Cheat Code งัดไฮไลท์เด็ด เสิร์ฟความจี้ดจ้าดต่อเนื่อง Together festival 2024

Together festival 2024 ครั้งที่11 ยังคงคราคร่ำไปด้วยขาปาร์ตี้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่แต่ละบีทของทุกบทเพลงที่เปิดออกมาผ่านลำโพงที่มีระบบเสียงที่แน่นปึ้กสุดๆได้เข้าไปกระตุกต่อมแดนซ์ให้ทุกคนพร้อมใจกันวาดลีลาออกสเตปแดนซ์กันแบบนอนสต็อปเลยทีเดียว  ในปีนี้ความเก๋าของงานคือการคัดสรรดีเจระดับท็อปของโลก ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้มาอวดทักษะการมิกซ์เพลงเซิร์ฟเหล่าแฟนๆที่ยังคงเต็มที่ไปกับทุกบีทและทุกฮุคที่บรรเลงออกมา

และหนึ่งในดีเจคนสำคัญที่แฟนเพลงชาวไทยรอคอยก็คือ Cheat Codes วงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์สัญชาติอเมริกัน ส่งตรงจาก Los Angeles โลดแล่นสู่ความสำเร็จด้วย Single ฮิตอย่าง "Sex" ในปี 2016 ที่ร่วมงานกับ Kriss Kross Amsterdam และ "No Promises" ในปี 2017 ที่ได้ Demi Lovato มาร่วม featuring ซึ่งเพลงนี้ได้รับรางวัล Platinum อีกด้วย

Cheat Codes

กลุ่ม Trio นี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 ประกอบด้วย 3 หนุ่ม KEVI (Kevin Ford / Prince$$ Rosie), Trevor Dahl และ Matthew Russell โดยมีแรงบันดาลใจจากแนวคิดการค้นหา "Cheat Codes" ของชีวิต ผ่านความหลงใหลและความมุ่งมั่น, Single แรกของพวกเขาอย่างเพลง "Visions" ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ท Hype Machine ในปี 2015 ตามมาด้วยเพลงฮิตอย่าง "Let Me Hold You (Turn Me On)" และ "Adventure" Cheat Codes ตอกย้ำความแข็งแกร่งของพวกเขาด้วยการแสดงสดใน Festival ระดับใหญ่และการทัวร์ร่วมกับ The Chainsmokers ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

เพลงของคุณทั้ง 3 มักจะผสมผสานองค์ประกอบของอิเล็กทรอนิกส์ ป๊อป และ ประเภทการเต้นรำ คุณช่วยบอกเราเกี่ยวกับกระบวนการสร้างสรรค์ได้ไหมเบื้องหลังการผสมผสานสไตล์ที่แตกต่างเหล่านี้ ?

ใช่ ส่วนใหญ่มันเริ่มจากเสียงร้องก่อน เช่น แนวคิดเกี่ยวกับเสียงร้อง และสร้างการทำให้ออกมาตามนั้น พวกเราเริ่มมาจากเพลง Pop Dance ตรงกันข้ามคือพื้นฐานการเต้น คือเราแต่งเพลง มันไม่ใช่แค่เราทำดนตรีเอง แต่เราเขียนเนื้อร้อง ร้องเพลงเอง เราทำทุกอย่าง

ดังนั้นเรามองมันในมุมของนักแต่งเพลงมากกว่า ซึ่งตรงกันข้ามกับมุมมองของโปร์ดิวเซอร์ เราไม่ได้คิดแค่ให้มันออกมาเป็นจังหวะ สิ่งที่ได้มาคือตัวตนของพวกเรา เราเริ่มต้นกันแบบนั้น เหมือนกับความได้เปรียบของเราในเรื่องดนตรีแดนซ์ ที่สามารถแตกต่างออกไปได้นิดหน่อย

Cheat Codes

การแสดงสดของพวกคุณมีพลังและน่าดึงดูดมาก คุณเปลี่ยนเสียงเพลงที่สร้างในสตูดิโอของคุณให้เป็นการแสดงสดได้อย่างไร และคุณหวังว่าผู้ชมจะได้อะไรจากการแสดงของคุณ ?

เอกลักษณ์ขอพวกเราทั้ง 3 คนคือ พยายามรวมเสียงร้องสดเข้าด้วยกัน เควินแร็พในเพลงของเราเป็นบางครั้ง ดังนั้นการได้แสดงสดจึงค่อนข้างทำให้เพลงค่อนข้างพิเศษขึ้น

เราทำหลายอย่างในการแสดงสดแต่ละครั้ง เช่น ลองเล่นเพลงในเวอร์ชันที่แตกต่างจากที่คุณอาจเคยได้ยินใน Spotify ด้วยวิธีนี้ มันเหมือนกับว่าคุณได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างกันสองอย่าง พวกเราอยากทำให้คนดูตื่นเต้น และสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบนเวที พวกเราอยากสร้างความบันเทิงให้คนดู

Cheat Codes ประสบความสำเร็จอย่างมากกับเพลงอย่าง "No Promises" และ "Let Me Hold You (Turn Me On)" จนถึงตอนนี้มีไฮไลท์ในอาชีพของคุณอะไรบ้าง ?

สำหรับเรา ฉันหมายถึง มันยากที่จะอธิบาย เช่น ไฮไลท์บางอย่างเมื่อพูดถึงเพลงที่กำลังโด่งดัง เพราะคุณชอบ อธิบายความรู้สึกนั้นอย่างไร เพราะมันเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นที่ทุกคนรู้

บางอย่างที่ถือเป็นไฮไลท์สำหรับพวกเรา ก็มีการแสดงบางรายการ เช่นที่ Madison Square Garden หรือที่ The Forum เราแสดงที่นี่มา 2-3 ครั้ง แต่ลองนึกดูว่า ณ​ สถานที่นี้ ทีม Lakers เคยแข่งบาสเกตบอลที่นี่เหมือนกัน มันเจ๋งมาก หรือการได้เล่นที่ Lollapalooza สำหรับพวกเราพวกสถานที่ในตำนานที่เราฝันอยากจะเล่นคอนเสริต์มาตลอดตั้งแต่เด็ก คิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนไฮไลท์สำคัญของพวกเรา

Cheat Codes

การทำงานร่วมกันกับศิลปินคนอื่น ดูเหมือนจะเป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของ Cheat Codes คุณสามารถแบ่งปันประสบการณ์หรือเรื่องราวที่น่าจดจำ จากการทำงานร่วมกับศิลปินคนอื่นๆ ในสตูดิโอได้ไหม ?

ขอผมคิดก่อน มีหลายคนมาก เช่น วง U2 พวกเราทำงานกันในห้องอัด แต่การได้ออกไปทานอาหารกลางวันกับ Edge หรือการทำงานร่วมกับ Bono ได้โดยตรง กลับไปกลับมาเพียงแค่โทร ส่งข้อความ และอะไรต่างๆ นั่นเป็นช่วงเวลาที่เจ๋งจริงๆ สำหรับพวกเรา คุณรู้ไหมเขาทั้งคู่คือสมาชิกวง U2 วงดนตรีระดับตำนาน ดังนั้นการได้ร่วมงานกับพวกเขา ได้สัมผัสว่าพวกเขาจริงจังกับดนตรีของพวกเขาแค่ไหน และพวกเขาก็ทำงานหนักแค่ไหนจริงๆ มันให้ความรู้สึกเหนือจริงมากที่เคยทำงานกับ 2 คนนี้ พวกเราจะไม่มีวันลืม

สุดท้ายนี้ แฟน ๆ คาดหวังอะไรจาก Cheat Codes ในอนาคตได้บ้าง? มีโปรเจ็กต์หรือความร่วมมือที่กำลังจะเกิดขึ้นที่คุณรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษหรือไม่ ?

มีครับ เยอะเลยทีเดียว พวกเรามีเพลงที่ทำกับ Train กำลังจะออกเร็วๆนี้ พวกเราตื่นเต้นมาก คือพวกเราโตมากับการฟังเพลงของเขา ร้องเพลงพวกเขา รอกันประมาณซัก 2 เดือนนะครับ นอกจากนี้ ก็ยังมีเพลงอื่นๆที่เตรียมทำ มีหลายอย่างที่พวกเรากำลังทำอยู่และจะทำออกมาให้ดีที่สุดเพื่อแฟนเพลง