ย้อนเส้นทาง 17 ปี Girls’ Generation จากกลุ่มเด็กสาวสู่ตำนานเกิร์ลกรุ๊ป
เชื่อว่าหลายคนเองก็คงรู้จักกับ “Girls’ Generation” หรือ “โซนยอชิแด” ในฐานะเกิร์ลกรุ๊ปในตำนานอยู่เคียงคู่วงการ K-POP มาหลายสิบปี
อย่างไรก็ตามกว่าที่พวกเธอจะมีชื่อเสียงโด่งดังเช่นทุกวัน ต้องฝ่าฟันหลายอุปสรรค ทั้งความคาดหวังจากผู้คน การแข่งขันในวงการบันเทิง รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของกระแสที่มีอยู่ตลอด
วันนี้เนื่องในโอกาสครบรอบ 17 ปี Sanook Music จึงอยากพาทุกคนมาย้อนดูเส้นทางของ Girls’ Generation ว่าต้องผ่านอะไรมาบ้าง
Girls’ Generation เดบิวต์ในยุคที่เกิร์ลกรุ๊ปไม่ถูกยอมรับ
Girls’ Generation เดบิวต์เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2007 ภายใต้สังกัด SM Entertainment ด้วยเพลง Into The New World โดยมีสมาชิก 9 คน ได้แก่ แทยอน, เจสสิก้า, ซันนี่, ทิฟฟานี่, ฮโยยอน, ยูริ, ซูยอง, ยุนอา และซอฮยอน
การเดบิวต์ของ Girls’ Generation ในยุคนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นประเด็นร้อนในเกาหลีใต้ เนื่องจากเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงแรก ๆ ที่มีจำนวนสมาชิกเยอะถึง 9 คน ซึ่งต่างจากวงอื่น ๆ เช่น FinKL หรือ S.E.S รุ่นพี่ในค่าย ที่มีสมาชิกเพียง 3-4 คนเท่านั้น นอกจากนี้ในขณะนั้นไม่ได้มีเกิร์ลกรุ๊ปเดบิวต์มากเท่ากับบอยแบนด์ จึงทำให้การเดบิวต์ที่เกิดขึ้นเป็นที่จับตามอง และมีหลายฝ่ายที่ไม่พอใจกับการเดบิวต์ที่เกิดขึ้น
ย้อนกลับไปในปี 2008 Girls’ Generation ได้ร่วมแสดงในงาน “Dream Concert” งานที่รวบรวมศิลปิน K-POP ไว้บนเวทีเดียวกัน ซึ่งในขณะที่ Girls’ Generation ขึ้นแสดง ผู้ชมที่ชื่นชอบศิลปินวงอื่นได้ทำการ “Black Ocean” หรือการบอยคอต โดยการปิดแท่งไฟ และไม่ส่งเสียงเชียร์ให้กับพวกเธอ
ทั้ง 9 คน ต้องแสดงเป็นเวลากว่า 10 นาที ท่ามกลางความเงียบของผู้ชม สแตนที่มืดสนิทมีเห็นเพียงแค่แสงสีชมพูไม่กี่ดวงเท่านั้น
นอกจากนี้ในปี 2014 แทยอน หนึ่งในสมาชิกยังได้เผยในรายการ “Healing Camp” ทางช่อง SBS ว่า “ในคอนเสิร์ต SMTown ที่ประเทศจีน เมื่อพวกเธอขึ้นไปแสดง ผู้ชมหลายคนก็นำแท่งไฟมาทำเป็นรูป ‘X’ ในขณะที่ขึ้นแสดง”
การแข่งขันในอุตสาหกรรม K-POP
อย่างที่ทราบกันดีว่าอัตราการแข่งขันในวงการK-POP ค่อนข้างสูง Girls’ Generation กว่าจะมาถึงจุดนี้ก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคนั้นด้วยเช่นกัน โดยต้องเริ่มแข่งขันตั้งแต่ตอนเป็นเด็กฝึกในค่าย SM Entertainment อยู่หลายปีกว่าจะได้เป็น Girls’ Generation ที่เห็นในทุกวันนี้ โดยสมาชิกที่มีจำนวนการฝึกมากที่สุดคือเจสสิก้า ที่ฝึกกว่า 7 ปี
นอกจากนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2008 ขณะพวกเธอชนะรายการเพลง Music Bank ครั้งแรก พวกเธอร้องไห้อย่างหนัก ภายหลังสมาชิกเผยว่าสาเหตุที่ร้องไห้อย่างหนักในครั้งนั้น นอกจากเพราะความดีใจแล้ว ยังมีความรู้สึกอื่นผสมอยู่ด้วย เนื่องจากก่อนหน้าที่พวกเธอจะขึ้นแสดงที่ Music Bank พวกเธอมีงานที่เมืองยออีโด แต่ในขากลับรถติดอย่างมาก พวกเธอจึงตัดสินใจลงจากรถเพื่อวิ่งไปแสดง Music Bank โชคดีที่พวกเธอไปได้ทัน ไม่เช่นนั้นอาจโดนทางรายการแบนได้
ถึงแม้พวกเธอจะเหนื่อยจากการวิ่ง แต่ก็ยังสามารถแสดงเพลง “Kissing U” ได้อย่างไร้ที่ติ ยังคงมีรอยยิ้ม และการเต้นอย่างสดใส มอบความสุขให้กับคนผู้ชมได้
ความสำเร็จของ Girl’s Generation
ความสำเร็จของ Girls’ Generation มีมากมาย และหากให้ไล่เรียงทั้งหมดก็คงนับไม่ถ้วน จึงขอยกเป็นบางส่วนของความสำเร็จทั้งหมด
- Gee: จุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั่วโลกรู้จัก K-POP และ Girls’ Generation มากขึ้น เชื่อได้เลยว่าในปี 2009 ไม่มีใครที่ไม่สามารถร้องเพลงนี้ได้ โดยชนะในรายการเพลง Music Bank ติดต่อกันถึง 9 ครั้ง รวมไปถึง Rolling stone ยกให้เป็น 1 ใน 100 เพลงในประวัติศาสตร์ K-POP
- The Boys: เพลงที่เข้าไปตีตลาดฝั่งตะวันตก โดยมีโอกาสไปโปรโมทเพลงในรายการ Late Show with David Letterman และ Live! with Kelly ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย ซึ่งในเกาหลีอัลบั้มชุดนี้ก็กลายเป็นอัลบั้มยอดขายสูงสุดของปี 2011 พร้อมยอดขายมากกว่า 300,000 ชุด
- I Got a Boy: มียอดดาวโหลดล้านก็อปปี้ในปีนั้น รวมถึงคว้ารางวัล Video of the Year จากงาน YouTube Music Awards 2013 แซงหน้าศิลปินจากฝั่งตะวันตกด้วย
อ่านต่อเพิ่มเติม: 9 ความสำเร็จสุดยิ่งใหญ่ ของ "Girls' Generation" เกิร์ลกรุ๊ปแห่งเอเชีย
ต้นแบบของไอดอลเกาหลี
Girls’ Generation เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของเกิร์ลกรุ๊ป K-POP เลยก็ว่าได้ จะสังเกตได้ว่าสำหรับเกิร์ลกรุ๊ปที่เพิ่งเดบิวต์ใหม่ ๆ ส่วนใหญ่มักนำเพลง Into the New World มา cover อยู่เสมอ ไม่ว่าจะรุ่นไหนก็ต้องผ่านการเต้นเพลงนี้มาทั้งนั้น
นอกจากนี้ Girls’ Generation ยังเป็นผู้ริเริ่มการมิกซ์เพลงหลายสไตล์ลงในเพลงเดียวกัน อย่างเพลง I Got a Boy ซึ่งช่วงแรกที่ออกมาแฟนหลายคนถึงแอบมึนกับจังหวะที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จึงทำให้มีทั้งฝั่งที่ชอบเพลงแนวใหม่นี้และฝั่งที่ไม่ชอบ อย่างไรก็ตามปัจจุบันจะสังเกตได้ว่ามีมีการมิกซ์เพลงลักษณะเดียวกันนี้อยู่หลายวง
Girls’ Generation กับการเปลี่ยนแปลง
ในปี 2014 SM Entertainment ได้ออกมาประกาศว่า เจสสิก้าจะออกจากวง และ Girls’ Generation จะดำเนินกิจกรรมต่อไปด้วยสมาชิก 8 คน ซึ่งหลังจากที่โซวอน (ชื่อแฟนคลับ) หลายคนได้ยินข่าวนี้ก็รู้สึกช็อกและเสียใจไปตาม ๆ กัน
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แต่โซวอนก็ยังให้ความรักและการสนับสนุน Girls’ Generation และเจสสิก้าต่อไป จนถึงปัจจุบัน
เดินเส้นทางใหม่ แต่ Girls’ Generation ตลอดไป
เข้าสู่ปีที่ 10 ของ Girls Generation สมาชิกเริ่มมีความอยากที่จะโฟกัสไปในด้านอื่น ๆ ของอุตสาหกรรมบันเทิง โดยมีทั้งการแสดง การเล่นละครเวที ทำให้สมาชิกบางคนเลือกที่จะยุติสัญญากับค่าย SM Entertainment อย่างไรก็ตามการยุติสัญญาครั้งนี้ไม่ได้หมายถึงการออกจากวง สมาชิกทั้ง 8 ยังคงเป็น Girls’ Generation ตลอดไป
ซึ่งบทพิสูจน์ที่ทำให้เห็นว่า “ออกจากค่าย ≠ ออกจากวง” คือเมื่อปี 2022 Girls’ Generation ได้ปล่อยเพลง “Forever 1” และขึ้นแสดงบนรายการเพลง จัดแฟนมีตครบอ 15 ปี รวมถึงคอนเสิร์ต SMTown ซึ่งการกลับมาในรอบ 5 ปีนี้ ทำเอาแฟนคลับต่างปลื้มปริ่ม รวมถึงตัวศิลปินเองด้วยเช่นกัน อย่างบนเวทีคอนเสิร์ต SMTOWN LIVE 2022 : SMCU EXPRESS @ HUMAN CITY ที่ SUWON ขณะที่แสดงเพลง “Forever 1” ฮโยยอนก็เกิดความรู้สึกปลื้มปริ่มจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
สำหรับปีนี้ (2024) เพื่อฉลองครบรอบ 17 ปี ยูริได้ปล่อย Vlog เซอร์ไพรส์แฟน ๆ โดยในคลิปเป็นทริปบาลี เนื่องในวันเกิดทิฟฟานี่ ถึงในครั้งนี้ถึงซันนี่จะไม่ได้ไปด้วย แต่แฟน ๆ ก็ต่างดีใจที่ได้เห็น Girls’ Generation อยู่ด้วยกันอีกครั้ง
ทั้งหมดนี้พิสูจน์ได้จริง ๆ ว่าประโยค “ชีกึมมึน โซนยอชิแด , อาพือโรโด โซนยอชิแด , ยองวอนฮี โซนยอชิแด” (วันนี้ก็โซนยอชิแด , พรุ่งนี้ก็โซนยอชิแด , โซนยอชิแดตลอดไป) ไม่ได้เป็นเพียงแต่สโลแกน แต่ยังเป็นสิ่งที่สาว ๆ ยึดมั่น ทำได้จริง ๆ และเราเชื่อว่าโซวอนหลายๆ คนก็คงอยากบอกสาวๆ ด้วยเช่นกันว่า ไม่ว่าวันไหน ๆ ก็ขอเป็นโซวอนตลอดไป
อ่านเพิ่มเติม: