รีวิว NCT 127 THE UNITY TOUR IN BANGKOK คอนเสิร์ตในฝันของแฟนๆ แบบติ๊กถูกทุกข้อ
รีวิวคอนเสิร์ต คอนเสิร์ต NCT 127 3RD TOUR 'NEO CITY : BANGKOK - THE UNITY จะมีสักกี่คอนเสิร์ตที่กดดูแฮชแท็กแล้วแฟนๆ ไม่นอย มีแต่คำชม เพราะเป็นคอนเสิร์ตในฝันที่สุดแสนจะเครซี่ดีงามทุกภาคส่วน ทั้งผู้จัด โปรดักชั่น ศิลปิน และแฟนคลับ
เป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตของศิลปินเกาหลีที่เป็น talk of the town ออกไปถึงคนทั่วไปที่ไม่ได้ฟัง K-POP เพราะสถานที่ในการจัดงานค่อนข้างน่าสนใจ ธรรมศาสตร์สเตเดี้ยมไม่เคยจัดคอนเสิร์ตศิลปิน K-POP ที่เป็นทัวร์คอนเสิร์ตจริงจังเลย งานล่าสุดน่าจะเป็นงาน 2018 HEC KOREA CONCERT คอนเสิร์ตฉลองความสัมพันธ์ไทย-เกาหลีที่เป็นคอนเสิร์ตรวมศิลปินเท่านั้น และได้รับฟีดแบ็กในเรื่องของสถานที่ไม่ค่อยดีนัก จึงถือว่าเป็นเรื่องที่น่าท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้จัดที่จะเนรมิตสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นคอนเสิร์ตสเกลสเตเดี้ยมที่แฟนๆ ตั้งหน้าตั้งตารอคอยได้อย่างไร
NCT 127 3RD TOUR 'NEO CITY : BANGKOK - THE UNITY' เป็นทัวร์คอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการครั้งที่ 3 ของวง NCT 127 ในครั้งนี้มีการอัปเดตสถานที่แบบเกือบจะเรียลไทม์ในโซเชียลมีเดียจากนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อยู่ทุกวัน (หรือแทบจะทุกชั่วโมง) ไหนจะพญานาคที่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าสเตเดี้ยมที่แฟนคลับต่างประเทศฮือฮานึกว่าทีมงานไทยจัดขึ้นมาเพื่อคอนเสิร์ตนี้โดยเฉพาะ (แต่จริงๆ เป็นของมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว) อัปเดตข้อมูลวิธีเดินทาง ร้านอาหาร จุดพักหลบแดด ที่พักรอบมหาวิทยาลัย ไปจนถึงรวมตัวเหมารถตู้เพื่อเดินทางไปกลับด้วยกันเป็นกลุ่มๆ
คอนเสิร์ต NCT 127 3RD TOUR 'NEO CITY : BANGKOK - THE UNITY' คอนเสิร์ตแรกของศิลปินค่าย SM Entertainment ที่ได้จัดในสเกลสเตเดี้ยมในไทย จัดขึ้นในวันที่ 27-28 มกราคม 2567 ที่ธรรมศาสตร์สเตเดี้ยม โดยผู้จัด SM True ความจุของสนามรวมสองวันกว่า 50,000 ที่นั่ง บัตรขายหมดเกลี้ยงทุกใบ ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปชมคอนเสิร์ตทั้งสองวัน เห็นถึงความคึกคักของแฟนๆ หน้างาน ทั้งแต่งตัวกันเต็มที่ แจก giveaway รวมตัวกันถ่ายรูปรวมแท่งไฟ รวมตุ๊กตา ทำกิจกรรมอย่างมากมายท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยงในช่วงบ่าย
หลังจากก้าวเท้าเข้าสู่สนามกีฬา เวทีในสนามกีฬามีขนาดใหญ่ ดีไซน์เป็นจั่วสามเหลี่ยม มีจอหลักและจอเสริมสำหรับคนดูด้านริมซ้ายขวา เวทีมีทั้งเวทีหลัก เวทีกลาง และเวทีรองที่ยื่นมาใกล้ผู้ชมมากขึ้น เวลา 18.00 น. ในสเตเดี้ยมก็เริ่มเปิดเพลง “Fact Check” ทดสอบระบบบลูทูธกับแท่งไฟ และเริ่มคอนเสิร์ตทันทีแบบไม่เลตทั้งสองวัน
เซ็ตลิสต์ของคอนเสิร์ต NCT 127 3RD TOUR 'NEO CITY : BANGKOK - THE UNITY' ในครั้งนี้ NCT 127 ภูมิใจนำเสนอมาก และมีความกล้าพอสมควรที่จะเลือกเพลงที่ไม่ได้เป็นเพลงที่คนทั่วไปคุ้นหูมากนักมาเปิดคอนเสิร์ต ทั้ง “Punch”, “Superhuman” และ “Ay-Yo” แต่คิดว่าเวอร์ชั่นรีมิกซ์และเพอร์ฟอร์มานซ์ทำออกมาได้ดีตรงคอนเซ็ปต์ The Matrix ที่ทางวงวางเป็น reference เอาไว้ โชว์เปิดตัวทำออกมาได้เท่และน่าตื่นเต้นกว่าที่คิด สมาชิก NCT 127 โชว์เต้นและร้องได้เท่สะกดตาคนดูมากๆ ตั้งแต่ต้นยันจบเพลงไปแบบไม่รู้ตัว
จากนั้น เข้าสู่ช่วงโชว์ถัดไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีพัก ช่วงแรกเป็นเพลงจาก 2 อัลบั้มเต็มล่าสุดทั้งหมด (2 Baddies, Ay-Yo ที่เป็นรีแพกเกจ และ Fact Check) จึงทำให้ช่วงของโชว์เป็นช่วงแนะนำเพลงใหม่ ซึ่งก็ถือว่าเลือกได้ดี เพราะเป็นช่วงที่แฟนๆ ยังมีเอเนอร์จี้อยู่เพราะคอนเสิร์ตเพิ่งเริ่ม โดยเลือกเป็นเพลงจังหวะกลางถึงเร็ว เพลงหม่นๆ (“Crash Landing”, “Time Lapse”, “Skyscraper”) น่ารักสดใส (“Space”, “Parade”, “DJ”, “Yatch”) และเซ็กซี่ (“Je Ne Said Quoi”) ส่วนตัวนอกจาก “Space” ที่มีเต้นเป็นคู่ๆ และ “Yatch” เพลงน่ารักๆ ที่ชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยังประทับใจ “Je Ne Sais Quoi” ที่ NCT 127 โชว์เสน่ห์เท่ๆ เซ็กซี่ๆ นิ่งๆ ออกมาได้ดีพร้อมกับเสียงร้องสดที่สดมากๆ แบบแทบไม่มีแบ็กกิ้งแทร็กเลยตลอดทั้งโชว์
ช่วงกลาง เป็นเมดเลย์มิกซ์มันๆ ของเพลงดังเก่าๆ ที่คุ้นหูแฟนๆ ทั้งในและนอกด้อม “Fire Truck” เพลงเก่าเพลงเดบิวต์เมื่อ 8 ปีที่แล้ว มาพร้อมรถดับเพลิงและปืนพ่นควัน มิกซ์เพลงใหม่กี่ทีก็ยังมันเหมือนเดิม, “Chain” + “Cherry Bomb” อย่างละครึ่งเพลง เดือดดาลและสนุกมาก, “Sit Down!” แสดงครั้งแรกในทัวร์คอนเสิร์ต เป็นเพลงจากอัลบั้ม NEO ZONE ที่ไม่ได้ร้องในทัวร์คอนเสิร์ต The Link มาพร้อมเอฟเฟกต์ไฟลุกร้อนระอุทั้งสเตเดี้ยม แสดงได้ดีสมการรอคอยของแฟนๆ หลายคนด้วยแนวอาร์แอนด์บีอีดีเอ็มดาร์คๆ เท่ๆ แต่ละคนแสดงอินเนอร์ออกมาได้ดีมาก
พักเหนื่อยเพื่อโชว์พลังโวคอลด้วยเซ็ตเพลงช้าที่ทำได้ดีเช่นเคย ครั้งแรกในไทยของ “Gold Dust” ที่แฟนๆ ได้เปิดแฟลชมือถือเหมือนคอนเสิร์ตที่เกาหลี ในเพลง “Fly Away With Me” มิกซ์ใหม่ครึ่งเพลง เพิ่มท่อนแร็ปและโวคอลเข้าไปใหม่ ทรงพลังและส่งอารมณ์ได้ดี ทั้งสเตเดี้ยมเงียบกริบเพื่อฟังพวกเขาร้องเพลงกันกันจริงๆ (สลับกับกรี๊ดให้ท่อนไฮโน้ต) การดีไซน์ฉากบนเวทีของเพลงนี้ทำให้มองไม่ค่อยเห็นศิลปินเท่าไร เพราะให้ศิลปินยืนบนสลิงที่ซ่อนอยู่ในฉากจั่วสามเหลี่ยม แล้วลดไฟลงจนเกือบมืดสนิท คาดว่าจงใจให้โฟกัสที่เสียงและเพลงทั้งศิลปินและคนดู ต่อด้วย “White Lie” และ “Love Is A Beauty” บัลลาดอาร์แอนด์บีที่ดีงาม สวยงามและอบอุ่น แม้ว่าจะเป็นช่วงเพลงช้าติดๆ กัน แต่ดูแล้วไม่ง่วงและอิ่มเอมกับเสียงร้องของทุกคนอย่างเต็มที่จริงๆ
แต่ NCT 127 ไม่ปล่อยให้แฟนๆ ง่วงแน่นอน โชว์กลับมาเดือดอีกครั้งกับเซ็ตชุดแดงทั้งตัวทุกคน นอกจาก “Tasty” ที่เคยเล่นไปแล้วในคอนเสิร์ต The Link+ (encore ของ The Link เฉพาะที่เกาหลี) ที่มาพร้อมโชว์เดิมเนรมิตโต๊ะสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดและเก้าอี้เหมือนโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ เต้นไปควักผ้าเช็ดปากสีแดงสดเหมือนชุดออกมาแสดงด้วยแล้ว ที่เหลือเป็นเพลงคุ้นหูแฟนๆ ส่วนใหญ่ทั้งหมด ทั้ง “Simon Says” และ “Favorite (Vampire)” ที่มีพลุกระดาษสีแดง ระบายสีแดงฉานทั่วเวที
และก็มาถึงช่วงไฮไลตอีกช่วงของคอนเสิร์ตกับ 3 เพลงโนแรบัง (คาราโอเกะ) ที่ NCT 127 ให้แฟนๆ ร้องตามกันดังๆ เหมือนร้องคาราโอเกะ ผลคือดังจริง ดังจนหูอื้อ ดังทะลุนอกสเตเดี้ยม โดยเฉพาะ “Kick It”, “2 Baddies” และ “Fact Check” 3 เพลงติดสูบพลังทั้งศิลปินและแฟนคลับ ยิ่งแฟนคลับร้องดัง ศิลปินยิ่งเต้นแรงและร้องดังยิ่งกว่า ทั้งว๊ากทั้งตะโกนเชียร์อัพกันเต็มที่ โดยเฉพาะ “Fact Check” เพลงจากอัลบั้มเต็มชุดล่าสุดที่ส่วนตัวคิดว่าแฟนๆ ร้องตามกันดังที่สุด
ช่วงท้ายของโชว์ มีรถรางที่แบ่งสองทีมฝั่งละ 4 คนวิ่งคนละฝั่งซ้ายขวาสลับฝั่งกันสองวัน พร้อมกับเพลง “Angel Eyes” และ “Pandora’s Box” เพลงจากอัลบั้ม NEO ZONE ที่เปิดตัวในทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกเช่นกัน (ไทยเป็นที่เดียวนอกจากเกาหลีที่ได้เพลงนี้ คาดว่าเพิ่มเพลงเพื่อเพิ่มเวลาสำหรับเลื่อนรถราง) ต่อด้วยเพลงน่ารักๆ จากมินิอัลบั้มฤดูหนาว “Be There For Me” เพลงใหม่ล่าสุดที่เพิ่งปล่อยเมื่อเดือน ธ.ค. 2023 ที่ผ่านมา ไม่วาย NCTzen ชาวไทยก็ยังร้องตามกันได้ในท่อนฮุก และจบจริงๆ หลังอังกอร์ด้วยเพลงความหมายดีเพลงเดิมกับทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่แล้ว “Promise You” เหมือนจะสัญญากับแฟนๆ ว่าจะกลับมาเจอกันอีกแน่นอน
ตลอดโชว์ 3 ชั่วโมง NCT 127 ทำการแสดงได้สมฉายา god of performance ครบทุกด้านทั้งร้อง เต้น เอนเตอร์เทน เอาอยู่ทั้งเพลงเร็วเพลงช้า เห็นพัฒนาการของทุกคนว่าทำได้ดีขึ้น ร้องสดดีขึ้น (มาก) ส่งอารมณ์ และเข้าถึงเพลงมากขึ้น แสดงได้อย่างผ่อนคลายอิสระมากขึ้น เอนเตอร์เทนเก่งขึ้น ดูไม่เกร็งไม่ตื่นเต้นจากประสบการณ์โชกโชนหลายปี
สิ่งที่ขอชื่นชมและเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คอนเสิร์ตนี้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น คือบรรยากาศโดยรวมในคอนเสิร์ตน่ารักเรียบร้อยดี ไม่มีเหตุการณ์ยืนบนเก้าอี้บดบังทัศนวิสัยให้หงุดหงิดใจเล่นเหมือนคอนเสิร์ตหลายๆ คอนเสิร์ตที่ส่วนตัวได้ไปดูมา นอกจากนี้ยังมีแฟนโปรเจกต์กล่องไฟ LED เรียงตัวอักษรสวยงามเพื่อฉลอง 127 Day (วันพิเศษของ NCT 127 โดยเป็นเดือน 1 วันที่ 27 ของทุกปี) ที่จัดในวันที่ 27 ม.ค. และวันที่ 28 ม.ค. กับภาพเครื่องบินและหัวใจ พร้อมข้อความซึ้งๆ โดยมีช่วงขำๆ จากแฟนโปรเจกต์ที่มีข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ แบบน่ารักๆ ให้ศิลปินชวนคุยชวนวิเคราะห์กันสนุกสนานขำๆ กันไป ทำให้บรรยากาศในคอนเสิร์ตยิ่งน่ารักอบอุ่นมากขึ้นด้วย
จากหน้าไทม์ไลน์คงเห็นแล้วว่าคอนเสิร์ต NCT 127 3RD TOUR 'NEO CITY : BANGKOK - THE UNITY' ฟีดแบ็กดีมาก ผู้จัดรับฟีดแบ็กจากแฟนๆ แล้วอำนวยความสะดวก แก้ไขเพิ่มเติมตลอด เช่น ธงรูปศิลปินหน้างานยับก็เอามาทำให้เรียบแล้วแขวนใหม่ ให้เอาน้ำดื่มเข้าได้ (ขวด 350 มล.กี่ขวดก็ได้) จัดตั้งธงและป้ายศิลปินให้ถ่ายรูปหลายจุดมากๆ จึงทำให้แฟนๆ ไม่ต้องกระจุกตัวต่อคิวถ่ายรูปแค่ที่เดียว นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร บริการรถ shuttle ในมหาวิทยาลัย ห้องน้ำเสริมจำนวนมาก ตู้ถ่ายสติกเกอร์ ให้แฟนๆ ทำฆ่าเวลาได้ทั้งวันก่อนถึงเวลางาน เห็นมีจุดเพิ่มสัญญาณอินเตอร์เน็ตเข้ามาช่วยด้วย แต่วันจริงอินเตอร์เน็ตก็ยังช้าอยู่ดี คนคงเยอะมากจริงๆ
ผู้จัดเตรียมทีมงานจำนวนมากคอยอำนวยความสะดวกและให้บริการดี ปรับปรุงเก้าอี้ใหม่ทั้งสเตเดี้ยม วันคอนเสิร์ตสามารถลำเลียงคนกว่า 25,000 คนเข้าสเตเดี้ยมได้ดีในระดับหนึ่งในวันแรก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้นในวันที่สอง เพราะแบ่งโซนนั่งตั้งแต่ประตูทางเข้าชัดเจน ตรวจกระเป๋าเร็ว จับคนฝ่าฝืนกฎ (เอากล้องเข้ามา) ได้รวดเร็วเอาจริงเอาจัง มีคนเลื่อนเก้าอี้กันเองก็เข้ามาช่วยจัดการให้ และขึงเชือกกันคนลากเก้าอี้เองในวันถัดไป มีน้ำดื่มขาย และเพิ่มห้องน้ำให้ด้านในสเตเดี้ยม และยังมีแท่งไฟยักษ์หน้าสเตเดี้ยมที่เปลี่ยนสีไฟตามเพลงในคอนเสิร์ตให้แฟนๆ ด้านนอกได้ชมอีกด้วย
ส่วนตัว NCT 127 เองก็เอนจอยสุดๆ ดูแฮปปี้กันจริงๆ เล่นกันสนุกทั้งตอนแสดงและตอนพูดคุย ถามแฟนคลับว่าพร้อมไหมเสร็จ ก็หันไปถามสมาชิกกันเองทีละคนว่าพร้อมไหม ศิลปินร่วมเล่นเวฟไปกับแฟนๆ ด้วย ใส่สุดเต้นแรงตามเสียงร้องเสียงกรี๊ดของแฟนคลับ และเมนต์ (ช่วง talk) แต่ละคนชมแฟนไทยไม่หยุด แทยงถึงขั้นบอกว่ามีความสุขมากจนกังวลว่าจะมีความสุขมากขนาดนี้ได้อีกเมื่อไร (กำลังจะเข้ากรม) นอกจากนี้ศิลปินกับทีมงานยังใส่ใจเตรียมภาษาไทยน่ารักๆ มาให้พวกเขาพูดเพียบ ทั้ง “ฟ้ารักพ่อ”, “ผมจะเครซี่”, “นอยอ่า” และอีกสารพัดมุกจีบสาวน่ารักๆ แฟนคลับก็รีแอคดี เป็นบรรยากาศคอนเสิร์ตในฝันของแฟนคลับและศิลปินจริงๆ
ในส่วนของโปรดักชั่นบนเวทีดีมาก จอ LED ขนาดใหญ่ เวทีไฮโดรลิก และเวทีรองยื่นมาถึงคนดูมากขึ้น รถราง พลุ กงเฟติ ปืนยิงควัน เลเซอร์ โดรน ตระการตาดี มีข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในวันแรกที่จอเสียนิดหน่อยและเปิดเพลงผิดคิวไปแปบนึงบ้าง แต่ก็แก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ไม่เสียอรรถรสในการชม
แอบเสียดายเล็กๆ เพราะยังคงไม่มีดนตรีสด เพื่อเพิ่มความสดใหม่ของภาคดนตรี ดีไซน์เวทีทำให้ดูสวยเฉพาะมุมตรง มุมเอียงจะดูโชว์ที่อยู่บนสลิงไม่เห็นเลย 2-3 เพลง แต่ดูจอเอาได้ และแอบอยากเห็นพลุยิงขึ้นฟ้า ไหนๆ ก็เป็นสเตเดี้ยมกลางแจ้ง แต่ติดข้อจำกัดเรื่องสถานที่สเตเดี้ยมที่ตั้งอยู่ในชุมชนที่อาจรบกวนผู้คนแถวนั้นได้ และในส่วนของรถรางถ้าศิลปินวิ่งให้แฟนๆ เห็นทั้งสองฝั่งสลับรถกันครบ 8 คนทั้งสองด้านซ้ายขวา ยังไม่ต้องรีบขึ้นเวทีก็น่าจะดี
มาถึงประเด็นสำคัญของงานนี้คือ สถานที่ ส่วนตัวคิดว่าธรรมศาสตร์สเตเดี้ยมยังไงก็ยังไม่เหมาะกับการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ เพราะใกล้สถานศึกษา รบกวนนักศึกษาเตรียมสอบ และยังคงเดินทางลำบาก หลายคนเหมารถตู้กันเอง ค่าเดินทางสูงมาก รถติดเพราะมีรถส่วนตัวเข้ามาเยอะและแผนผังถนนในมหาวิทยาลัยออกแบบมาลักษณะคอขวดจึงทำให้รถติดง่าย แต่ด้วยการจัดการที่ดีของผู้จัด รวมถึงแฟนๆ ที่เตรียมตัวกันมาค่อนข้างดีในการรับมือกับการเดินทางด้วยการรับไปตั้งแต่เนิ่นๆ ขากลับค่อยๆ ทยอยกลับ ทำให้ทุกอย่างก็ยังถือว่าเป็นไปได้ด้วยดีประมาณหนึ่ง แต่คิดว่าถ้ายังอยากแสดงในสถานที่นี้อีกในครั้งหน้า อาจจะต้องหลีกเลี่ยงการจัดงานในช่วงที่มีกิจกรรมสำคัญๆ ของมหาวิทยาลัย เช่น วันสอบต่างๆ
นอกจากนี้ ระบบซื้อขายบัตรในเว็บไซต์ ต้องมีมาตรการป้องกันบอทลงอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันปัญหาบัตรเหลือล้นมือของแฟนๆ จนแฟนๆ เอาบัตรออกมาเร่ขายต่อกันในโซเชียลมีเดียมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าทางผู้จัดและเว็บไซต์รับรู้ถึงปัญหานี้แล้ว และคิดว่าจะมีการปรับปรุงแก้ไขกันในอนาคตอย่างแน่นอน
แต่โดยรวมถือว่าทำได้ดีในทุกภาคส่วนแบบติ๊กถูกทุกข้อ เรียกได้ SM True โกยคำชมจากแฟนๆ ไปหนาหูหนาตามากในครั้งนี้ รวมถึงทีมโปรดักชั่น Media Vision ที่อุปกรณ์ครบครันสวยงาม และยกเครดิตให้ทีมงานจากเกาหลีที่รีเควสอุปกรณ์ทุกชิ้นส่วนอย่างดีเพื่อแฟนๆ ทุกคน รวมถึงแฟนๆ ต่างร่วมมือกันรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย และแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ให้แก่กันจนแฟนๆ หลายคนต่างบอกว่าครั้งหน้าจะไม่พลาดแน่นอน เพราะฉะนั้นที่นั่งวันละ 25,000 คนดูท่าจะไม่พออีกต่อไป จากธันเดอร์โดม ไปอิมแพ็ค อารีน่า สู่ธรรมศาสตร์สเตเดี้ยม ในอนาคตอันใกล้นี้ NCT 127 เตรียมมุ่งหน้าสู่ราชมังคลากีฬาสถาน พร้อมคอนเสิร์ต 2 วันเป็นอย่างน้อยอีกวงหนึ่งแน่นอน
อัลบั้มภาพ 23 ภาพ