"บุ๊ค ศุภกาญจน์" เมินโกยเงิน 3 เดือน เพื่อเก็บเกี่ยวช่วงเวลาแสนพิเศษ
"บุ๊ค ศุภกาญจน์" ปลื้มได้ลูกสาวตั้งชื่อ "น้องแตงหวาน" ตั้งใจเลี้ยงให้เติบโตมากับความสุข พักงาน 3 เดือน ไม่เสียดายโอกาสโกยเงินโกยทอง ขอเก็บเกี่ยวช่วงเวลาแสนพิเศษ
"บุ๊ค ศุภกาญจน์" นักร้องอินดี้อีสาน เจ้าของเพลงดัง "สวยขยี้ใจ" เป็นปลื้มสุดๆ "น้องอ้าย" ภรรยา คลอดลูกสาว ตั้งชื่อ "น้องแตงหวาน"
นักร้องหนุ่ม เปิดใจกับทีมข่าว Sanook.com เล่าความรู้สึกวินาทีเห็นหน้าลูกสาวว่า ดีใจที่ลูกสาวและภรรยาแข็งแรง รู้สึกเหมือนได้กลิ่นอายของฤดูกาลใหม่
"วินาทีที่เห็นหน้าลูกสาว เรารู้สึกแบบ ได้กลิ่นของฤดูกาลใหม่ ดีใจมากที่สุด และที่ดีใจมากไปกว่านั้นก็ คือ เธอแข็งแรงปกติ สมบูรณ์ดี ผมตั้งชื่อลูกสาวว่า แตงหวาน อยากให้เธอ เป็นผู้หญิงที่สดใสครับ ภรรยาชื่อ น้องอ้าย ครับ อายุห่างกันประมาณ 4 ปี ได้ครับ ผม 28 ปี ครับ อ้ายน่าจะประมาณ 24 ปี"
ในช่วงเวลาที่เพลงสวยขยี้ใจได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ผู้จัดคอนเสิร์ต เจ้าภาพจัดงานรุมแย่งคิวคอนเสิร์ต แต่บุุ๊ค ตัดสินใจพักรับงาน 3 เดือน เพื่อเก็บเกี่ยวช่วงเวลาอันแสนพิเศษ โดยไม่มีความรู้สึกเสียดายโอกาสโกยเงินโกยทอง
"จริงๆ ผมวางแผนมากับภรรยา ก็ตั้งแต่ตั้งท้องแรกๆ ถ้าใกล้ถึงกำหนดคลอดเมื่อไหร่ ผมก็จะขอทางผู้จัดการฯ หยุดรับงานให้ 3 เดือน ใน 3 เดือนนี้ ผมตั้งใจที่จะมา ดูแลลูกกับภรรยาครับผม
อยู่กับเขา เลี้ยงเขา ทำในสิ่งที่พ่อคนหนึ่งสมควรทำ ผมไม่อยากทิ้งหน้าที่ตรงนี้ ให้กับภรรยาแค่คนเดียว เธอก็เพิ่งผ่าตัดมา ถ้าจะให้เธอ ดูแลคนเดียวก็ จะหนักเธอเกินไป ก็ถูกต้องแล้วครับ ที่เป็นผมอีกแรงต้องได้มาช่วยเธอ"
"ถ้าผมไม่หยุด ลูกเมียเขาจะใช้ชีวิตอยู่ยังไงวะ ถ้าเราแบบไม่มาดูแลเลย ผมจะเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า ที่แบบทิ้งภาระให้อยู่กับเขาคนเดียว ให้เขาแก้ปัญหาอยูู่คนเดียว 3 เดือนนี้มันประเมินเป็นมูลค่าไม่ได้ ไปทัวร์คอนเสิร์ตตามปกติ รับงานปกติ จะกี่ล้านบาท มันก็ซื้อเวลา 3 เดือนที่ผมหยุดนี้ไม่ได้"
"เอาตามความเป็นจริง หยาบๆ เลย เงินก็จำเป็น ไม่มีใครไม่ต้องการมัน เพียงแต่ หนึ่งชีวิตคนเรา ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่เราจะได้เวียนวนมาสัมผัสเรื่องแบบนี้ สำหรับผมนะ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดก็ว่าได้ เป็นความใฝ่ฝันผมด้วยที่อยากจะมีลูกสาว ที่อยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ"
บุ๊ค บอกต่อว่า หลังจากผ่านช่วงพักงาน 3 เดือนไปแล้ว เขาก็จะกลับไปเดินสายคอนเสิร์ต เหมือนเช่นเดิม แต่จะไม่รับงานแน่นเหมือนช่วงที่ยังไม่มีโซ่ทองคล้องใจระหว่างเขากับภรรยา
"ผมฝันมันมาตลอด การที่มีกันและกันอยู่ ณ ตรงนี้ มันย่อมดีกว่า ก็อยากจะทำหน้าที่พ่อ หน้าที่สามี หน้าที่หัวหน้าครอบครัว ให้ดีที่สุด ชีวิตประจำวันทุกวันนี้ก็จะ มีทั้งเลี้ยงลูก เลี้ยงไก่ เลี้ยงวัว พ้นจาก 3 เดือนนี้ไป ก็รับงานปกติ แล้วก็จะจิ้มวันหยุด มาร์ควันหยุด รักษาบาลานซ์เอาไว้ครับ ทำงาน 4-5 วัน แล้วก็ได้กลับมาบ้านหาครอบครัว ก็จะไม่รับแบบให้มันแน่นเต็มเดือน ครอบครัวคือพลังใจ ครอบครัวคือทุกอย่างสำหรับผม"
นักร้องค่ายบังเอิญ มิวสิค บอกทิ้งท้ายการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ ว่า เขาไม่มีความคิดกำหนดกฏเกณฑ์ลูกว่าโตมาต้องเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ และจะไม่ก้าวก่ายการตัดสินใจ แต่จะคอยประคับประคองสอนเขา ให้มีวิธีคิดที่ดี เติบโตขึ้นมากับความสุข
"ผมไม่ได้วางแผนอนาคตลูกเลย ก็คงแล้วแต่เขาจะเลือก ชีวิตเป็นของเขา จะไม่ก้าวก่าย แต่จะประคับประคอง ดีและไม่ดีก็ต้องประคับประคองสอนเขา มีประเด็นนี้เหมือนกันครับ ที่คุยกับภรรยา คุยกับภรรยาว่า เราจะเลี้ยงลูกในเวอร์ชั่นแบบไหน เราอยากให้เขาโตมาเป็นเด็กที่ฉลาด เป็นเด็กที่เก่ง หรือเป็นเด็กประเภทไหน เราต้องอ่านหนังสือให้เขาฟังหรือเปล่า เราต้องนู่นนี่นั่นให้เขาฟังหรือเปล่า"
"สุดท้ายแล้วเรามาตอบ คุยกันเราจึงได้คำตอบออกมาแล้วว่า เราจะเลี้ยงเขายังไงก็ได้ ให้เขาเติบโตขึ้นมาแล้วเป็นเด็กที่มีความสุข เลี้ยงให้เขามีความสุข ผมอยากให้เขาเป็นแบบนั้น อยากให้เขามีความสุข อยากให้เขามีความสุขกับสิ่งที่เขาเลือก เขาจะอยู่ใน สถานะไหน หรือ อาชีพไหน อนาคตยังไง ถ้ามันเป็นความสุขของเขา ผมก็มีความสุขด้วย อยากจะเลี้ยงให้เขามีความสุข ความสุขมันอยู่ที่วิธีคิด อยากจะให้เขามีวิธีคิดที่ดี"
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ