดุจยาขนานเอกช่วยชุบชีวิตจากตายทั้งเป็นจนเป็นใหม่ พัชรี โดดเด่นได้ในวันนี้

"พ่อของใหม่ถูกพี่ชายฆ่า ฆ่าแล้วก็เผาอยู่หน้าบ้าน ณ ตอนนั้น ใหม่อายุประมาณ 9-10 ปี ใหม่เป็นคนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ทั้งฆ่าแล้วก็เอาออกมาเผาอยู่หน้าบ้าน เหตุการณ์นั้นทำให้ใหม่อยู่คนเดียวไม่ได้ มันจะเป็นภาพหลอนในสมองค่ะ มาเข้าฝันตลอดเวลาเลย ตื่นสะดุ้งขึ้นมากลางดึกตลอดมากว่า 10 ปี จนมาพบกับตุ๊กติ๊กน้อย ตื่นขึ้นมาเขาก็จะบอก เธอมันผ่านไปแล้ว เรื่องเหตุการณ์แบบนี้มันผ่านไปแล้ว ให้ปลงแล้วก็ให้วาง ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว"

"คือชีวิตใหม่เกิดมาจากเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง ทำงานตั้งแต่อายุ 15 ปี ทำงานส่งเงินกลับบ้าน ส่งเงินกลับบ้าน ตัวเองนี่ กินต้มมาม่า 3 มื้อ ต้มมาม่าแล้วก็เทน้ำลง แล้วก็เอาข้าวมาใส่ เพื่อที่จะได้กินแบบ ให้ประทังชีวิตตัวเอง ตัวเองลำบากได้แต่คนทางบ้านห้ามลำบาก พอตั้งแต่มาพบผู้จัดการฯ หรือว่า เฮียตุ๊ก เขาเป็นคนมาพยุงใหม่ขึ้น วันแรกที่แกเข้ามา แกบอกว่า ทำหมอลำซิ่งดูไหม ถ้าเกิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แสดงว่าเธอไม่ได้เหมาะสมกับสายนี้ แล้วเราก็ค่อยไปทำงานอย่างอื่น"

ด้าน ตุ๊กติ๊กน้อย เล่าเส้นทางความรักเสริมว่า "ตอนที่มาพบน้อง มาเจอใหม่ ก็คือเราทำธุรกิจเกี่ยวกับพวกขายออนไลน์ มาพบเขาแล้วก็เลยได้มาคุยกัน จากที่ตอนแรกจะเอาเขามาเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ หรืออะไรอย่างนี้ ก็กลายเป็นความรัก เราก็เลยมาเกื้อหนุน และก็ช่วยกันบริหาร ใหม่มีหน้าที่แค่จับไมค์ หน้าเวทีน้องก็จัดสรรของน้องให้ดี ในเรื่องของหลังบ้านก็คือเป็นหน้าที่ของตุ๊ก"

ในการพูดคุยกันครั้งนี้ ใหม่ บอกด้วยว่า ช่วงที่เริ่มเปิดเรื่องความรักระหว่างเธอกับตุ๊กติ๊กน้อยให้สังคมรับรู้ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นาๆ บ้างก็ไม่เห็นด้วยกับความรักแบบหญิงรักหญิง บ้างก็สนับสนุนเพราะประทับใจในการเกื้อหนุนอุ้มชูกันทำวงหมอลำซิ่งจากศูนย์จนประสบความสำเร็จ ได้รับความนิยมจากมิตรหมอแคนแฟนหมอลำอย่างแพร่หลาย

เธอเลือกที่จะมองข้ามเสียงวิพากษ์วิจารณ์แง่ลบ และเดินหน้าพิสูจน์ให้เห็นว่า ความสวยงามของความรัก ไม่ได้มีข้อจำกัดที่เพศสภาพ หากแต่ขึ้นอยู่กับว่าคู่รักนั้นรักกันจริงแท้แค่ไหน พร้อมจะสู้ไปด้วยกันเพื่อเอาชนะปัญหาและอุปสรรคที่เข้ามาเป็นบททดสอบหรือไม่

"มันจะมีแบบบางครั้งในคอมเมนต์ แบบว่าอุ๊ยทำไมเอาผู้หญิงมาเป็นแฟน เสียชาติเกิด ผู้หญิงมันจะแค่ไหน มันจะเก่งแค่ไหน ใหม่มองข้ามค่ะ เขาไม่รู้จักเราจริง แล้วก็คนพวกนั้น แค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่คนที่จะอยู่กับเรา คือผู้หญิงคนนี้ ที่แบบเขาสร้างกับเรามา และเขามีกับเรามา เวทีเครื่องเสียง หรือว่าจะเป็นสำนักงานหมอลำซิ่งร่วมสมัย ใหม่ พัชรี ไชยเลิศ ที่ใหม่ พัชรี มายืนอยู่จุดๆ นี้ได้ เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ ในตอนที่เราเป็นไข้ป่วยก็ผู้หญิงคนนี้แหละที่ดูแลเรา และในตอนที่เราเจอปัญหา ก็ผู้หญิงคนนี้แหละที่โอบกอดเรา แล้วก็ต่อสู้ไปกับเรา"

ด้าน ตุ๊กติ๊กน้อย กล่าวเสริมขึ้นมาว่า "เขาเป็นคนตรงๆ ค่ะ เป็นคนคิดแบบไหนพูดแบบนั้น คือชอบเขาตรงจุดนี้ เอาตรงๆ คือว่านิสัยมันคล้ายๆ กันตอนที่เขาเห็นแรกๆ เขาดูถูกเราว่า เฮ้ยมันจะไปกันรอดเหรอ จนทุกวันนี้คนยอมรับว่า แบบนี้เด้อ"

"ใหม่เคยผ่านชีวิตการมีครอบครัวเป็นผู้ชายมาแล้ว และก็มีลูกแล้ว รู้แล้วผ่านมาแล้ว มันไม่สำคัญว่า เราจะรักผู้หญิงหรือรักผู้ชาย รักทอมรักเกย์ รักใครไม่สำคัญ เราสำคัญตรงที่ว่า เราแค่รักผู้หญิงคนหนึ่ง และเขาพร้อมที่จะสู้ไปกับเรา" ใหม่ พัชรี กล่าวปิดท้าย